ความนิยม 9
เราเป็นตัวของตัวเอง
หลายคนไม่เข้าใจคำว่า "การเป็นตัวของตัวเอง" ว่าเป็นอย่างไร บางคนอาจเข้าใจผิดไปว่า การได้ทำอะไรตามอำเภอใจตนเอง ไม่ขึ้นอยู่ในอำนาจของใคร ไม่ต้องฟังคำสั่งใคร คือ การได้เป็นตัวของตัวเองแล้ว หรือ บางคนอาจเข้าใจผิดไปว่า การได้มีอิสระ ไปไหนมาไหนได้ โดยไม่ต้องห่วงใคร ไม่ต้องคอยรายงานใคร คือการได้เป็นตัวของตัวเอง
จริงๆแล้ว เพียงการมีอิสรภาพทางกาย ก็ยังไม่ใช่ การได้เป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริงเลย
จะรู้ได้อย่างไรว่า เราเป็นตัวของตัวเองหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน มีวิธีตรวจสอบได้ดังนี้
1. ค้นหาตัวเองให้พบก่อนว่า เราเป็นคนอย่างไร ใจเย็น หรือ ใจร้อน มีอารมณ์ดีอยู่เสมอ หรือ ขี้รำคาญ หงุดหงิดง่าย ใจกว้าง หรือ ใจแคบ รักความสงบ หรือ ชอบสนุกสนาน ขยัน หรือ เกียจคร้าน สร้างสรรค์ หรือ ก้าวร้าว เข้มแข็ง หรืออ่อนแอ กล้าหาญ หรือ ขลาดกลัว ทะเยอทะยาน หรือ เฉื่อยแฉะ รอบคอบ หรือ สะเพร่า ฯลฯ ถ้าสิ่งใดที่เป็นข้อเสีย เราควรปรับปรุงและพัฒนาตนเอง
เราต้องรู้ด้วยว่า เราเป็นคนอย่างไร มีรสนิยมอย่างไร ต้องการสิ่งใด ปรารถนาสิ่งใด ชอบหรือไม่ชอบอะไร อยากได้อะไร และ ไม่อยากได้อะไร
2. เมื่อรู้ข้อดี ข้อเสียของตนเองแล้ว ก็ต้องเข้าใจตนเอง ว่าสิ่งใดที่เรามีนั้น เป็นสิ่่งที่ดี ควรรักษาไว้ และสิ่งใดที่ไม่ดี เป็นข้อเสียที่เราควรปรับปรุงตัวเอง ถ้าปรับปรุงไม่ได้ เราก็ต้องยอมรับว่า ตัวเรา มีข้อดีอะไร และ ข้อเสียอะไรที่แก้ไม่ได้
3. ในเมื่อเรารู้จักตัวเราดีแล้ว เราคงไม่หวั่นไหวว่า ใครเขาจะ "หาว่า" เราเป็นคนอย่างไร เราคงไม่สะทกสะท้านว่า อาจมีใครนินทาเรา อย่างนั้น อย่างนี้ อาจมีใครวิจารณ์เรา ว่าเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ เพราะเรามีวิจารณญาณของเราเองได้ ว่าเราเป็นคนอย่างไร และทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำนั้น เราทำไปเพื่ออะไร ทำไปเพราะเหตุใด เราเองต่างหาก ที่เป็นคนกำหนด และ ตัดสินใจ ในการกระทำทุกอย่างของเรา
4. เราต้องเป็นคนจริงใจ และ ยอมรับความจริง ถ้าเราไม่ได้ร่ำรวยมีเงินมากมาย เราก็ไม่จำเป็นต้องพยายามหลอกตัวเองหรือคนอื่นว่าเรามีฐานะร่ำรวย ถ้าเรามีรายได้น้อย ต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด เราก็บอกใครๆได้อย่างหน้าชื่นตาบานว่า เราไม่สามารถใช้เงินฟุ่มเฟือยได้ นี่คือการจริงใจต่อตนเอง และ ยอมรับความจริง
5. รู้จักปล่อยวาง และ ไม่วิตกกังวล เกี่ยวกับเรื่องไม่ดีที่อาจเกิดขึ้นได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ต่างๆรอบตัวเรา ไม่ต้องกังวลว่า เราอาจเดินสะดุดหกล้ม หน้าคะมำ แล้วอายใครๆเขา ถ้าเราเดินสะดุดหกล้ม หน้าคะมำ เราก็มองให้เป็นเรื่องขำๆไปได้ เพราะบางครั้ง คนเราก็อาจซุ่มซ่ามได้
6. พัฒนาคุณสมบัติเฉพาะตัวของเรา และ แสดงออกให้คนอื่นรู้ว่า เรามีเอกลักษณ์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบุคลิกภาพ ท่าทางการพูด หรือวิธีการคิด ถ้าเราชอบที่จะเป็นตัวของตัวเอง พูดตามแบบที่เราอยากพูด วางตัว อย่างที่เราอยากเป็น มีวิธีการคิด อย่างที่เราต้องการจะคิด โดยแตกต่างไปจากคนส่วนมาก หรือ ไม่ตามกระแส เราก็ควรจะภูมิใจ ที่เรามีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
7. ผ่านไปแต่ละวันอย่างมีคุณค่า แม้ว่าบางวันอาจมีเรื่องไม่น่ายินดี เราอาจมีเรื่องเบื่อหรือเซ็ง เราก็สามารถทำใจได้ และ บอกกับตัวเองว่า ช่างเถอะนะ ไม่เป็นไรน่า ไม่จำเป็นต้องอารมณ์บูดไปทั้งวัน แล้วเราจะชื่นชมกับตัวเองได้ทุกวัน
8. เราต้องเชื่อมั่นในตัวเรา เป็นตัวของเราเอง โดยไม่พยายามลอกเลียนแบบใคร เราไม่จำเป็นต้องเหมือนใครเลย ถ้าเราอยากที่จะเป็นอย่างคนนั้นคนนี้ เราจะเป็นคนที่ไม่มีความสุขได้เลย เราต้องภูมิใจที่ได้เป็นตัวของเราเอง ตัวเรา ที่ไม่เหมือนใคร
ข้อควรระวัง
1. การเป็นตัวของตัวเอง แตกต่างจากการเป็นคนยะโสโอหัง จองหองอวดดี เย่อหยิ่งถือตัว ในเมื่อเราก็เป็นตัวของเราเอง คนอื่นเขาก็เป็นตัวของเขาเองเช่นกัน ฉะนั้น เราจึงควรยอมรับความคิดเห็น และยอมรับในความแตกต่างระหว่างบุคคลด้วย โดยที่เราไม่ต้องไปดูถูกเหยียดหยามใครที่เขามีความคิดเห็นไม่ตรงกับเรา
2. การเป็นตัวของตัวเอง อาจทำให้เราไม่ตามกระแสนิยม ไม่ว่าใครจะมีกระแสนิยมว่าอย่างไร เราก็ไม่จำเป็นต้องเห็นดีเห็นงามไปด้วย ถ้าเราไม่ได้รู้สึกเห็นดีเห็นงามไปด้วยจริงๆ
3. ชีวิตจะไม่มีค่าอะไร จนกว่า เราจะได้รู้ว่า เราสามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างแท้จริง มีอิสระทางความคิดและการกระทำ ที่มาจากตัวเราเอง
4. ถ้าเราไม่เห็นด้วย กับสิ่งที่คนอื่นพูด เราไม่จำเป็นต้องเสแสร้งว่า เราเห็นด้วยกับเขา
5. จงอย่ากลัว ที่จะเป็นตัวของตัวเอง ถ้าเราไม่ได้มีความสนใจ ในสิ่งที่ใครๆเขาสนใจกัน เราก็ยืนหยัด เป็นตัวของตัวเองได้ แล้วใครๆก็จะรู้ว่า เราเป็นตัวของตัวเอง ไม่คล้อยตามคนอื่นโดยง่าย
คำเตือน
1. การที่เราไม่หวั่นไหวว่าใครเขาจะ "หาว่า" เราเป็นคนเช่นไร ก็ไม่ได้หมายความว่า เราไม่ควรจะรับรู้เอาเสียเลยว่าคนอื่นเขามองเราอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกรณีที่อาจมีการเข้าใจผิดในตัวเราได้ ยกตัวอย่างเช่น สาวๆที่ชอบให้ความเป็นมิตรกับใครๆ แต่ถ้าให้ความเป็นมิตรสนิทสนมกับหนุ่มๆมากเกินไป ก็อาจทำให้เกิดการเข้าใจผิดได้ว่า เป็นการหว่านเสน่ห์ หรือ ทอดสะพาน และอาจสร้างปัญหาให้กับตัวเองได้
2. ถ้าเราอยู่ในกลุ่มเพื่อน ก็อย่าให้สูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง ด้วยการเอาอย่างเพื่อนๆ เราต้องเป็นตัวของตัวเองเสมอ อย่าพยายามเสแสร้งว่าเราเหมือนเขา เพียงเพื่อเอาใจ หรืออยากให้เขาชอบเรา เพราะนั่นคือการหลอกตัวเอง และหลอกคนอื่น
3. จงจำไว้เสมอว่า การเป็นตัวของตัวเอง ไม่ได้เป็นสิ่งที่ต้องทำเสมอไป ยกตัวอย่างเช่น คนที่เป็นคนเหี้ยมโหดอำมหิต เขาควรจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้เป็นคนดีมีศีลธรรม ไม่ดึงดันที่จะเป็นคนเหี้ยมโหดอำมหิตต่อไปอีก หรือ การที่เราอยู่ในสังคม การเป็นตัวของตัวเอง ต้องอยู่ในขอบเขตที่ไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของใคร ต้องไม่ผิดกฏหมายและไม่ผิดศีลธรรมอันดี
4. ก็เพราะว่า ไม่มีใครในโลกนี้ที่สมบูรณ์แบบ เราเอง อาจมีข้อเสียอยู่บ้าง เช่น ถ้าเราเป็นคนขี้หงุดหงิด โกรธง่าย ใจร้อน เราเองก็ควรจะหาหนทางปรับปรุงตัวเองด้วย ไม่ใช่ดันทุรังจะเป็นตัวของตัวเองในแบบมีข้อเสีย บางสิ่งบางอย่าง เราก็ต้องรู้จักฟังจากคนอื่นบ้าง ถ้าเป็นเรื่องที่เราต้องปรับปรุงตัวเอง เราควรทำ
เขินอ่ะ |
อะไรก็ไม่รู้ |
4
เห็นด้วยๆ |
1
ซึ้งจังเลย |
ขำฮาตรึม |