บล็อก

5 เทคนิคเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจของคุณในยุคดิจิทัล

ความนิยม 1เข้าชม/อ่าน 1548 ครั้ง2022-10-19 13:13 |เลือกหมวดหมู่:พัฒนาธุรกิจ|หมวดหมู่ของระบบ:วัยรุ่นเซ็ง| อีคอมเมิร์ซ, E-commerce Platform, E-commerce, ธุรกิจออนไลน์


หลังจากผ่านจุดวิกฤตของการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เป็นตัวเร่งสำคัญให้สังคมยุคใหม่เข้าสู่วิถีชีวิตดิจิทัลแบบเต็มตัวมากขึ้น การดำเนินกิจวัตรประจำวันแบบ new normal ถือเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ของผู้คน กำลังรวมถึงธุรกิจน้อยใหญ่ต่างเร่งรุดในการพัฒนาตัวเองให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง เมื่อการใช้กลยุทธ์ทางการค้าแบบเดิมอาจไม่ตอบโจทย์ผู้คนอีกต่อไป อุตสาหกรรมส่วนใหญ่จึงต้องผลักดันตัวเองเข้าสู่การดำเนินธุรกิจแบบออนไลน์ การซื้อขายบนอินเทอเนตหรืออีคอมเมิร์ซ (E-commerce) อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ใครที่กำลังจับต้นชนปลายไม่ถูก นี่คือ 5 เทคนิคในการเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจของคุณในยุคดิจิทัลแบบเข้าใจง่ายทำเองได้มาฝากกัน

1.สร้างหน้าร้านออนไลน์

การเริ่มต้นที่ง่ายที่สุดในการปรับตัวเข้าสู่ตลาดดิจิทัลคือการเปิดหน้าร้านออนไลน์ให้ผู้ใช้งาน (User)ในสังคมไซเบอร์สามารถเข้าถึงและจับจ่ายสินค้าของคุณได้ ในปัจจุบันมี E-commerce platform รายใหญ่หลายเจ้าที่รวมร้านค้าปลีกต่างๆไปจนแบรนด์ดังเอาไว้ในที่เดียว พร้อมฐานลูกค้าท้องถิ่นให้คุณเปิดบัญชีเพื่อสร้างหน้าร้านออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามการฝากธุรกิจไว้ภายใต้ต้นไม้ใหญ่ย่อมมีข้อจำกัดหลายประการตามนโยบายของแต่ละแพลทฟอร์ม การมีหน้าร้านออนไลน์ที่เป็นเว็บไซต์ E-commerce จึงเสมือนการลงทุนสร้างบ้านของตนเองในระยะยาว ที่ถึงแม้จะมีต้นทุนสูงกว่า แต่ง่ายต่อการปรับขยายต่อเติมให้รองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต รวมถึงอิสระในการทำโฆษณาโปรโมทสินค้าเพื่อเข้าถึงฐานลูกค้าใหม่อย่างไร้พรมแดนแม้อยู่อีกซีกโลก

2.ใช้โซเชียลมีเดียในการสื่อสาร

โซเชียลมีเดียแพลทฟอร์มสังคมออนไลน์อย่าง Facebook Instagram Youtube Twitter หรือน้องใหม่ที่มาแรงที่สุดในยุคนี้คงหนีไม่พ้น TikTok ไม่เพียงมีประโยชน์แค่ในด้านความบันเทิงเท่านั้น การใช้สื่อเหล่านี้เป็นช่องทางการสื่อสารกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลความรู้ที่เกี่ยวกับตัวสินค้าและแนะนำโปรโมชั่นต่างๆ รวมไปถึงการใช้เป็นอีกช่องทางช่วยขายก็ยิ่งสร้างยอดได้อีกทางหนึ่ง ศึกษาจุดเด่นจุดด้อยของแต่ละแพลทฟอร์มเพื่อสร้างตัวตน (Branding) ให้สอดคล้องกับสื่อนั้นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3.ผลิตคอนเทนต์คุณภาพ

“Content is the King” คือประโยคแห่งยุคของ Bill Gates ผู้ก่อตั้ง Microsoft บริษัทซอฟแวร์ยักษ์ใหญ่ของโลก ซึ่งการสร้างคอนเทนต์หรือเนื้อหาให้ส่งผลดีกับธุรกิจไม่ใช่เพียงการผลิตออกมาจำนวนมาก แต่ต้องเป็นคอนเทนต์ที่มีคุณภาพที่ส่งเสริมมูลค่าให้กับสินค้าของคุณ การวางแผนผลิตคอนเทนต์อย่างมีเป้าหมายจะช่วยผลักดันให้ธุรกิจเติบโตขึ้น เช่น การผลิตคอนเทนต์ให้ความรู้ การแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันของผู้คน เพื่อให้ลูกค้ารู้จักธุรกิจของเรา (Brand Awareness) เน้นการรับรู้หรือมีส่วนร่วมต่อแบรนด์เพื่อเปลี่ยนเป็นยอดขายในขั้นต่อไป

4.ใช้ข้อมูลเป็นตัวช่วยขับเคลื่อน

การใช้ข้อมูลเชิงลึกและตรวจสอบการกระทำกิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นในพื้นที่ออนไลน์ของเราไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียล้วนเป็นตัวช่วยสำคัญในการวางแผนกลยุทธ์การค้าแบบก้าวหน้า (Active Planning) เพราะการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอาจเกิดจากการรวมกันของทั้งปัจจัยภายในเช่น พฤติกรรม ความชอบ ปัญหาส่วนตัว และภายนอกอย่างกระแสสังคม สิ่งแวดล้อมรอบตัว การทำความรู้จักกับลูกค้าจากข้อมูลที่ได้จากแต่ละแพลทฟอร์มจะช่วยให้เราปรับปรุงธุรกิจและสร้างยอดขายออนไลน์ให้ดีขึ้น

5.มีระบบสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า

หลังจากที่ลูกค้าได้ใช้จ่ายซื้อสินค้าแล้วเรียบร้อย นั่นไม่ได้การันตีว่าธุรกิจของคุณจะประสบความสำเร็จในระยะยาว แต่ความยั่งยืนของธุรกิจคือความสามารถในรักษาฐานลูกค้าเดิมให้กลับมาซื้อซ้ำและขยานฐานลูกค้าใหม่ให้เติบโตขึ้น จึงจำเป็นต้องสร้างระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าที่เรียกว่า Customer Relationtip Managent (CRM) คอยดูแลส่งเสริมลูกค้าให้เกิดความพึงพอใจ มีความซื่อสัตย์ต่อแบรนด์กลับมาซื้อซ้ำต่อเนื่อง เช่น การทำระบบสมาชิก ระบบสะสมแต้ม โปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า



เขินอ่ะ

อะไรก็ไม่รู้

เห็นด้วยๆ
1

ซึ้งจังเลย

ขำฮาตรึม

มีผู้แสดงความรู้สึก (1 คน)

ความคิดเห็น (0 ความคิดเห็น)

facelist doodle วาดภาพ

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

Thitipon ID 55957

  • อันดับ
    Level.2
  • เครดิต
    346
  • เครดิต
    346
  • เงินยูโร
    1214000
  • จิตพิสัย
    92600
  • ทอง
    890
TOP