ดู: 231|ตอบกลับ: 2

A: วิธีไล่หนูออกจากบ้าน โดยไม่ต้องฆ่า

[คัดลอกลิงก์]
Dew
เช็คอินสะสม: 4533 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 45 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 46%

สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก

x
หนู.jpg

หลายบ้านอาจจะเคยได้ยินเสียงร้องจี๊ด ๆหรือเสียงฝีเท้าวิ่งไป-มาอยู่บนฝ้าเพดานและอาจจะมีการทิ้งร่องรอยน่าสงสัยเอาไว้ให้ไม่สบายใจอยู่บ้างก็คงต้องลองสำรวจดูสักหน่อยแล้ว ว่าบ้านของคุณเข้าข่ายมี "หนู"อพยพกันมาอาศัยอยู่บ้างหรือไม่ และถ้าหากพบว่าภายในบ้านมีครอบครัวหนูมาอาศัยอยู่แล้วก็คงต้องมองหาวิธีไล่หนูกันสักหน่อย
ซึ่งแม้ว่าจะมีกาวดักหนู และยาฉีดสำหรับไล่หนูวางขายอยู่ทั่วไปแต่บางคนอาจจะไม่อยากฆ่าแกงกันให้รู้สึกบาป ดังนั้นวันนี้เราจึงขอนำวิธีไล่หนูแบบไม่ต้องฆ่า มาฝากไว้ให้ลองนำไปใช้กันดูนะคะ
หนูๅ.jpg
วิธีไล่หนูออกจากบ้าน
1. น้ำมันก๊าด
ไม่บอกก็รู้ว่า น้ำมันก๊าด มีกลิ่นรุนแรงขนาดไหนเพราะแม้แต่คนที่สูดดมเข้าไปมาก ๆ ก็ยังแอบเวียนหัวอยู่เหมือนกันนับประสาอะไรกับหนูตัวเล็ก ๆ เมื่อเจอเข้ากับกลิ่นของน้ำมันก๊าดรับรองว่าเจ้าหนูทั้งหลายจะเข็ดขยาดจนไม่อยากอยู่ในบ้านหลังเดิมอีกต่อไปเลยล่ะวิธีการก็แค่เทน้ำมันก๊าดใส่ถ้วยเล็ก ๆไปวางไว้ตามจุดที่คาดว่าหนูอาศัยอยู่เท่านั้นค่ะหรือจะวางไว้กับแหล่งอาหารของหนูก็ได้ แต่ควรระวังอย่าใช้ในบ้านที่มีเด็กและต้องหมั่นเปิดหน้าต่าง ประตู เพื่อระบายกลิ่นบ้างนะคะและสามารถเปลี่ยนเป็นน้ำมันสน หรือน้ำมันกลิ่นฉุนอื่น ๆ ก็ได้
2. ลูกเหม็น
กลิ่นของลูกเหม็นแม้จะไม่รุนแรงเท่าน้ำมันก๊าดแต่ก็เป็นกลิ่นที่ไม่รัญจวนใจนักหนูทั้งหลายจึงไม่ค่อยสบอารมณ์กับกลิ่นของลูกเหม็นสักเท่าไหร่หากนำลูกเหม็นไปวางไว้ในจุดที่คิดว่าหนูจะวนเวียนอยู่ เช่น ใกล้ถังขยะ ฝ้าเพดานหรือมุมอับภายในครัว เท่านี้หนูก็จะเบื่อหน่ายกับกลิ่นจนอยากย้ายบ้านหนีไปเลย
3. เปิดไฟให้สว่าง
เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ง่ายแสนง่าย เพราะแสงไฟจะทำให้หนูแสบตาและไม่กล้าออกมาแสดงตัวมากนัก ซึ่งเมื่อไฟยังสว่างอยู่หนูก็จะกล้า ๆ กลัว ๆที่จะออกมาคุ้ยหาอาหาร หรือแทะข้าวของต่าง ๆ ให้พังเสียหายซึ่งผลที่ตามมาอาจจะต้องแลกด้วยค่าไฟที่เพิ่มขึ้นจนน่าใจหายอยู่เหมือนกัน
ประทัด.jpg
4. ประทัด
นอกจากกลิ่นเหม็นแล้ว หนูก็ยังเป็นสัตว์ที่ขี้ตกใจพอสมควรดังนั้นหากอยากไล่หนูให้แตกกระเจิง ลองซื้อประทัดมาจุดใกล้ ๆ รังหนูเพื่อให้ครอบครัวหนูตกใจกับเสียงประทัดจนต้องอพยพกันออกไปแต่การจุดประทัดก็ต้องใช้ความระมัดระวังทั้งตัวผู้จุดเองและอย่าไปโยนใส่ตัวหนูโดยตรงไม่อย่างนั้นคงเป็นภาพที่สยองขวัญน่าดู
กรงดักหนู.jpg
5. กรงดักหนู
วิธีง่าย ๆ ที่นิยมใช้กันมานาน เพียงแค่ซื้อกรงดักหนูแล้วนำอาหารหรือเหยื่อล่อหนูใส่เข้าไป จากนั้นเมื่อหนูวิ่งเข้าไปในกรงแล้วกรงก็จะปิดลง เราก็แค่นำหนูในกรงไปปล่อยไว้ให้ไกลบ้านมากที่สุดและต้องไกลจากบ้านคนอื่นด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นจะเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้เพื่อนบ้านแทน
ซึ่งเทคนิคในการวางกรงดักหนูก็คือ ให้วางมากกว่า 1 กรง และวางให้หันหลังชนกันหนูจะได้เข้ามาติดกับได้ทั้งสองทาง อีกทั้งถ้ายิ่งวางติดกำแพงได้ก็ยิ่งดีเนื่องจากหนูมักวิ่งลัดเลาะแถว ๆ ริมกำแพงมากที่สุดและที่สำคัญเมื่อใช้กรงเสร็จแล้วให้ล้างจนสะอาดทุกครั้งเพราะกลิ่นของหนูตัวเดิมจะทำให้หนูตัวใหม่ไม่เข้าใกล้กรงจ้า
6. เม็ดไล่หนู
เม็ดไล่หนูก็ใช้หลักการเดียวกันกับการวางลูกเหม็นแต่แตกต่างกันตรงที่เม็ดไล่หนูจะมีลักษณะเป็นเม็ดสีดำ กลิ่นฉุนเมื่อนำไปวางไว้ใกล้จุดที่คาดว่าหนูจะออกมาปรากฏตัวจะทำให้หนูทนกลิ่นไม่ไหวและหนีหายไปในที่สุดซึ่งเม็ดไล่หนูสามารถหาซื้อได้ที่ร้านทุกอย่าง 60 บาทแต่ข้อเสียก็คือกลิ่นฉุนอาจทำให้ผู้ใช้มึนได้เหมือนกันนะคะ
7. สมุนไพรไล่หนู
ปัจจุบันมีสมุนไพรไล่หนูขายกันอยู่ทั่วไปสามารถหาซื้อได้ง่ายในซูเปอร์มาร์เก็ต โดยน้ำยาไล่หนูเหล่านั้นถูกสกัดขึ้นจากสมุนไพรไทย ๆ อย่าง กะเพรา, สะระแหน่ หรือใบมะกรูด เป็นต้นซึ่งข้อดีคือไม่มีพิษร้ายแรง และไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้แต่ข้อเสียคือมักมีอายุการใช้งานที่สั้น กลิ่นจางไว ทำให้ต้องใช้ในปริมาณมาก
ยี่โถ.jpg
8. ต้นยี่โถ
กลิ่นของต้นยี่โถทำให้หนูไม่ค่อยชอบใจนักดังนั้นหากปลูกต้นยี่โถติดสวนเอาไว้สักต้นสองต้น แล้วตัดเอากิ่งยี่โถไปวางไว้ในบริเวณที่หนูชุกชุม หนูซึ่งมีจมูกไวก็จะได้กลิ่นรุนแรงจนทนไม่ไหวและอพยพย้ายถิ่นฐานกันไปในที่สุด แต่ข้อสำคัญคือต้องหมั่นเปลี่ยนกิ่งใหม่บ่อย ๆเพราะเมื่อกิ่งยี่โถแห้งเหี่ยว กลิ่นก็จะจางลงค่ะ
9. เลี้ยงแมว
เป็นวิธีง่าย ๆ ที่หลายบ้านนิยมทำกันมานานยิ่งโดยเฉพาะในปัจจุบันที่เทรนด์เลี้ยงแมวกำลังมาแรง ถ้าคุณเป็นครักสัตว์แค่เลี้ยงแมวติดบ้านเอาไว้สักตัวแมวก็จะกำจัดโจทก์เก่าอย่างหนูให้หมดไปอย่างรวดเร็วเพราะแค่หนูมองเห็นและได้กลิ่นแมวที่เลี้ยงไว้ก็คงเตรียมเก็บข้าวเก็บของเผ่นออกจากบ้านแล้วล่ะจ้า
10. ทรายแมว
หากบ้านไหนไม่อยากเลี้ยงแมวให้วุ่นวาย ทางแก้อีกวิธีก็คือลองหาทรายแมวที่แมวฉี่ใส่เอาไว้แล้ว โดยอาจขอจากเพื่อนบ้านที่เลี้ยงแมวก็ได้แล้วนำทรายแมวใส่ถุงผ้า ไปวางไว้ใต้เพดาน หรือบริเวณที่หนูเพ่นพ่านหนูจะหลอนกับกลิ่นฉุนจากฉี่ของโจทก์เก่า จนไม่อยากย่างกรายผ่านมาอีกเลยแต่ทางที่ดีเลือกวางเฉพาะจุดดีกว่านะคะ ไม่อย่างนั้นคุณคงจะฉุนจนมึนตามหนูไปแน่ ๆ
11. ปิดทางเข้า
ลองสำรวจรอบ ๆ บ้านดูสักหน่อยว่ามีจุดไหนบ้างที่หนูสามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ เช่น ซอกเล็กซอกน้อยบนหลังคา, รอยแยกบริเวณฝ้าเพดาน, รูกำแพง, ประตู-หน้าต่างห้องครัว หรือท่อน้ำ เป็นต้นแล้วจัดการปิดรอยรั่วเหล่านั้นให้หมดสิ้นอย่างน้อยก็เป็นการป้องกันไม่ให้หนูสามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ง่าย ๆ
12. กำจัดแหล่งอาหาร
การจัดการบ้านให้สะอาดหมดจด ไม่มีเศษอาหารตกค้างจะเป็นการดีที่ทำให้หนูมองข้ามบ้านของคุณไปได้ง่าย ๆเนื่องจากแหล่งอาหารของหนูถูกกำจัดจนหมดสิ้นขืนอาศัยอยู่ในบ้านคุณต่อไปก็คงอดตายกันทั้งครอบครัวแน่ ๆจากนั้นลองจัดบ้านให้โล่งและไม่มีมุมอับ จะได้หมดที่ซ่อนตัวของครอบครัวหนูด้วยจ้า
ได้รู้จักกับวิธีไล่หนูแบบไม่ต้องฆ่ากันไปแล้วก็อย่าลืมลองนำวิธีเหล่านี้ไปลองใช้กันดูนะคะ ซึ่งบางวิธีก็อาจจะเหมาะกับหนูบางตัวลองใช้หลาย ๆ วิธีเผื่อจะเจอทางออกที่ดีเข้าสักทาง หากใครมีวิธีดี ๆก็อย่าลืมแบ่งปันเพื่อน ๆ บ้างนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้บอกลากับหนูได้ไว ๆ จ้า
ขอขอบคุณ กระปุก
เช็คอินสะสม: 1685 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 1 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 22%

โพสต์ 2013-9-13 18:58:39 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากครับ
เช็คอินสะสม: 2 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 1 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 40%

โพสต์ 2013-9-16 22:19:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

ตอบกระทู้

สำหรับคนที่ขี้เกียจพิมพ์
คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อนที่จะตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต

TOP