|||
การมีหุ่นเฟิร์มกระชับบวกกับผิวที่ดูเรียบเนียนไม่ว่าอายุจะผ่านไปสักกี่ปี ถือเป็นสิ่งที่ใครๆก็ปรารารถนากันใช่มั้ยหละคะ เพราะหากยิ่งเรามีไขมันส่วนเกินสะสมไว้นานวันก็จะยิ่งกำจัดออกยากด้วยวิธีธรรมชาติอย่างการออกกำลังกายหรือการคุมอาหาร แถมจะปวดหัวไปกันใหญ่ถ้ามีปัญหาด้านผิวหนังหย่อนคล้อยร่วมด้วย ดังนั้นเราจึงควรจัดการปัญหานี้แต่เนิ่นๆ หลายคนอาจเคยได้ยินโปรแกรมการกำจัดไขมันอย่างเมโสแฟตและการดูดไขมันมาบ้างแล้ว บทความนี้จะพามารู้จัก 2 โปรแกรมนี้ให้ลึกยิ่งขึ้นว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร และเลือกตัวไหนให้เหมาะกับเรากันค่ะ
เมโสแฟต (Mesotherapy) คืออะไร?
เมโสแฟต เป็นเทคนิคการกำจัดไขมันแบบไม่ต้องผ่าตัด ถูกคิดค้นในประเทศฝรั่งเศสและแพร่หลายในปี 1987 เมโสแฟตใช้เพียงการฉีดเพื่อนำเข้าตัวยาเข้าสู่ชั้นผิว มีตัวยาสำคัญ 4 ตัวด้วยกัน ได้แก่
Mesostabyl ทำหน้าที่ลดการสร้างไตรกลีเซอไรด์หรือไขมันที่ถูกสร้างขึ้นในตับเพื่อสำรองพลังงานในร่างกาย แต่หากมีมากเกินไปก็จะเป็นอันตรายต่ออวัยวะภายใน รวมไปถึงยับยั้งการสร้างคอลเลสเตอรอลในชั้นเนื้อเยื่อ
L-carnitine กระตุ้นให้ร่างกายดึงไขมันมาสร้างเป็นพลังงานได้มากขึ้น ช่วยสลายกรดไขมันและลดการสะสมของไขมัน
Artichoke Extract สารสกัดจากพืชฝั่งยุโรปและเมืองหนาว ช่วยในการกระตุ้น coenyme ลดการสร้างกรดไขมัน สำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด
Tyrosine ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมัน ทำให้ไขมันแตกตัว และถูกขับออกในที่สุด
เมโสแฟตทำงานอย่างไร?
หลักการทำงานของเมโสแฟตจะแบ่งเป็น 3 ขั้นหลักๆ คือการที่ตัวยาเข้าไปทำให้ไขมันก้อนใหญ่ที่เกาะตามผนังเนื้อเยื่อแตกตัว สลายตัวเล็กลง และถูกขับออกได้เองทางระบบขับถ่ายของร่างกายในที่สุด ไม่ทิ้งเป็นก้อนแข็งในร่างกาย ทั้งนี้ตัวยายังเข้าไปช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันที่เหลือสร้างเป็นพลังงาน
หลังจากรู้จักเมโสแฟตไปแล้วทีนี้มาทำความรู้จักกับการดูดไขมันกันบ้างค่ะ
การดูดไขมัน (Liposuction) คืออะไร?
การดูดไขมัน เป็นการศัลยกรรมโดยการใช้ท่อสอดเข้าไปในใต้ผิวหนัง เพื่อดูดไขมันส่วนเกินที่ไม่ต้องการออกมาจากร่างกายตามบริเวณจุดต่างๆ จึงทำให้สัดส่วนดูเล็กลง การดูดไขมันมีทั้งแบบวางยาสลบและแบบยาชาทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเครื่องที่ใช้ดูดและการประเมินร่างกายของแพทย์และคนไข้ ทั้งนี้เครื่องดูดไขมันก็ถูกออกแบบมาหลายแบบเช่นกัน ได้แก่ แบบดั้งเดิม แบบพลังงานน้ำ (Bodyjet) พลังงานอัลตร้าซาวด์ (Vaser) และคลื่นความถี่วิทยุ
การดูดไขมันทำงานอย่างไร?
เริ่มจากการกำหนดตำแหน่งที่ต้องการดูด สอดท่อเข้าใต้ชั้นผิวหนังหากเป็นแบบดั้งเดิมจะเป็นการใช้มือกระทุ้งให้ไขมันแตกตัว แต่การดูดไขมัน body jet จะใช้เเทคโนโลยีแรงดันน้ำฉีดพ่นน้ำพร้อมกับการดูดออก เพื่อช่วยถนอมเนื้อเยื่อบริเวณนั้นรวมทั้งจะได้เซลล์ไขมันที่สมบูรณ์นำไปเติมเต็มส่วนที่ต้องการอื่นๆได้ ในขณะที่แบบคลื่นอัลตราซาวด์จะเข้าไปสลายไขมันให้กลายเป็นของเหลวจึงดูดออก