ดู: 470|ตอบกลับ: 1

A: โรคกะเพาะอาหาร

[คัดลอกลิงก์]
Dew
เช็คอินสะสม: 4536 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 48 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 46%

สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก

x
โรคกะเพาะ.jpg
โรคกระเพาะอาหารหรือ แผลในกระเพาะอาหาร หมายถึง แผลที่เกิดขึ้นในเยื่อบุทางเดินอาหารเฉพาะส่วนที่สัมผัสกับน้ำย่อยของกระเพาะอาหารที่มีกรดเป็นองค์ประกอบสำคัญ

สาเหตุ
เกิดจากปัจจัยหลายอย่างที่กระตุ้นให้มีการหลั่งกรดหรือน้ำย่อยมากขึ้นในกระเพาะอาหารร่วมกับเยื่อบุอาหารมีความสามารถต้านทานกรดได้ลดลงหรือมีการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงเยื่อบุลำไส้ได้ลดลงทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ง่ายขึ้น
1. ยา ยาลดไข้และยาแก้ปวดส่วนใหญ่ เช่นยาแอสไพริน ยาทัมใจ ยาลดการอักเสบ (NSAIDs)ยารักษาโรคกระดูกและข้ออักเสบ(ยกเว้นยาพาราเซตามอล) จะมีฤทธิ์ทำให้ความต้านทานของเยื่อกระเพาะอาหารและสำไส้ลดลง
2. การสูบบุหรี่ สารนิโคตินจากบุหรี่จะทำให้เส้นเลือดหดรัดตัว การไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงเยื่อบุกระเพาะอาหารน้อยลงทำให้แผลในกระเพาะอาหารหายช้าได้

3. ความเครียดจะไปกระตุ้นระบบประสาทโดยอัตโนมัติทำให้มีการหลั่งกรดหรือน้ำย่อยมากขึ้น
4. การกินอาหารที่มีรสเผ็ดจัดจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุกระเพาะอาหารและสำไส้โดยตรง ในขณะที่อาหารหมักดองชากาแฟ จะกระตุ้น ให้มีการหลั่งกรดหรือน้ำย่อยมากขึ้น
5. เชื้อโรค เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร เป็นแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในกระเพาะอาหาร หรือทำให้แผลที่เกิดแล้วหายช้าเกิดเป็นแผลซ้ำบ่อยและเชื่อว่าอาจจะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหารตามมาได้

อาการ
1. ปวดแสบหรือจุกแน่นท้องบริเวณลิ้นปี่
(เหนือสะดือ) เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุดมักเป็นเวลาท้องว่างหรือเวลาหิวจะบรรเทาได้ด้วยอาหาร หรือ ยาลดกรดผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการปวดมากหลังรับประทานอาหารรสเผ็ดจัดเปรี้ยวจัด หรือดื่มน้ำอัดลม เป็นต้น
2. อาการปวดมักเป็นๆหายๆมานานเป็นปี
3. ปวดแน่นท้องกลางดึก หลังจากหลับไปแล้ว
4. ปวดแน่น ท้องอืด มีลมมากในท้อง อาจมีคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย โดยเฉพาะหลังมื้ออาหารทำให้อิ่มง่ายกว่าปกติ กินได้น้อยลงเบื่ออาหารถ่ายอุจจาระดำ หรืออาเจียนเป็นเลือด


การปฏิบัติตัว
1. รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างต่อเนื่องนานประมาณ6–8 สัปดาห์ และปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องเหมาะสมเพื่อให้แผลหายขาด

• กรณีเกิดแผลร่วมกับการติดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ไพโลไร แพทย์จะสั่งยาฆ่าเชื้อโรคนี้ร่วมด้วย
2. ควรรับประทานอาหารให้ตรงเวลา3 มื้อ เคี้ยวอาหารให้ละเอียดหลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด รวมทั้งอาหารที่รับประทานแล้วทำให้มีอาการกำเริบ
3. หลีกเลี่ยงการดื่มสุราเบียร์ ชา กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำอัดลมและบุหรี่
4. หลีกเลี่ยงการรับประทานยาชุด ยาแก้ปวดเช่น ยาแอสไพริน ยาแก้ปวดข้อชนิด
NSAIDs ถ้ามีอาการปวด ยาที่ปลอดภัยสามารถรับประทานไดคือ ยาพาราเซตามอลพยายามทำจิตใจให้สบาย หลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เกิดความตึงเครียดต่างๆและรู้จักวิธีผ่อนคลาย

อาการผิดปกติที่ควรรีบมาพบแพทย์

1. อาการตกเลือดในกระเพาะอาหารพบได้บ่อยที่สุด ผู้ป่วยจะอาเจียนเป็นเลือดถ่ายเหลว ถ้าเสียเลือดมากจะทำให้มีอาการหน้ามืดวิงเวียน เป็นลม
2. กระเพาะอาหารทะลุ ในรายที่มีแผลเรื้อรังอยู่นานโดยไม่ได้รับการรักษาแผลอาจลึกมากขึ้นจนทะลุได้ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องช่วงบนเฉียบพลันรุนแรงหน้าท้องแข็งตึง กดเจ็บมาก
3. กระเพาะอาหารอุดตัน ในรายที่เป็นแผลเรื้อรังเป็นๆหายๆ จะเกิดพังผืดหดรัดตัวทำให้ช่องผ่านของอาหารแคบลง ผู้ป่วยจะกินได้น้อย อิ่มเร็ว มีอาเจียนหลังอาหารเกือบทุกมื้อเบื่ออาหาร น้ำหนักลด

ที่มา ... รพ.ศิริราช
เกณฑ์การให้คะแนนเงินยูโร ย่อ เหตุผล
s_burapa + 5 เนื้อหาดีมีสาระ.
คะแนนรวม: เงินยูโร + 5 
Tew
เช็คอินสะสม: 1262 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 1 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 53%

โพสต์ 2013-9-18 13:46:00 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณ จร้าา

ตอบกระทู้

สำหรับคนที่ขี้เกียจพิมพ์
คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อนที่จะตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต

TOP