เช็คอินสะสม: 4713 วัน เช็คอินต่อเนื่อง: 54 วัน
ความคืบหน้าการอัพเกรด: 48%
|
สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์
คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก
x
กูลิโกะ เป็นยี่ห้อขนมชื่อดังของญี่ปุ่น ผลิตโดย บริษัทเอซากิ กูลิโกะ จำกัด ผู้ก่อตั้งกิจการนามว่า ริอิจิ เอซากิ
ริอิจิเกิดในจังหวัดซางะ เกาะคิวชู ทางใต้ ปีค.ศ.1882 ตรงกับพ.ศ.2425 เมื่อเรียนจบระดับประถมศึกษาในการเรียน4 ปี ตอนอายุ 14 ปีก็เริ่มมาช่วยกิจการเภสัชกรรมของครอบครัว พร้อมกับอาศัยอ่านตำราชั้นมัธยมฯ ที่ขอยืมมา
ช่วงเวลานี้ไปพบครูที่อยู่ใกล้ๆ บ้านเพื่อศึกษาวิชาการต่างๆ รวมถึงการทำธุรกิจเรียนรู้ว่า ธุรกิจไม่ได้ทำเพื่อตนเองเท่านั้น แต่ต้องทำเพื่อสังคมด้วย หากคนขายได้กำไรจากการขายของและคนซื้อได้กำไรจากคุณค่าของสินค้าการใช้เงินจึงคุ้มค่า ริอิจิ เอซากิจึงถือหลักการว่า "ธุรกิจเท่ากับการบริการ" ตลอดชีวิตโดยจากโลกไปในปีพ.ศ.2523 ขณะอายุ 97 ปี
เขาก่อตั้งบริษัทเอซากิกูลิโกะ ในปีพ.ศ.2465 ที่โอซาก้า ชื่อบริษัทคำแรกมาจากนามสกุล ส่วนอีกคำคือ กูลิโกะเป็นคำย่อจาก ไกลโคเจน (Glycogen) โมเลกุลคาร์โบไฮเดรตเก็บสะสมไว้ในเซลล์ มีความเชื่อมโยงกับน้ำตาลในเลือด
มีเคล็ดว่า ยิ่งนักวิ่งรักษาระดับของไกลโคเจนไว้ได้นานเท่าไร ก็เท่ากับว่าความอึดก็จะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
ริอิจิสกัดไกลโคเจนจากหอยนางรมสด ในรูปแบบของน้ำตาลทำขนมที่สร้างชื่อให้กับบริษัทตัวแรก คือลูกกวาดคาราเมล มีโลโก้ที่กล่องเป็นรูปนักวิ่งบนลู่วิ่งสีน้ำเงินสื่อถึงไกลโคเจนหรือกูลิโกะที่กล่าวมา
พร้อมคำอธิบายว่าในการกินขนมคาราเมลกูลิโกะ 1 ชิ้นนั้น มีแคลอรีอยู่ที่แท่งละ 15.4 กิโลแคลอรี ซึ่งเพียงพอต่อการนำพลังงานไปใช้ในการวิ่งเป็นระยะทาง 300เมตร ส่วนฉากหลังเป็นวงกลมสีแดงธงชาติญี่ปุ่น และย่านดงบุริ แหล่งบันเทิงของเมืองโอซาก้า
ในปี 2488 ปีสุดท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2โรงงานกูลิโกะในโอซาก้าถูกทิ้งระเบิดพังยับ เช่นเดียวกับที่กรุงโตเกียวต้องปิดตัวลงทำให้บริษัทไม่สามารถผลิตขนมออกจำหน่ายได้ทั้งในและต่างประเทศ
อีก 6 ปีต่อมากิจการเริ่มฟื้นตัวและกลับมาเปิดโรงงานอีกครั้งในปี2494 พร้อมขยายสาขาไปเปิดโรงงานที่เกาะคิวชูและดำเนินกิจการรวมทั้งพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาดเรื่อยมา
ในปีพ.ศ.2509 บริษัทเอซากิ กูลิโกะ คิดค้นดัดแปลงขนมปังกรอบเพรตซ์แบบแท่งยาว(Pretz) มาเคลือบด้วยช็อกโกแลตทั้งแท่ง แล้วใช้กระดาษสีเงินมาห่อตรงปลายเพื่อไม่ให้มือเลอะเทอะเวลากินแต่ก็ติดปัญหาด้านต้นทุนและการผลิต สุดท้ายจึงเคลือบช็อกโกแลต (รวมถึงรสชาติอื่นๆ)โดยเว้นส่วนปลายแท่งไว้นิดหน่อยเพื่อให้เป็นเหมือนกับ "ที่จับ" ดังที่เห็นในปัจจุบัน
แต่เดิมขนมชนิดนี้ใช้ชื่อว่า ช็อกโกเทก (Chocoteck) ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่วัยรุ่นชาวญี่ปุ่นจนทำยอดขายอย่าง ฮือฮาในการออกวางจำหน่ายช่วง 2 ปีแรก ต่อมาจึงได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นป๊อกกี้ (Pocky) มีที่มาจากเสียง "ป๊อก" เวลากัดขนม
ตั้งแต่ปีพ.ศ.2514 ทางบริษัทผลิตป๊อกกี้รสชาติใหม่ๆออกมาเรื่อยๆ
บริษัทกูลิโกะรักษาความเป็นผู้ผลิตขนมชั้นนำระดับโลกมาอย่างยาวนาน นอกจากพัฒนาตัวสินค้าแล้วยังมีแผนการตลาดที่มีสีสันไม่หยุดนิ่ง เช่น เป็นสปอนเซอร์ให้กับการ์ตูนเรื่องเท็ตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28 และล่าสุดออกเวอร์ชั่นหนัง StarWars เทียบแท่งกูลิโกะป๊อกกี้ กับดาบเลเซอร์ ไลต์ เซเบอร์ ออกมาอย่างมีอารมณ์ขันและน่ากิน ขอขอบคุณ ที่นี่, รู้ไปโม้ด, น้าชาติ ประชาชื่น |
|