ยังไม่ได้เช็คอิน

2

กระทู้

4

โพสต์

160

เครดิต

Level.1

Rank: 1

เครดิต
160

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 53%

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Nuttakorn เมื่อ 2020-12-25 14:52




"เริมเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งโดยจะมีแผลอักเสบเป็นตุ่มใสเล็กๆ รู้สึกปวดแสบปวดร้อน สามารถติดต่อผ่านทางน้ำลาย สารคัดหลั่ง สัมผัสแผลผู้ป่วย เพศสัมพันธ์ หรือใช้สิ่งของร่วมกันกับผู้ป่วย"
เริมคือ ?
เริมคือเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า Herpes simplex virus หรือเราจะเรียกสั้นๆ ว่า HSV จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด
คือ Herpes simplex virus 1 (HSV 1) ทำให้โรค เริมที่ปาก และ Herpes simplex virus (HSV 2) ทำให้เกิดโรคเริมที่อวัยวะเพศ หากเป็น โรคนี้แล้วจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ถึงแผลจะหายดีแล้วก็ตามไวรัสก็จะฝังอยู่ที่ปมประสาท เมื่อร่างกายอ่อนแอ โรคนี้ก็จะกลับมาเป็นอีกครั้ง



เริมที่ปากติดต่อกันอย่างไร ?
เริมสามารถติดต่อได้ผ่านการสัมผัสเชื้อโดยตรง จากแผล จากตุ่มพอง จากน้ำลาย และการมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนั้นการใช้ของอื่นๆ เช่น แก้วน้ำ เสื้อผ้า ช้อนส้อม ร่วมกับผู้ป่วยที่เป็นโรคเริม ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ติดเชื้อได้เช่นกัน


อาการของเริมที่ปาก
  • เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกาย เชื้อไวรัสจะใช้เวลา 2-12 วัน ในการฟักตัว
  • เป็นแผลบวมแดง มีตุ่มพองมีน้ำใส ๆ และรู้สึกคัน ขึ้นบริเวณริมฝีปาก
  • มีไข้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว
  • มีอาการปวดหรืออักเสบ
  • แผลจะแห้งตกสะเก็ดและหายไปเอง 7 -10 วัน
สาเหตุที่ทำให้เริมกลับมาเป็นซ้ำ ๆ
เมื่อ ร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันต่ำ เครียด นอนดึก การพักผ่อนไม่เพียงพอ โรคเริมก็จะกลับมากำเริบอีกเรื่อยๆ หากรักษาสุขภาพให้แข็งแรงโรคนี้ก็จะไม่กลับมาเป็นบ่อย ซึ่งโรคเริมมักจะเป็นอยู่ประมาณ7-10 วัน แล้วแผลก็ตกสะเก็ดแห้งหลุดไปเอง




การรักษาเริมที่ปาก
  • หมั่นรักษาความสะอาดบริเวณที่เป็นแผล
  • ทายาเป็นประจำ จะทำให้แผลแห้งและหายเร็ว
  • ยาต้านไวรัส เช่น อะไซโคลเวียร์ แฟมซิโคลเวียร์ และวาลาซิโคลเวียร์ มีทั้งชนิดกินและฉีด
**การใช้ยาในการรักษาเริมที่ปาก ควรเป็นไปตามที่แพทย์กำหนดและควรรับคำปรึกษาจากแพทย์**
การป้องกันเริมที่ปาก
  • ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์
  • ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย เพราะมีโอกาสติดเริมและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ
  • ทำร่างกายให้แข็งแรง ไม่เครียด หากภูมิต้านทานร่างกายดี โอกาสติดเริมที่ปากก็จะลดลง
  • หากมีแผลเริมหรือเคยมีเชื้อเริม ต้องระวังการสัมผัสเพราะอาจแพร่เชื้อไปติดผู้อื่นได้
  • Oralsexทุกครั้งควรใช้ถุงยางอนามัย
  • งานวิจัยหลายที่ยืนยันว่า การขริบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายช่วยลดการติดเชื้อเริมที่อวัยวะเพศได้
สรุป
ในปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคเริมให้หายขาด แต่เราสามารถดูแลตัวเองให้สุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ ออกกำลังกายเป็นประจำ พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงปัจจัยอื่นที่จะทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลง ฉะนั้นทางที่ดีที่สุดก็ควรที่จะรักษาสุขภาพของเราให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพราะเมื่อร่างกายของเราแข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นโรคเริม หรือโรคอะไรก็ไม่สามารถมาทำร้ายเราได้แน่นอน

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก

x
กระทู้ตอบกลับ
โพสต์เก่าขึ้นก่อน

977ดู2ตอบกลับ

เช็คอินสะสม: 182 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 4 วัน

890

กระทู้

1206

โพสต์

1 หมื่น

เครดิต

Level.11

Rank: 11Rank: 11Rank: 11Rank: 11

เครดิต
11725

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 91%

chayapon 2022-4-10 12:41:16
ขอบคุณ
เช็คอินสะสม: 97 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 1 วัน

0

กระทู้

383

โพสต์

1032

เครดิต

Level.4

Rank: 4

เครดิต
1032

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 6%

tar 2021-9-21 20:54:31
ขอบคุณครับ
เช็คอินสะสม: 4768 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 4 วัน

1370

กระทู้

2 หมื่น

โพสต์

34 หมื่น

เครดิต

Level.27

Rank: 27Rank: 27Rank: 27Rank: 27Rank: 27Rank: 27Rank: 27Rank: 27

เครดิต
347969

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 48%

Dew 2021-1-18 10:39:44
Thank you very much.
ตั้งกระทู้ใหม่
สำหรับคนที่ขี้เกียจพิมพ์
คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อนที่จะตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต

Copyright © 2011-2025 Kulasang.net. All Rights Reserved.