สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์
คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก
x
ผู้เข้าชม เนื้อหาถูกซ่อนไว้ คุณจะต้อง แสดงความคิดเห็นก่อนจึงจะสามารถมองเห็นเนื้อหาส่วนที่ถูกซ่อนนี้ได้ ตั้งแต่เกิดมาจนป่านนี้ ฉันอายุ 25 ปีแล้ว และได้ผ่านประสบการณ์ที่น่าตื่น
เต้นตกใจมาหลายอย่าง เช่น แผ่นดินไหว ไฟไหม้ น้ำท่วมซึ่งฉันก็รอดมาได้ทุกครั้งและทุกสิ่งทุกอย่างก็ประทับใจไม่รู้ลืมแต่มีอยู่เหตุการณ์หนึ่งซึ่งเจ๋งสุดๆทุกคนที่ได้ฟังจะต้องทึ่งไปกับฉันแน่ๆถึงแม้กาลเวลาจะผ่านมาหลายปีแล้วแต่ฉันยังจำได้...วันนั้นเป็นวันเสาร์กลางเดือนธันวาคมแม่วานให้ฉันเอาน้ำพริกกุ้งสดที่แม่ทำเองไปให้เพื่อนที่อยู่ในซอยศูนย์วิจัยที่สำคัญฉันต้องให้น้ำพริกนี้ถึงมือผู้รับและต้องอธิบายวิธีกินกับวิธีเก็บอีกด้วย
น้ำพริกที่สุดแสนอร่อยนี้ทำจากกุ้งแม่น้ำตัวโตๆเอามาเผาพอสุก คลุกกับน้ำพริกที่ทำจากหอมเผา กระเทียมเผา และพริกชี้ฟ้าเผาหอมมันกุ้งและเคี้ยวเนื้อกุ้งสดเผาได้เต็มคำส่วนวิธีเก็บคือให้เก็บในตู้เย็น พอจะกินก็เอามาวางในอุณหภูมิห้องโดยไม่ต้องเอาไปตั้งเตาอุ่นกับไฟไม่งั้นมันกุ้งจะจับตัวเป็นก้อนเสียรสเลยค่ะ
เพื่อนแม่ชื่อป้ารุ้งฉันเคยพบครั้งเดียวเอง ตอนที่พาแม่ไปส่งในงานเลี้ยงรุ่นของแม่แต่บ้านป้ารุ้งหาไม่ยากหรอกค่ะเพราะซอยศูนย์วิจัยนี่ฉันถนัดมากเพื่อนสนิทของฉันก็อยู่ในนี้นี่คะเดี๋ยวเอาน้ำพริกกุ้งสดให้ป้ารุ้งเสร็จฉันก็จะไปหาเพื่อนเป็นรายการต่อไปนั่นไง! บ้านป้ารุ้งเป็นกำแพงอิฐทาสีปูนแห้ง คือสีส้มอมชมพูประตูเป็นไม้ระแนงสีน้ำตาลไหม้ มีสนามหญ้าเล็กๆ เขียวขจีอยู่หน้าบ้าน
ฉันจอดรถริมกำแพงอย่างดิบดีแล้วลงไปกดออด เอ...บ้านเงียบจัง!มีใครอยู่รึเปล่าหนอ? นี่ก็สิบโมงเช้าพอดี หรือว่าคุณป้าจะนอนตื่นสายแต่ก็น่าจะมีเด็กรับใช้นะ ฉันชะเง้อคอยาว รออีกอึดใจใหญ่ๆก็กดออดอีกครั้งหนึ่ง... เกรงใจนะเนี่ย แต่ชักกระวนกระวายขึ้นมาแล้วซิทันใดมีเสียงผู้ชายสูงอายุดังมา
จากหน้าต่างชั้นบน "รอเดี๋ยวนะหนู"ฉันมองเห็นผ้าม่านไหวๆ จากหน้าต่างนั้น และไม่ถึงนาทีเสียงประตูกระจกบานเลื่อนที่หน้าตัวบ้านก็เปิดออก ฉันเห็นชายท่าทางภูมิฐานนุ่งกางเกงแพรสีเขียว เสื้อผ้าป่านคอกลมสีขาวยืนอยู่ด้านในประตูนั่นท่านบอกด้วยเสียงดังฟังชัดว่า "เปิดเข้ามาเลยลูก ประตูรั้วไม่ได้ล็อก"ฉันทำตามที่ท่านบอก คือเปิดเข้าไปง่ายๆ แล้วก็ปิดประตูตามหลังให้เรียบร้อยก่อนจะยกมือไหว้อย่างนอบน้อมท่านรับไหว้และให้ฉันนั่งรอที่โต๊ะหินหน้าบ้านด้วยสีหน้ายิ้มแย้มก่อนจะเดินหายลับเข้าไปในบ้าน
ลมเย็นเยือกผสมกลิ่นหอมอ่อนๆโชยวูบมาจากด้านใน อือม์...กลิ่นน้ำอบไทยนี่นาฉันหันไปมองประตูกระจกปิดสนิท ข้างในเปิดแอร์รึเปล่า? คงไม่หรอกนี่มันหน้าหนาวนะ
ฉันนั่งคอยอยู่ราวห้านาที บ้านนี้เงียบดีจังเอ...คุณลุงหายไปเลย ท่านคงเป็นสามีป้ารุ้งนะ ฉันมาปลุกท่านรึเปล่าเนี่ย?เสียงไขกุญแจดังขึ้นที่ประตูรั้ว ฉันเอะใจ...ตะกี้ฉันก็ปิดธรรมดานะไม่ได้ล็อกสักหน่อย...ยังไม่ทันนึกอะไรมากกว่านั้นผู้หญิงสองคนก็หอบของพะรุงพะรังเข้ามา...หนึ่งในนั้นคือป้ารุ้ง
ฉันจำได้ อีกคนคงเป็นสาวใช้แน่ๆ ทั้งคู่มองเห็นฉันนั่งอยู่ก็ชะงักและมีทีท่าตกใจเห็นได้ชัด
"สวัสดีค่ะ หนูลูกแม่จุ๋มค่ะ" ฉันรีบประกาศตัว
"อ๋อ! จ้ะ...จำได้ๆ แต่หนูเข้ามาได้ยังไงละนี่" เสียงป้ารุ้งค่อนข้างร้อนรน "ตอนออกไปป้าล็อกกุญแจกับมือ แล้วหนูเข้ามาได้ยังไง?"
"คุณลุงบอกให้หนูเปิดเข้ามาเลยค่ะ" ฉันอธิบาย ป้ารุ้งสะดุ้งเฮือกถุงกับข้าวหลายถุงพลันหลุดร่วงจากมือ...คนรับใช้ทำท่าเนื้อตัวสั่นเทาหน้าซีดเผือด ปากสั่นระริก... มันเป็นไปไม่ได้เลย! ป้ารุ้งยืนยันบ้านหลังนี้มีท่านอยู่กับคนรับใช้คนนี้และหลานอีกสองคนซึ่งขณะนี้ไปเที่ยวทะเลโน่นเมื่อกี้ออกไปจ่ายตลาดจึงไม่มีใครอยู่บ้านเลย
คุณลุงที่ฉันเห็นน่ะ ฟังจากลักษณะและท่าทางแล้วคงจะเป็นคุณลุงตั้ว สามีป้ารุ้งนั่นแหละแต่มันผิดปกติตรงที่คุณลุงตายแล้วค่ะ...ขอย้ำ!ท่านตายไปสองปีแล้วจะมาเรียกให้ฉันเข้าบ้านได้อย่างไร!ผู้เข้าชม เนื้อหาถูกซ่อนไว้ คุณจะต้อง แสดงความคิดเห็นก่อนจึงจะสามารถมองเห็นเนื้อหาส่วนที่ถูกซ่อนนี้ได้
|