ดู: 239|ตอบกลับ: 1

A: ยิ่งลดยิ่งอ้วน ทำไงดี?

[คัดลอกลิงก์]
Dew
เช็คอินสะสม: 4680 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 21 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 47%

สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก

x

ยิ่งลดยิ่งอ้วน.jpg
คุณผู้หญิงมีพฤติกรรมต่อไปนี้หรือไม่ถึงได้ยิ่งลดยิ่งอ้วน เรามีคำตอบ!!!


1. กินน้อยกว่าแมวดม

Truth : การลดแคลอรี่จำนวนมากเหมือนจะช่วยลดน้ำหนักได้แต่มีโอกาสสูงที่น้ำหนักจะกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็วอีกครั้งความจริงคือคุณไม่ควรลดเหลือต่ำกว่า 1,200-1,500 แคลอรี่ต่อวัน และหากคุณจำกัดอาหารมาก ๆ นานกว่าสองสัปดาห์ระบบเผาผลาญของร่างกายจะช้าลงการอดอาหารเท่าเดิมจึงทำให้ปริมาณน้ำหนักที่จะลดลงได้นั้นน้อยลงเรื่อย ๆ นอกจากนี้คุณอาจสูญเสียกล้ามเนื้อพร้อมกับไขมัน โดยเฉพาะถ้าคุณไม่ได้ออกกำลังกาย

Smart Move : ถ้าคุณอยากลดน้ำหนักสัก
5 กิโลกรัม (ประมาณ 10 ปอนด์) ก็ให้ใช้เวลาทั้งหมด 10สัปดาห์ คุณจะมีโอกาสลดน้ำหนักได้อย่างถาวรโดยการลดครึ่งกิโลกรัมต่อสัปดาห์ คุณอาจจะลดแคลอรี่ 250 แคลอรี่ต่อวันและออกกำลังกายอีก 250 แคลอรี่ต่อวันด้วย

2. กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพเพราะมันมีแคลอรี่ต่ำ

Truth : คนเรามักจะประเมินแคลอรี่จากอาหารที่ดีต่อสุขภาพไม่ถูกต้องตามความจริงคือ การที่อาหารนั้นดีต่อสุขภาพไม่ได้หมายความว่าคุณจะกินมากได้ เช่นถั่วหยิบมือหนึ่งอาจมีพลังงานสูงถึง
200 แคลอรี่หรือมากกว่า และหากไม่ลดอาหารอย่างอื่นมันอาจเป็นสาเหตุว่าทำไมน้ำหนักถึงไม่ลดสักที

Smart Move : นับแคลอรี่ทุกเม็ด เมื่อคุณเรียนรู้ว่าซีเรียลครึ่งถ้วยอาจมีแคลอรี่สูงถึง
200 แคลอรี่ หรือน้ำส้มแก้วละ 220 แคลอรี่คุณจะระมัดระวังในการกินเอง

3. ตอนกลางวันไม่หิวเลยมากินตอนเย็น

Truth : การอดอาหารในช่วงระหว่างวันเพื่อกินในมื้อเย็นจะทำให้ฮอร์โมนแห่งความหิว "เกรห์ลิน" ปั่นป่วนทำให้คุณหิวมากขึ้น และกินในปริมาณเท่าเดิม หรือมากกว่าการกินอาหารปกติสามมื้อ พอเช้าวันรุ่งขึ้นคุณจะไม่หิว แต่ก็จะท้องกิ่วอีกทีในตอนเย็นกลายเป็นวงจรอุบาทว์


Smart Move : เริ่มมื้อเช้าที่ประมาณ 450 แคลอรี่ ซึ่งเป็นปริมาณที่ควรจะทำให้คุณอิ่มจนถึงมื้อกลางวันแต่อย่ากินมื้อใดมื้อหนึ่งห่างกันเกิน 5 ชั่วโมงแล้วปิดท้ายด้วยอาหารมื้อเย็นซึ่งควรจะน้อยกว่ามื้อเที่ยงครึ่งหนึ่ง

4. คุณกินเยอะเพราะอาหารนั้น"ไขมันต่ำ" และ "ปราศจากน้ำตาล"

Truth : การศึกษามากมายชี้ว่า เมื่ออาหารนั้นมีฉลากว่า"ไขมันต่ำ" เรามักจะกินมากขึ้น โดยการทดลองจากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์พบว่าเมื่อให้อาสาสมัครกิน
M&M ที่มีฉลากว่า"ไขมันต่ำ" คนจะกินมากขึ้นถึง 28% ซึ่งจริง ๆ แล้ว"ไม่มีไขมัน" ไม่ได้หมายความว่าแคลอรี่น้อยลงแต่คนส่วนใหญ่จะเข้าใจกันไปเองแล้วกินมากขึ้น

Smart Move : เช็คฉลากอาหารและดูที่หน่วยบริโภคต่อแคลอรี่ให้ดีในเทคนิคเดียวกันนี้ต่อให้คุณกินอาหารไขมันเต็มคุณก็สามารถลดน้ำหนักได้


5. คุณตั้งเป้าหมายลดน้ำหนักแค่ชั่วประเดี๋ยว

Truth : มีการประเมินว่าเพียงร้อยละ 20 เท่านั้นที่ลดน้ำหนักได้สำเร็จ และรักษาระดับนั้นไว้ได้มากกว่าหนึ่งปีนั่นเป็นเพราะเมื่อเราบรรลุเป้าหมายแล้ว นิสัยการกินเก่า ๆ จะกลับมาคนที่จะลดน้ำหนักในระยะยาวได้จริง ๆ จะกินอาหารในปริมาณเท่าเดิมกับตอนลดน้ำหนัก

Smart Move : คิดเสียว่าการกินเป็นการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่การ "ไดเอ็ต"ที่มีจุดเริ่มต้นและจุดจบกุญแจสำคัญคือการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ๆที่คุณสามารถเปลี่ยนให้เป็นนิสัยในระยะยาว เช่น ถ้าคุณมักกินโอรีโอวันละซองลองเปลี่ยนเป็นวันละชิ้น แล้วค่อย ๆ เลิกเมื่อคุณสามารถทำได้แล้วก็มุ่งสู่เป้าหมายต่อไป


Size Matters

กระเพาะอาหารมีขนาดเท่า ๆ กับกำปั้นของเราเองนะนั่นหมายความว่ามันต้องการแค่อาหารหยิบมือเดียวเพื่อให้อิ่มถ้าคุณกินแล้วรู้สึกท้องอืด เหนื่อย อ่อนเพลีย คุณก็กินมากเกินไปแล้วล่ะ
ขอขอบคุณ กระปุก, ลิซ่า
เช็คอินสะสม: 1685 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 1 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 22%

โพสต์ 2013-8-30 18:46:51 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากครับ

ตอบกระทู้

สำหรับคนที่ขี้เกียจพิมพ์
คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อนที่จะตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต

TOP