ดู: 224|ตอบกลับ: 2

A: 10 วิธีหลีกเลี่ยงอันตรายจากคมเขี้ยวของสุนัก

[คัดลอกลิงก์]
Dew
เช็คอินสะสม: 4711 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 52 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 48%

สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก

x
หมาดุ.jpg

ไม่ว่าจะเป็นคำบอกเล่าหรือข่าวคราวตามสื่อ ต่างก็มีเหตุการณ์ของคนที่โดนสุนัขกัดให้เห็นกันอยู่เนือง ๆ ซึ่งบางข่าวก็ทำให้บางคนรู้สึกกลัวจนไม่กล้าเข้าใกล้สุนัขไปเลยก็มี ทั้งที่แท้จริงแล้วสุนัขไม่ได้เป็นสัตว์น่ากลัวและก้าวร้าวแต่อย่างใด เพียงแต่เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือไม่รู้จักหลบเลี่ยงเท่านั้นเอง ดังนั้นในวันนี้เราก็เลยรวบรวมเอา 10 วิธีป้องกันตัวจากการถูกสุนัขกัดมาฝากกัน

1. ไม่ควรปล่อยให้สุนัขอยู่กับเด็กตามลำพัง เนื่องจากเด็ก ๆ อาจจะใช้ของเล่นกระเซ้าเย้าแหย่ จนทำให้สุนัขคิดว่ากำลังจะโดนทำร้ายเลยจำเป็นต้องกัดเพื่อป้องกันตัว ดังนั้นจึงไม่ควรปล่อยให้พวกเขาอยู่กันตามลำพัง โดยเฉพาะทารกกับเด็กเล็กที่ยังไม่ประสีประสาและไม่รู้จักวิธีป้องกันตัว นอกจากนี้ หากมีเด็กใหม่เข้ามาอยู่ภายในบ้านก็ควรจะแนะนำทั้ง 2 ฝ่ายรู้จักกัน โดยการให้สุนัขดมกลิ่นเสื้อผ้าเพื่อสร้างความคุ้นเคยเสียก่อน

2. ไม่ควรแหย่สุนัขที่กำลังนอน หากเห็นว่าสุนัขกำลังนอนหลับอย่างสบายก็ไม่ควรเข้าไปยุ่ง หยอกล้อ หรือแกล้งโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้สุนัขตกใจตื่นและเผลอกัดได้ ทางที่ดีควรจะปล่อยให้สุนัขนอนหลับไปก่อน แล้วรอเวลาจนกว่าสุนัขจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา พร้อมกับปรับอารมณ์ให้เป็นปกติก่อนที่จะเล่นด้วยดีกว่า


3. ไม่เข้าใกล้สุนัขแปลกหน้า ในกรณีที่บังเอิญเจอสุนัขข้างทางที่ไม่คุ้นเคย หรือเห็นหน้ากันมาก่อน ก็ควรจะเดินเลี่ยงและอยู่เอาตัวเองออกมาให้ห่างจากสุนัขมากที่สุด ไม่ควรลูบหัว จับมือ กอด ยื่นหน้าเข้าไปมองระยะใกล้ ๆ แม้สุนัขตัวนั้นจะมีหน้าตาน่ารักน่ากอดมากแค่ไหน หรือกระทั่งการเข้าไปเพื่อช่วยเหลือก็ตาม เพราะสุนัขตัวนั้นอาจแปลความหมายผิด และคิดว่าเราเป็นศัตรูที่จะเข้ามาทำร้ายนั่นเอง

4. ไม่ลากหรือกระชากปลอกคอ ถ้าต้องการจะให้สัตว์เลี้ยงเขยิบออกจากจุดที่ต้องการ ไม่ควรจะดึงผิวหนังบริเวณต้นคอหรือลากและกระชากปลอกคอเพื่อเหวี่ยงตัวสุนัขออกไป เพราะนอกจากทำให้สุนัขไม่พอใจแล้ว ก็อาจจะเกิดอาการบาดเจ็บขณะที่กำลังเคลื่อนย้ายด้วย ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องทำจริง ๆ ควรจะอุ้มขึ้นมาแล้วนำไปวางไว้ยังสถานที่ที่ต้องการ หรือออกคำสั่งด้วยคำพูดดีกว่า

5. ไม่ควรรบกวนสุนัขขณะกำลังกินข้าว สุนัขทุกตัวค่อนข้างหวงและห่วงของของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นของเล่น ขนม รวมไปถึงอาหาร ฉะนั้นหากเห็นว่าสุนัขกำลังทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งอยู่ก็ไม่ควรจะเข้าไปรบกวน แย่งชิง หรือแหย่โดยเด็ดขาดเนื่องจากอาจจะเจ็บตัวกลับมาโดยไม่รู้ตัว ขณะเดียวกันในระหว่างที่ยื้อแย่งของกันอาจจะทำให้สุนัขบาดเจ็บไปด้วยก็ได้

6. เข้าหาด้วยความเป็นมิตรและมีรางวัลติดมือเสมอ สุนัขก็มีความรู้สึกเหมือนกับคน ถ้าหากต้องการเข้าหาหรือต้องการให้สุนัขทำบางอย่าง ควรจะใช้ท่าทางกับคำพูดที่เป็นมิตรและนุ่มนวลน่าฟัง เพราะการยั่วแหย่อาจนำมาซึ่งพฤติกรรมที่ก้าวร้าวได้ นอกจากนี้หลังจากที่ได้รับสิ่งที่ต้องการแล้วก็อย่าลืมให้รางวัลเป็นการขอบคุณด้วย อย่างเช่น ของเล่น ขนมขบเคี้ยวหรือลูบหัวเบา ๆ พร้อมกับคำชม

7. ไม่ควรกระตุ้นความกลัว หากเห็นว่าสุนัขกำลังหลบเลี่ยงจากสถานการณ์ที่ทำให้กลัวและตกใจ อย่างเช่น ได้ยินเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่า หรือโดนสัตว์ตัวอื่นคุกคามอยู่ จนต้องเข้าไปแอบซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด ก็ควรจะปล่อยให้สุนัขสงบสติอารมณ์เสียก่อน ทั้งนี้เมื่อเห็นว่าสุนัขไม่มีอาการหวาดกลัวตื่นตระหนกแล้ว ค่อยเกลี้ยกล่อมให้สุนัขออกมาจากที่ซ่อน

8. ไม่ควรกักขังสุนัขนานเกินไป เพราะการกักขังหรือล่ามสุนัขไว้กับที่นานเกินไปและบ่อยครั้งจะทำให้สุนัขหงุดหงิดง่าย เกิดเป็นความเครียด และพัฒนาเป็นพฤติกรรมก้าวร้าว ทั้งนี้ หากเจ้าของมีความจำเป็นจะต้องใช้วิธีดังกล่าว ก็ควรให้สุนัขทำความคุ้นเคยกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ตั้งแต่เริ่มต้น โดยการขังไว้ในกรงหรือสวมปลอกคอพร้อมกับใช้สายจูงพาไปเที่ยวเล่น จนสุนัขเคยชินเสียก่อน

9. ไม่ควรจ้องตาสุนัขโดยตรง สาเหตุที่ไม่ควรจ้องตากับสุนัขโดยตรง เพราะว่าการกระทำเช่นนี้ทำให้สุนัขรู้สึกว่าโดนรบกวนและกำลังถูกคุกคาม ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจหากสุนัขจะกระโดดกัด หลังจากที่มีคนมองตา สำหรับคนที่อยากจะแสดงความรักกับสุนัขก็ควรจะเลือกวิธีอื่น ๆ ได้แก่ ลูบหัว ให้อาหาร กอด หรือสัมผัสร่างกาย โดยวิธีนี้จะมีความปลอดภัยและเสี่ยงอันตรายน้อยกว่า

10. ไม่ควรวิ่งหนีเมื่อมีสุนัขแปลกหน้าเข้าใกล้ เชื่อว่าหลายคนเมื่อเห็นสุนัขแปลกหน้าเดินมาใกล้ ๆ ก็มักจะวิ่งหนีซึ่งผลที่ออกมาก็คือเจอสุนัขวิ่งไล่กัดหนักกว่าเดิม จริง ๆ แล้ววิธีที่ถูกต้องก็คือการเดินห่าง ๆ พร้อมกับคอยดูว่าสุนัขกำลังทำอะไร ถ้าหากสุนัขเข้ามาใกล้ก็ควรยืนรอสังเกตสถานการณ์ ถ้าสุนัขไม่ทำอะไรนอกจากเห่า ให้ค่อย ๆ เดินถอยออกไปหากจำเป็นต้องเดินผ่านบริเวณดังกล่าวบ่อยครั้ง ควรเลี่ยงการทำร้าย เพราะจะกลายเป็นศัตรูในสายตาสุนัขทันที


นอกจากนี้ควรจะรู้จักสังเกตอาการของสุนัขให้ดี หากมีอาการตาขวาง ตัวเกร็ง ขนตั้งชัน หรือส่งเสียงเห่าเมื่อไหร่ควรจะรีบถอยออกมาทันทีก่อนที่จะโดนกัด และที่สำคัญหากที่บ้านมีเด็กเล็ก ก็อย่าลืมสอนให้พวกเขารู้จักวิธีตัวเอารอดรวมทั้งวิธีป้องกันตัวจากสุนัขเอาไว้ด้วย เพื่อความปลอดภัยของพวกเขาเอง
ขอขอบคุณ กระปุก, ภาพไม่เกี่ยวกับเรื่อง
เช็คอินสะสม: 1685 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 1 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 22%

โพสต์ 2013-8-22 22:49:25 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากน่ะครับ
เช็คอินสะสม: 554 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 0 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 29%

โพสต์ 2013-8-23 23:42:43 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบใจจ้า

ตอบกระทู้

สำหรับคนที่ขี้เกียจพิมพ์
คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อนที่จะตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต

TOP