จะลงทุนจัดฟันใสทั้งที ไม่ใช่ที่ไหนก็ได้ เลือกคลินิกอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ

การดูแลรักษาสุขภาพฟันให้ดีอยู่เสมอ ไม่เพียงจะเสริมสร้างฟันให้แข็งแรง ยังเป็นหน้าด่านที่ช่วยทำให้ระบบในร่างกายส่วนอื่นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การลงทุนในเรื่องทันตกรรมจึงถือเป็นความยั่งยืนในระยะยาว ในปัจจุบันการจัดฟันใสถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางและเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาฟัน แต่ไม่ต้องการให้เห็นอุปกรณ์เพื่อภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ การจัดฟันใสถูกออกแบบมาโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อแก้ไขปัญหาทันตกรรมตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงซับซ้อน รวมทั้งลดจุดบกพร่องของการรักษาแบบดั้งเดิมไม่ว่าจะเป็นระยะเวลารักษา การถอดเครื่องมือเข้าออกได้ ลดปัญหาการออกเสียง และการทำความสะอาดที่ง่ายขึ้น จึงทำให้การจัดฟันใสมีค่าใช้จ่ายที่แพงกว่าแบบอื่น แน่นอนว่าการจะลงทุนเงินสักก้อนทั้งทีเราต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือการเลือกคลินิกจัดฟันใสที่ใช่ บทความนี้ได้สรุปเคล็ด(ไม่)ลับการเลือกคลินิกจัดฟันแบบใสให้ปังแบบครบจบที่นี่

1.ทันตแพทย์ VS ทันตแพทย์จัดฟัน

อันดับแรกต้องเข้าใจก่อนว่า ทันตแพทย์และทันตแพทย์จัดฟันไม่เหมือนกัน โดยทั่วไปคลินิกทันตกรรมจะให้บริการการรักษาหลายด้านไม่ว่าจะเป็น การถอน-อุดฟัน การรักษารากฟัน การฟอกสีฟัน แต่ศาสตร์การจัดฟันเป็นแขนงวิชาเฉพาะด้านที่ผู้เชี่ยวชาญต้องผ่านการเทรนนิ่งด้านนี้มาโดยตรง ดังนั้นทันตแพทย์ คือแพทย์ที่รักษาด้านทันตกรรมทั่วไป ในขณะที่การจัดฟันต้องอยู่ภายใต้การดูแลของทันตแพทย์จัดฟันเท่านั้น อาจมีการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับแพทย์ผู้ทำการรักษาก่อนตัดสินใจซื้อโปรแกรม

2.ระดับความเชี่ยวชาญ

การจัดฟันใสมีการจัดอันดับความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้มีประสบการณ์ทำการรักษา Invisalign โดยเฉพาะ ตั้งแต่ระดับ Bronze ถึง Diamond แพทย์ในระดับ Platinum และ Diamond ถือเป็นกลุ่มเชี่ยวชาญสูงสุด 1% จากทั่วโลก ที่สามารถรับมือกับปัญหาในการจัดฟันได้อย่างครอบคลุม 

ดังนั้นสามารถใช้ระดับความเชี่ยวชาญของแพทย์ประจำสถานบริการประกอบการพิจารณาคลินิกที่ใช้บริการ

3.ใช้เทคโนโลยีทันสมัย

ไม่ใช่การจัดฟันใสทุกที่จะใช้นวัตกรรมล้ำสมัย เทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยสร้างความแม่นยำในการรักษา รวมถึงทำให้การรักษาเป็นไปตามแผน ส่งมอบผลลัพธ์ที่คาดหวังได้ เช่น การใช้ 3D Scanner สร้างภาพจำลองโครงสร้างฟัน การมี SmartTrack ช่วยเตือนการใส่อุปกรณ์ และ SmartForce ควบคุมการเคลื่อนตัวของฟัน

4.ดูแลอย่างใกล้ชิด
หลายธุรกิจเริ่มใช้ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางกำหนดกลยุทธ์การค้า ในวงการจัดฟันเองก็มีการให้ข้อเสนอบริการส่งชิ้นอุปกรณ์ถึงบ้าน ที่ดึงดูดลูกค้าที่ต้องการจ่ายเพื่อซื้อความสะดวกสบายที่สุด แต่ความจริงแล้วการจะรักษาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด คนไข้ควรพบแพทย์แบบตัวต่อตัวที่คลินิก เพื่อให้แพทย์ช่วยตรวจดูความก้าวหน้าการเคลื่อนตัวของฟัน โดยเฉพาะในกรณีที่อุปกรณ์ไม่พอดีกับฟันอาจยิ่งทำให้การรักษาล่าช้ายิ่งขึ้น

5.โปร่งใส

คลินิกที่ดีควรมีความซื่อสัตย์ต่อผู้ใช้บริการ การแจ้งข้อมูลที่ผู้ป่วยจำเป็นต้องรู้ รวมทั้งค่ารักษาที่ชัดเจนตรงไปตรงมา ให้คำปรึกษาอย่างจริงใจ เป็นจรรยาบรรณสำคัญในวงการแพทย์ที่ควรยึดถือ โดยปกติแล้วการปรึกษาพูดคุยครั้งแรกมักไม่เสียค่าใช้จ่าย เราสามารถเข้าไปพูดคุยกับแพทย์โดยตรงเพื่อให้แน่ใจว่าได้รับข้อมูลที่ต้องการ และประกอบการตัดสินใจในเบื้องต้นว่าเราสามารถคาดหวังที่จะได้รับประสบการณ์ที่ดีในการรักษา

สรุป

จะเห็นได้ว่าการจัดฟันใสไม่ใช่แค่เทรนด์ฮิตติดกระแสที่นิยมในหมู่ดาราเซเลบ แต่การรักษามีรายละเอียดยิบย่อย ควรมีการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วนประกอบการตัดสินใจ เพราะไม่เพียงแค่เพื่อผลลัพธ์เป็นรอยยิ้มที่สดใสให้อยู่คู่กับเราในระยะยาว แต่ยังรวมถึงความคุ้มค่าด้านเวลา ค่าใช้จ่าย และประสบการณ์ที่ได้