เช็คอินสะสม: 67 วัน เช็คอินต่อเนื่อง: 1 วัน
ความคืบหน้าการอัพเกรด: 16%
|
สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์
คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก
x
เรื่อง ราวที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับคนในครอบครัวหนึ่ง ซึ่งคนในบ้านได้หายตัวไปจากอย่างร่องรอย ทุกคนพยายามออกตามหาแต่ก็ไม่พบ ในขณะที่ภรรยายของเขาบอกกับคนในบ้านว่า สามีของเธอไปทำงานที่กรุงเทพฯ แต่แล้วเหตุการณ์ที่เป็นเรื่อง "เหนือคำบรรยาย" ก็ได้เกิดขึ้น…
เหตุการณ์ นี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 3 พ.ค. เวลาประมาณ เที่ยงเศษๆ ที่ จังหวัดราชบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจาก ด.ต.อรุณ ศรีมุก รองหัวหน้าสายตรวจตำบลป่าไก่ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ว่า ได้มีชาวบ้านมาแจ้งให้ทราบว่า สงสัยจะมีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้น !!
เมื่อได้รับแจ้งจากชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 123 หมู่ 2 ต.ป่าไก่ อ.ปากท่อ ซึ่งเป็นบ้านของนายสุนาท ชัชวาล อายุ 53 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.ป่าไก่ ซึ่งเขาได้หายตัวไปอย่างลึกลับเป็นเวลานานเดือนเศษ
ในบ้านหลังดัง กล่าวเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ตรงบริเวณห้องน้ำภายในห้องนอนชั้นล่างของบ้าน มีบ่อสำหรับรองน้ำอาบก่อติดกับผนังห้อง มีขนาดกว้าง 40 ซม. ยาวเกือบ 2 ม. สูงจากพื้นประมาณ 80 ซม. ลักษณะถูกปล่อยทิ้งไว้ แต่ไม่พบร่องรอยการใช้ห้องน้ำมานานแรมเดือน สิ่งผิดปกติที่ชวนให้สงสัย คือ ภายในห้องนอน กับมีกระถางธูปมีธูป 31 ดอก และแก้วน้ำวางไว้บนพื้นใกล้บ่อ คล้ายกับมีการทำพิธีเซ่นไหว้อะไรบางอย่าง รวมทั้งปืน .38 อีก 1 กระบอก กระสุน 4 นัดบริเวณขื่อห้องน้ำ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจ สอบอย่างละเอียดทันที ซึ่งก็พบว่าภายในบ่อมีการใช้ปูนซีเมนต์เทปิดทับจนสูงเกือบถึงขอบบ่ออย่าง แข็งแรง โดยมีน้ำขังอยู่อีกชั้นจนปริ่มขอบบ่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตัดสินใจใช้ชะแลงกระแทกตรงบริเวณฝาปิดรู ระบายน้ำ ปรากฏว่ามีน้ำเหลืองปนเลือดไหลทะลักออกมาทันที ส่งกลิ่นเหม็นเป็นอันมาก ทำให้เชื่อว่าภายในจะต้องมีศพซ่อนอยู่อย่างแน่นอน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานไปยังเทศบาลเมืองราชบุรี เพื่อขอเครื่องมือสำหรับเจาะซีเมนต์ และใช้ค้อนปอนด์ จากนั้นก็ได้ทุบที่บ่อรองน้ำทันที และเมื่อบ่อถูกทุบจนพังทลาย เจ้าหน้าที่ตำรวจถึงกับผงะ เมื่อพบศพของนายสุนาทนอนตายอยู่ที่ก้นบ่อ สภาพศพนอนคุดคู้ ถูกคลุมด้วยผ้านวมสีชมพู ลักษณะนุ่งกางเกงในสีแดงตัวเดียว ศพมีสภาพเปื่อยยุ่ย มีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดปลายแหลมเข้าใต้ราวนมขวาและหน้าท้องรวม 2 แผล ดวงตาถลนออกมานอกเบ้า เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันนำศพขึ้นจากบ่อน้ำส่งโรงพยาบาลปากท่อ เพื่อชันสูตร ศพ
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนาง มณี ชัชวาล ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ตาย พร้อมด้วยนายอตินันท์ ชัชวาล ซึ่งเป็นบุตรไปทำการสอบสวน แต่คนทั้งสองได้ให้การอย่างมีพิรุธ โดยอ้างว่า เมื่อเช้าของวันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา ขณะกลับจากเลี้ยงไก่เดินกลับบ้าน พบร่างของสามีคือนายสุนาทนอนตายอยู่บนที่นอนภายในห้องนอน โดยมีมีดยาวประมาณ 1 ฟุต ตกอยู่ข้างๆ นางมณีคิดว่าสามีฆ่าตัวตายจึงเรียกนายอตินันท์ ลูกชาย ช่วยกันนำศพยัดลงบ่อรองน้ำในห้องน้ำ แล้วซื้อปูนซีเมนต์มา 6 กระสอบ เทปิดทับ จากนั้นได้เทน้ำลงไปเพื่อไม่ให้ดูเป็นที่ผิดสังเกต นางมณียัง ได้นำตำรวจไปเอามีดของกลาง ซึ่งอยู่ในสภาพหักจนงอใส่ถุงพลาสติกฝังดินไว้ริมคลอง ห่างจากบ้านประมาณ 60 เมตร คำให้การของนางมณีเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ มีความสับสน ฟังแล้วจับต้นชนปลายไม่ถูก สามีทั้งคนถูกฆ่าตาย แทนที่จะมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลับนำศพไปซ่อนอย่างมิดชิด
ตำรวจไม่เชื่อในคำให้การของนางมณี เลยแม้แต่น้อย ในขณะที่นางมณีกลับมีสภาพเหม่อลอยอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นก็ไม่ยอมให้การใดๆ อีกเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไว้เพื่อรอสอบสวนอีกครั้ง
การตายของนายสุนาทเป็นที่โจษขาน ของชาวบ้านทั่วไป ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องลงพื้นที่ เพื่อหาข่าวในทางลับ เพื่อที่จะไขปมปริศนาการตายของนายสุนาททันที
จากการสืบสวนของเจ้า หน้าที่ตำรวจ พบว่าก่อนที่จะพบศพของนายสุนาท นางมณีซึ่งเป็นร่างทรงเจ้าได้เคยทำพิธีเรียกวิญญาณของสามี ขณะทำพิธีนางบุญมี ชัชวาล ซึ่งเป็นพี่สะใภ้ของผู้ตาย ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย นางบุญมีได้นำธูป 16 ดอก ไปจุดปักริมคลองหน้าบ้าน พร้อมอธิษฐานว่าหากนายสุนาทเสียชีวิตแล้ว ก็ขอให้วิญญาณมาเข้าสิงช่วยดลบันดาลให้พบศพด้วย
ทันทีที่สิ้นคำอธิษฐานเหตุการณ์ เหลือเชื่อก็เกิดขึ้น เมื่อร่างของนางมณีมีอาการตัวสั่นคล้ายเจ้า จากนั้นก็หงายหลังล้มลง "ฉัน ตกใจมากพยายามเขย่าตัวเขา แต่เขาก็ยังไม่รู้สึกตัว สักพักใหญ่เขาก็ใช้หลังมือตบกระดาษ 3 ที ดังปังๆๆ ฉันก็ตกใจหันกลับไปดู ตอนนั้นฉันมองเห็นหน้านางมณีมันผิดปกติ หน้าแบนออก แล้วก็นอนทื่อเหมือนคนตาย ฉันก็ถามว่านี่เจ้าองค์ไหนมาเข้าอีกล่ะ เขาบอกว่าไม่ใช่เจ้า ฉันเองพี่ มันเป็นเสียงนายสุนาท แค่นั้นเราก็ตื้นตันใจแล้ว ก็เลยถามว่านาทหรอ เขาบอกว่าใช่ เขาบอกว่าฉันตายแล้ว พี่ยกโทษให้ฉันด้วย ศพฉันอยู่ในห้องน้ำ ฉันถูกเขาฆ่าตาย"
จากนั้นคนในบ้านก็ได้ช่วยกันค้นหา ตาม ห้องน้ำของบ้านแต่ก็ไม่พบ จนกระทั่งมาถึงห้องน้ำสุดท้าย ซึ่งอยู่ในห้องนอนของนางมณี ปรากฏว่าไม่สามารถเข้าไปได้ เนื่องจากนางมณีไม่ยอมให้กุญแจชาวบ้านจึงตัดสินใจปีนหลังคาเปิดกระเบื้องดู แต่ก็ไม่พบความผิดปกติ เนื่องจากมองลงมาจากด้านบนจะเห็นน้ำปริ่มขอบบ่อ จึงตัดสินใจแจ้งตำรวจขอกุญแจจากนางมณีเข้าไปสำรวจภายใน และได้พบศพของนายสุนาทจริงๆ
เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่านางมณีจะ ต้องมี ส่วนรู้เห็นกับการตายของสามี ซึ่งสาเหตุอาจจะมาจากเรื่องความหึงหวง เนื่องจากนายสุนาทไปติดพันผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ยอมกลับบ้านจนเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันหลายครั้ง จากนั้นจึงตัดสินใจลงมือฆ่าอย่างโหดเหี้ยม แล้วนำศพยัดบ่อในห้องน้ำเพื่อปกปิดความผิดของตน
เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ ฯ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ได้เล่าว่า ทันทีที่เปิดห้องน้ำไปก็พบสิ่งผิดปกติ "ตาม ปกติแล้วในอ่างน้ำจะต้องมีน้ำ แต่มันกลับมีกระป๋องปักธูปอยู่ มีแก้วน้ำอยู่ใบนึง เหมือนมีการประกอบพิธีอะไรสักอย่าง ผมสังเกตในอ่างน้ำมันจะเป็นลักษณะเทปูนไว้ แต่มันไม่เต็ม แล้วเอาน้ำใส่ไว้ พอเปิดออกมาก็เจอสภาพเหมือนปูนโบก ตอนนั้นชักสงสัยแล้ว ภรรยาคงจะรู้ตัวว่าไม่มีทางรอด ก็เลยยอมเปิดปากบอกว่าเขาหมกไว้จริงในห้องน้ำนี้ เราก็เลยใช้แชลงกระแทกท่อระบายน้ำ พังอ่างน้ำออก พออ่างพังเลือดก็ไหลออกมาเป็นจำนวนมาก…
ผมทำหน้าที่เก็บ ศพมาร่วม 10 ปีแล้ว ยังไม่เคยเจอที่วิญญาณเข้าร่างแล้วชี้ตำแหน่ง บอกว่าตัวเองตายแล้วนะ ศพอยู่ตรงนี้นะ ตั้งแต่ทำงานมาก็ยังไม่เคยแม้แต่จะฝันถึง แต่ศพนี้ยอมรับว่าเฮี้ยนมาก ผมนอนฝันถึงเขา ตอนนี้ก็ยังเห็นสภาพที่เขานอนตายอยู่เลย เขายังมาหลอกหลอนผมอยู่ เท่าที่ถามสารวัตร สารวัตรยังบอกว่าเหลือเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อเพราะจุดนั้นพอเราเข้าไปแล้วมันมีศพจริงๆ ตามที่ร่างทรงบอก มันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แปลกพอสมควร คนที่ไม่เชื่อเรื่องผี เรื่องวิญญาณ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังต้องเชื่อเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องที่แปลกและพิศวงมาก" ผู้สื่อข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว ยอมรับว่าเหตุการณ์นี้มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ
"วัน แรกที่เข้าไปสัมผัส วันนั้นผมเดินเข้าไปในห้องน้ำนั้นคนเดียว ผมรู้สึกว่ามันแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้ เราคิดว่ามันมีอะไรแน่ๆ เพราะรู้สึกว่าผู้ตายไม่ธรรมดา เหมือนกับที่หลายๆ คนบอกว่าเฮี้ยนจริงๆ ขนาดเขาตายมานานตั้งเดือนเศษ วิญญาณยังมาบอกให้คนอื่นรู้ เขาตายแต่วิญญาณยังอยู่ ไม่เคยเชื่อเรื่องผี ตอนนี้ผมเชื่อแล้ว"
เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งคงจะไม่มีคำพูดใดเหมาะสมไปกว่า คำกล่าวที่ว่า มันเป็นเรื่อง….เหนือคำบรรยาย !!!
|
|