สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์
คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก
x
เราทราบกันดีว่าสมองมีสองซีกสมองซีกซ้าย มีความสามารถทางด้านการคำนวณ ความคิดเป็นเหตุเป็นผล การพูด การเขียนการวิเคราะห์ การจัดลำดับก่อน รู้เวลาและสถานที่ และสมองซีกขวาทำงานเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ อารมณ์ ความรู้สึก เรื่องมิติสัมพันธ์ความสามารถทางศิลปะ โดยสมองสองซีกจะร่วมกันทำงาน ไม่แยกทำเพียงข้างใดข้างหนึ่งแม้เราจะทำอะไรสักอย่างอยู่เรื่องเดียวก็ตาม โดยมีกล้ามเนื้อส่วน Corpus Callosum เชื่อมสมองสองซีกให้ทำงานประสานกัน เช่น เวลาอ่านหนังสือซีกซ้ายของคุณจะถอดความเรื่องที่อ่าน และซีกขวา จะรวบรวมความคิดเข้าไว้ด้วยกันเพียงแต่ว่าหากเราเหนื่อยล้า สมองอาจทำงานได้เพียงข้างเดียวเท่านั้นงานที่ทำออกมาก็จะไม่ดีหรือทำได้ไม่ดีที่สุด ด้วยประการฉะนี้จึงมีเทคนิคมากมายที่จะทำให้เราใช้สมองเต็มที่ ไปพร้อมๆกับการดูแลสมองของเราให้ดีและหนึ่งในวิธีนั้นก็คือเจ้า BrainGym นี่เองจ้า Brain Gym เป็นกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายง่ายๆ26 ท่า ที่จะช่วยให้สมองสองซีกให้ทำงานประสานกันได้ดีพัฒนาขึ้นโดย ดร. พอล เดนนิสันนักประสาทวิทยาชาวอเมริกันเพื่อช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ของคนที่มีปัญหาการเรียนรู้แต่ก็พบว่ามีประโยชน์ต่อทุกๆ คนในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ สมองตื่นตัวช่วยเรื่องการมองเห็น การได้ยิน การเคลื่อนไหวอีกทั้งยังช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด และทำให้จิตใจสงบพร้อมที่จะเรียนรู้ก็วิธีการบริหารของเขาครอบคลุมสมองสองซีก ก็เลยช่วยเราได้ครอบจักรวาลขนาดนี้เลยไงสุดยอด! ท่า Brain Gym แบ่งออกเป็นสี่กลุ่มค่ะได้แก่
1. การเคลื่อนไหวสลับข้าง(Cross Over Movement) ทำให้การทำงานของสมองสองซีกถ่ายโยงข้อมูลถึงกันได้ดี เช่น ท่าแตะสลับท่าเลข 8 (คล้ายๆท่าช้าง)
2. การยืดส่วนต่างๆของร่างกาย(Lengthening Movement) ทำให้ผ่อนคลายความตึงเครียดของสมองส่วนหน้าและส่วนหลัง เช่นท่าโยคะต่างๆ ท่านกฮูก
3. การเคลื่อนไหวเพื่อกระตุ้น(Energizing Movement) เป็นท่าที่จะช่วยกระตุ้นการทำงานของกระแสประสาทเพื่อช่วยให้เรียนรู้ได้ดีขึ้น และ
4. ท่าบริหารร่างกายง่ายๆ(Useful) เช่น หมุนคอ เป็นต้น แต่ก่อนที่เราจะบริหารสมองนั้นมีหลักเล็กน้อยค่ะคือ ควรทำแต่ละท่าซ้ำประมาณ 4 -6 ครั้ง ขณะทำให้หายใจเข้าออกช้าๆ ไม่ควรกินอาหารอิ่มใหม่ๆหรือหิวเกินไป ไม่ควรบริหารสมองหลังกินหรือดื่มอาหารและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอลล์หรือสารกระตุ้นเช่น เบียร์ ชา กาแฟ หรือแม้แต่ชอกโกแลตหรือน้ำอัดลมค่ะ ควรบริหารต่อเนื่องกันแต่ไม่จำเป็นต้องซ้ำท่าเดิมๆ จนเป็นกิจวัตร เปลี่ยนท่าบ้าง สลับท่าบ้างให้สมองเกิดการกระตุ้นดีกว่าค่ะ และสิ่งที่ขาดไม่ได้เป็นหลักสำคัญของ Brain Gym เลยคือการ"ดื่มน้ำ" โดยดื่มครั้งละไม่มาก แต่ดื่มบ่อยๆเพื่อช่วยทดแทนของเหลวที่ร่างกายเสียไประหว่างวัน นอกจากนี้ก็มีท่าง่ายๆช่วยกระตุ้นให้สมองได้รับเลือดมากยิ่งขึ้นไว้ทำตอนอ่านหนังสือหรือใช้สมองเหนื่อยล้าก็ได้ คือท่า นวดปุ่มสมองค่ะ และหากง่วงก็ต้องท่านี้!ท่าแตะสลับ หลายท่าเราก็สามารถประยุกต์ทำตอนยืน นั่ง เดิน หรือนอนก็ได้ว่ากันว่าบริหารด้วย Brain Gym นี้เพียงวันละ 10 - 20นาที ก็จะได้ผลดีอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว ท่าแตะสลับ (ซ้าย-ขวา บน-ล่าง)ของร่างกายช่วยแก้ง่วง เพราะต้องขยับแขนขาทุกส่วน และช่วยบริหารสมองในเรื่องการสะกดคำการเขียน การฟังการอ่าน และการประสานกันของสมองสองซีก โดยใช้ข้อศอกขวา แตะหัวเข่าด้านซ้าย(ยกเข่าขึ้นรับ) และทำสลับอีกข้าง ทำท่านี้ 2 — 3 นาทีเช่นกัน จะนั่ง ยืน หรือนอนทำก็ได้ ท่านวดปุ่มสมอง โดยใช้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือวางลงบนหน้าอก(รูปตัว L) ตรงบริเวณแอ่งนุ่มๆระหว่างกระดูกไหปลาร้ากับซี่โครงแถวบนสุด ส่วนมือข้างที่เหลือวางไว้บริเวณหน้าท้องนวดเบาๆ ประมาณ 2 - 3 นาที ตามจังหวะหายใจเข้า - ออกการนวดจุดนี้เพิ่มการไหลเวียนเลือดไปที่สมอง ช่วยให้หายมึนงง สมองแจ่มใสขึ้นค่ะ ท่าช้าง เป็นท่าง่ายๆ ไว้ลงเรือข้ามฟากไปศิริราชได้(ก็รู้ว่าแป้ก แต่อยากเล่นอะ) ให้แนบหูซ้ายบนไหล่ซ้ายแล้วยกแขนซ้ายขึ้นยืนแยกขาเล็กน้อย ให้แขนที่ยกแทนงวงช้าง วาดแขนวาดเป็นเครื่องหมายอินฟินิตี้ (เลข 8แนวนอนนั่นแหละจ้า)สายตามองตามการวาดของแขน ทำ 3 - 5 ครั้ง ท่านวดใบหู นั่งตามสบาย ใช้นิ้วนวดริมขอบนอกของใบหูเบาๆ ทั้ง 2 ข้างพร้อมๆ กันโดยเริ่มจากด้านบนและนวดไล่ลงมาจนถึงติ่งหู แล้วใช้มือปิดใบหูเบา ๆ ทำซ้ำควรทำท่านี้ก่อนอ่านหนังสือเพื่อกระตุ้นเส้นเลือดฝอยที่ไปเลี้ยงสมองส่วนความจำระยะสั้นให้ดีขึ้นและเพิ่มการได้ยินเป็นจังหวะด้วย ขอขอบคุณ พญาไท, เด็กดีภาพจาก vantuyen |