สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์
คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก
x
โดยทั่วไปแล้ว ทารกแรกเกิดจะหิวนมทุก 3-4ชั่วโมง ขณะที่คุณแม่ที่เพิ่งฟื้นตัวจากการคลอดก็แทบจะไม่ได้หลับนอน เพราะต้องให้นมลูกอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือ นํ้านมจะน้อย ซึ่งพอลูกหิวแล้วดูดนมไม่พอ และไม่อิ่ม ก็หลับหูหลับตาร้องจ้าจนคุณแม่หลายๆ คนถึงกับยกธงยอมแพ้ให้กับนมขวดไปเลย
วันนี้มีเมนูพืชผักสมุนไพรไทยหลายชนิดที่ช่วยเพิ่มการผลิตนํ้านมแม่มาฝากกัน ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้น ตามไปรู้จักพร้อมๆ กันเลยครับ
หัวปลี มีแคลเซียมสูง โปรตีน ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินอี เบตาแคโรทีน แก้โรคกระเพาะอาหาร ลำไส้ บำรุงเลือด และช่วยกระตุ้นการสร้างนํ้านม สามารถนำไปทำอาหารอย่าง แกงเลียงหัวปลี ยำหัวปลี ลวกจิ้มนํ้าพริก ทอดมันหัวปลี หรือหัวปลีชุบแป้งทอดก็ดูเข้าท่า
ขิง มีโปรตีน ไขมัน แคลเซียม วิตามินเอ บี 1บี 2คาร์โบไฮเดรต ช่วยขับลม แก้คลื่นไส้ ย่อยไขมันได้ดี ลดการบีบตัวของลำไส้ บรรเทาอาการปวดท้องเกร็ง ขับเหงื่อ เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และทำให้นํ้านมไหลได้ดีอีกด้วย สามารถนำไปใช้ประกอบอาหารได้หลายอย่าง เช่น โจ๊กไก่ใส่ขิง หมูสับผัดขิง มันหรือถั่วเขียวหรือบัวลอยต้มนํ้าขิง หรือนํ้าขิงชงดื่มร้อน ๆ ก็ได้
มะละกอ มีธาตุเหล็ก และแคลเซียมสูง ฟอสฟอรัส วิตามินเอ บี ซี และเส้นใยอาหารสูง ช่วยขับนํ้านม บำรุงเลือด กระดูก สายตา ป้องกันโรคลักปิดลักเปิด สามารถรับประทานแบบสุกแทนเป็นของหวาน หรือนำแบบดิบไปใส่แกงส้มก็ย่อมได้
ฟักทอง มีวิตามินเอ บี ซี ฟอสฟอรัส เบตาแคโรทีน ช่วยขับนํ้านม และช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง สามารถนำไปใช้ประกอบอาหารได้หลายเมนู เช่น เมนูฟักทองผัดไข่ แกงเลียง แกงบวดฟักทอง ซุปฟักทองหรือนำไปนึ่งทานเปล่าๆ จิ้มนํ้าพริกหรือใส่ในสลัดก็ดูเข้าท่าไม่น้อย
กุยช่าย ให้แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็กคาร์โบไฮเดรต เบตาแคโรทีน วิตามินซี ช่วยขับนํ้านม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม นำไปใส่ในอาหารจำพวก ผัดไทยใส่ใบกุยช่าย หรือนำใบสดกินแกล้มกับอาหารอื่นๆ ได้
ตำลึง มีโปรตีน มีวิตามินเอ วิตามินบี 1วิตามินบี 2วิตามินบี 3วิตามินซี แคลเซียม เหล็ก เส้นใยอาหารในปริมาณมาก ช่วยบำรุงนํ้านม เลือด กระดูก สายตา ผม และประสาท สามารถนำไปทำเมนูง่าย ๆ อย่างเช่น ต้มจืดตำลึง แกงเลียงตำลึง ตำลึงผัดนํ้ามันหอย เป็นต้น
กะเพรา มีธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส เส้นใยอาหารสูง ความร้อนจากใบกะเพราช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ช่วยให้มีนํ้านมมากขึ้น แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ หวัด คลื่นไส้ อาเจียน สามารถนำไปอาหารประเภทแกง และผัด เช่น แกงเลียงใส่ใบกะเพรา ผัดกะเพรา แกงป่าหรือผัดเผ็ดต่าง ๆ โดยใช้พริกไทยอ่อนแทนพริกขี้หนูเพื่อเลี่ยงรสเผ็ด
ใบแมงลัก มีธาตุเหล็ก แคลเซียม วิตามินบีและซีสูง มีรสหอมร้อน ทำให้นํ้านมไหลได้ดี ช่วยขับลม ขับเหงื่อ สามารถนำไปใส่ในแกงเลียง ขนมจีนนํ้ายาหรือใส่ในแกงป่าต่างๆ
พริกไทย มีนํ้ามันหอมระเหย โปรตีน คาร์โบไฮเดรต มีรสร้อน ทำให้นํ้านมไหลได้ดี ช่วยขับลม ขับเหงื่อ นำไปใส่ในแกงเลียง แกงจืด หรือผัดต่างๆ ก็จะทำให้รสชาติเผ็ดร้อนขึ้นมาได้
มะรุม มีวิตามินซีสูง แคลเซียมสูง วิตามินเอสูง โพแทสเซียมสูง โปรตีนสูง โดยแคลเซียมเข้าไปเสริมกระดูกของแม่ ใบและดอกช่วยในการขับนํ้านม หรือนำไปใช้ประกอบอาหาร เช่น แกงส้มดอกมะรุม
ทิ้งท้ายด้วยคำแนะนำดีๆ ที่จะช่วยให้คุณแม่ผลิตน้ำนมอย่างเพียงพอและมีประสิทธิภาพ เริ่มจาก - พักผ่อนให้เพียงพอ ตื่นพร้อมลูก นอนพร้อมลูก งานบ้านควรปล่อยให้ผู้ช่วยทำ- ผ่อนคลายเวลาให้นมลูก อย่าเร่งรีบให้เสร็จๆ ไป เพราะนํ้านมจะหดหาย- ดื่มนํ้ามากๆ ดื่มนํ้าอุ่นบ่อยๆ ตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะช่วงต้นของการให้นม หรือช่วงที่ปั๊มนม เพราะช่วยเพิ่มนํ้านม- ใช้กระเป๋านํ้าร้อนประคบรอบเต้านมก่อนให้นมลูก เพื่อกระตุ้นให้นํ้านมออกมา- ควรให้ลูกดูดนมจากอกแม่อย่างสมํ่าเสมอและเพียงพอให้ลูกอิ่ม เพื่อกระตุ้นให้นํ้านมมาเป็นเวลา ปริมาณคงที่- สำคัญที่สุด คงเป็นเรื่องการบำรุง ซึ่งต้องระวังเรื่องอาหาร ไม่ควรตามใจปาก เพราะจะทำให้อ้วนได้
รู้แบบนี้แล้ว คุณแม่ลูกอ่อนทั้งหลายลองนำไปปรับใช้กันดูนะค่ะ
ขอขอบคุณ ที่นี่, จิ่มจุ่ม |