เช็คอินสะสม: 4711 วัน เช็คอินต่อเนื่อง: 52 วัน
ความคืบหน้าการอัพเกรด: 48%
|
สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์
คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก
x
ในผลกล้วยน้ำว้าสุก 1 ผลนั้น ให้พลังงานแก่ร่างกายของเราได้ประมาณ 60 กิโลแคลอรี่ ซึ่งในพลังงานที่ได้รับนี้ เป็นพลังงานจากน้ำตาลธรรมชาติที่มีอยู่ในกล้วยน้ำว้า โดยมีน้ำตาลธรรมชาติอยู่ 3 ชนิดด้วยกัน คือ ซูโครส ฟรุกโตส และกลูโคส
แร่ธาตุและวิตามิน ที่มีอยู่ในกล้วยน้ำว้าก็มีทั้ง แมกนีเซียมและโพแทสเซียม ที่ช่วยป้องกันโรคความดัน มีวิตามินบี 6 ที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทาน มีวิตามินบี 1 บี 2 วิตามินซี และยังมีวิตามินเอมากที่สุดในบรรดากล้วยทั้งหลายอีกด้วย
ในกล้วยน้ำว้าจะมีโปรตีนอยู่ด้วย โดยมีทั้งกรดอมิโน อาร์จินิน และฮีสติดิน ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญและจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารก และเพราะว่ามีสารอาหารที่เป็นประโยชน์แบบนี้เอง คุณพ่อคุณแม่จึงให้เด็กๆ กินกล้วยน้ำว้าบดเป็นอาหารอย่างแรกๆ ก่อนที่จะลองให้กินอาหารชนิดอื่นเมื่อโตขึ้น
ผลดิบนั้นใช้รักษาอาการท้องเดิน-ท้องเสีย โดยใช้ประโยชน์จากสารแทนนินที่มีอยู่ในผลดิบของกล้วยน้ำว้า วิธีบริโภคก็คือให้กินทั้งเปลือก หรือจะหั่นเป็นแว่นๆ แล้วตากแห้ง นำมาบดชงผสมกับน้ำร้อน หรือบดแล้วปั้นเป็นเม็ดกินก็ได้
ผลดิบสามารถรักษาแผลในกระเพาะอาหาร โดยใช้กล้วยน้ำว้าดิบนำมาปอกเปลือก ฝานเอาแต่เนื้อเป็นแผ่นบางๆ ตากแดดจนแห้งกรอบแล้วบดเป็นผงละเอียด ละลายกินกับน้ำข้าวหรือน้ำผึ้งก็ได้ ซึ่งในกล้วยดิบจะกระตุ้นเซลล์เยื่อบุในกระเพาะอาหารให้หลั่งสารมิวซินออกมาเคลือบกระเพาะ ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารได้
กล้วยน้ำว้าสุกสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ หรือเจ็บหน้าอกจากการไอแห้งๆ ลดการระคายเคืองในลำคอจากอาการไอ กล้วยน้ำว้าสุกช่วยระงับกลิ่นปากได้ โดยหลังจากตื่นนอนแล้วให้กินกล้วยน้ำว้าทันที แล้วค่อยแปรงฟัน
ถ้ากินกล้วยแล้วเหลือเปลือกไว้ ที่เปลือกของกล้วยน้ำว้าก็ยังมีฤทธิ์ในการต้านเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียที่จะทำให้เกิดหนอง อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการคันเนื่องจากแมลงกัดต่อยได้ ขอขอบคุณ ที่นี่, บีเวอร์ |
|