สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์
คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก
x
ถึงแม้ว่าข่าวงูกรีนแมมบาที่หลุดออกมานั้นจะเป็นเพียงแค่ข่าวลือ แต่ชาวกรุงที่ประสบกับน้ำท่วมก็ยังอาจต้องเผชิญกับงูอีกมากมายหลายชนิดที่หลุดออกมาตามกระแสน้ำอยู่ดี นี่เป็นแนวทางที่ชาว MThai จะสามารถดูแลตัวเองและคนในครอบครัวได้ก่อนถึงมือแพทย์ หากถูกงูกัดครับ
ความแตกต่างระหว่างงูพิษกับงูไม่มีพิษ
งูพิษ มีเขี้ยว 1 คู่ อยู่ตรงขากรรไกรบน เขี้ยวมีลักษณะเป็นรูกลวงคล้ายเข็มฉีดยา มีท่อติดต่อกับต่อมน้ำพิษ เมื่องูพิษกัดคนหรือสัตว์ ต่อมน้ำพิษจะปล่อยพิษไหลมาตามท่อ และออกทางปลายเขี้ยว คนที่ถูกงูพิษกัดจะพบรอยเขี้ยวเป็นจุด 2 จุด ตรงบริเวณที่ถูกกัดงูไม่มีพิษ จะไม่มีเขี้ยว มีแต่ฟัน เมื่อกัดคน จะเป็นแต่รอยถลอกหรือรอยถากเท่านั้น จะไม่พบรอยเขี้ยวงูไม่มีพิษ เช่น งูก้นขบ งูแสงอาทิตย์ งูปี่แก้ว งูเขียวปากจิ้งจก งูลายสาบ งูลายสอ งูงอด งูเหลือม และงูหลาม (2 ชนิดหลังตัวใหญ่ สามารถรัดลำตัว ทำให้ตายได้)
(โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าถูกงูที่มีพิษต่อเลือดกัด) หรืออาจตัดถูกเส้นเอ็นหรือเส้นประสาท รวมทั้งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
ช่วงเวลาที่พบผู้ป่วยถูกงูกัดชุกชุมคือฤดูฝน (ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงพฤศจิกายน)
ผู้ป่วยที่ถูกงูพิษกัด พบว่าถูกงูกะปะกัดมากอันดับหนึ่ง (ภาคใต้) รองลงมาคือ งูเขียวหางไหม้ (ภาคกลาง) และงูเห่า (ภาคกลาง) ตามลำดับ
ผู้เข้าชม เนื้อหาถูกซ่อนไว้ คุณจะต้อง แสดงความคิดเห็นก่อนจึงจะสามารถมองเห็นเนื้อหาส่วนที่ถูกซ่อนนี้ได้ |