นกเขาไม่ขันเฮ'ถั่่งเช่า'พันธุ์ไทย

หนุ่มไทยนกเขาไม่ขันมีเฮ หลังกรมหม่อนไหม สุดเจ๋งผลิต “ถั่งเช่า” สายพันธุ์ไทยคุณภาพไม่แพ้นำเข้าจากประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ได้เป็นผลสำเร็จเตรียมขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุมารี ในงาน “ตรานกยูงพระราชทาน สืบสานตำนานไหมไทย ประจำปี 2556” ระหว่างวันที่8-12 ส.ค.2556 ณ ฮอลล์ 7-8 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี

นักวิชาการไทยเก่งไม่แพ้ใคร โดยผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 3ส.ค. นายประเสริฐ โกศัลวิตร อธิบดีกรมหม่อนไหมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยถึง ถั่งเช่า ที่เคยเป็นข่าวฮือฮาเมื่อไม่นานนี้

ว่าเป็นเชื้อรากินแมลงในกลุ่มของ  Ascomycetes มีสรรพคุณรักษาโรคต่างๆ อาทิ ป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็งกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และป้องกันการเกิดอันตรายต่อเซลล์ตับ ลดไขมันในร่างกายรักษาระดับเม็ดสีของผิวและผมโดยเฉพาะในกลุ่มเพศชายที่ว่ากันว่ากินแล้วช่วยให้ปึ๋งปั๋ง แก้ปัญหานกเขาไม่ขันได้จากคุณประโยชน์ดังกล่าว จึงทำให้ ถั่งเช่า ซึ่งปัจจุบันผลิตได้ทั้งในจีนญี่ปุ่นเกาหลี ที่แม้ว่าจะมีราคาแพงลิบลิ่วกิโลกรัมละ 300,000-400,000 บาท แต่ก็ยังได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลกอยู่ดีซึ่งจากการศึกษาการผลิตทั้งในประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี พบว่าจริงๆแล้ว ถั่งเช่าก็คือ การนำดักแด้ไหม ไปใช้เลี้ยงด้วยเชื้อราชนิดหนึ่งในอุณหภูมิที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดสปอร์ แต่ขบวนการต่างๆ ยังคงเก็บเป็นความลับแต่ก็ไม่เกินความสามารถของคนไทยที่จะศึกษา โดยการใช้เชื้อราหิมะขาวที่เป็นสายพันธุ์เดียวกับที่ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี ใช้จำนวน 1 เพลท (1 ถาดเพาะเชื้อ)

อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวต่อว่ากรมได้นำเชื้อราดังกล่าวมาทดสอบเลี้ยงเชื้อ ซึ่งเป็นการศึกษาร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่กับสถาบันราชภัฏเชียงใหม่หลังขยายเชื้อดังกล่าวได้จำนวนมากจึงส่งต่อมาที่จังหวัดสระบุรีเพื่อใช้ทดสอบเลี้ยงหนอนไหมนางลาย ซึ่งเป็นพันธุ์ไทยพื้นบ้าน จำนวน 2,000 ตัว ผลปรากฏว่าใช้เวลาเพียงแค่ 18-21 วันดักแด้ก็สามารถผลิตสร้างใยสปอร์ได้ดี ทั้งรูปร่าง น้ำหนัก ขนาดรสชาติกินแล้วเหมือนเห็ดสด และถ้าผลิตปริมาณมากๆก็เอาไปอบแห้งไว้สำหรับใส่ในน้ำซุบ ชงในน้ำร้อนดื่ม ทำผงอัดแคปซูลขายเหมือนกับที่ต่างประเทศผลิตขายกัน

อย่างไรก็ตาม จากความสำเร็จในการผลิตถั่งเช่าไทยในครั้งนี้กรมหม่อนไหมจะนำผลงานขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีในงาน “ตรานกยูงพระราชทาน สืบสานตำนานไหมไทย ประจำปี 2556”ระหว่างวันที่ 8-12 ส.ค.2556 ณ ฮอลล์ 7-8 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพคเมืองทองธานี และต่อจากนั้นจะเปิดขยายอบรมวิธีการผลิตที่ร้านภูฟ้า และภูพยัคฆ์เพื่อฝึกเจ้าหน้าที่ในโครงการ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีสภาพอากาศดีการควบคุมอุณหภูมิทำได้ง่าย

ที่มา thairath