ดู: 273|ตอบกลับ: 3

A: แพทย์เผย หนังไก่ หนังหมู ช่วยลดความอ้วน โรคเบาหวาน

[คัดลอกลิงก์]
Dew
เช็คอินสะสม: 4713 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 54 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 48%

สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก

x
หนังไก่.jpg
ขาหมู หนังไก่ กินไปเลยนะทั้งรักษาเบาหวานและลดน้ำหนักได้" ผมบอกกับสมาชิกที่มากันเต็มพิกัดเพื่อเข้าเวิร์กช็อป 1 วัน ณ บัลวี สำหรับใครต่อใครที่ต้องการควบคุมเบาหวานและลดน้ำหนักด้วยสูตรการล้างพิษตับ อ่อน
"เหวอ...จะเป็นไปได้ยังไง" หลายเสียงถามกันเซ็งแซ่เหมือนคนดูรอบสนามมวย เวลาที่กรรมการผู้ตัดสินยกมือให้นักมวยนอกสายตาเป็นฝ่ายชนะค้านสายตาผู้ชม เพราะใครๆ ก็ถูกสอนกันมากว่า 40 ปีที่บอกว่า ถ้าใครอ้วน ไขมันสูง เบาหวานต้องงดกินหนังเป็ดหนังไก่งดกินคากิหรือขาหมูที่แสนโปรดปราน เพราะทั้งแคลอรีสูง ทั้งไขมันสูง
ด้วยคำสั่งสอนที่ฝังหัวมาว่าไขมันจากสัตว์เป็นอันตรายกับสุขภาพจะทำให้อ้วน ทั้งอ้วนในและอ้วนนอก
อ้วนภายในก็คือคอเลสเตอรอลสูงซึ่งจะตามมาด้วยโรคหัวใจ ความดันเลือดสูง

อ้วนภายนอก ก็คือโรคอ้วนตามด้วยเบาหวาน และอื่นๆ อีกสารพัด
ด้วยเหตุฉะนี้น้ำมันหมูหนังหมู หมูสามชั้น ขาหมูคากิ จึงถูกขึ้นบัญชีดำทางสุขภาพแล้วพลอยพาลพาโลไปถึงหนังไก่ หนังเป็ด ใครกลัวอ้วน กลัวคอเลสเตอรอลเวลากินไก่ก็ต้องเลาะหนังทิ้ง
แต่ผมกำลังประกาศกับผู้รักสุขภาพที่กำลังต้องการรักษาเบาหวานลดอ้วนว่าให้กินหนังไก่ ขาหมู นอกจากรักษาเบาหวานแล้ว ยังหุ่นดี ลดน้ำหนักได้อีกด้วย
"จริงนะคะจะบอกให้" คุณทิพวัลย์ยืนยัน
คุณทิพวัลย์เป็นสมาชิกตัวอย่างที่ผมเชิญมาเพื่อเป็นกำลังใจกับผู้รักสุขภาพที่มาเวิร์กช็อป เธอลดน้ำหนักไป 10 ก.ก. ใน 6 เดือน และลดอินซูลินที่ฉีดรักษาเบาหวานของเธอจากวันละ40U. จนไม่ต้องฉีดเลย ลดยาเบาหวานวันละ 4 เม็ดเหลือเม็ดเดียว และลดไตรกลีเซอไรด์จาก 253 ม.ก.%--> เป็น 163 ม.ก.%โดยทิ้งยาลดไขมันไปหมดสิ้นตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา
"เมื่อคุณหมอบรรจบบอกดิฉันให้กินขาหมูเวลากินไก่ก็ไม่ต้องเลาะหนังทิ้ง ดิฉันก็ไม่เชื่อเหมือนพวกคุณนี่แหละค่ะเพราะหมอคนอื่นห้ามเราไปซะหมดทุกอย่าง จนคนเป็นเบาหวานอย่างดิฉันไม่รู้จะกินอะไรเลยครั้นเมื่อโดนฉีดยากินยา ก็เกิดอาการหิว คว้าอะไรได้ก็กิน ในเมื่อไม่ให้กินหมูไก่ดิฉันก็เหลือแต่กินผลไม้ และแอบกินขนมบ้าง ให้อภัยตัวเองไปทุกที เบาหวานก็ยิ่งขึ้นตัวก็ยิ่งอ้วน" เธอกล่าว "แต่สูตรล้างพิษตับอ่อนกินหนังไก่ขาหมูได้ค่ะ"
"แต่ผมขออย่างหนึ่งว่าคุณต้องงดแป้งข้าวทุกชนิด ขนมและรวมไปถึงผลไม้ด้วย ห้ามกินเด็ดขาดมันคือตัวยักษ์ตัวมารที่ทำลายสุขภาพของพวกเรา เพราะทุกวันนี้เราอ้วน ไตรกลีเซอไรด์สูงคอเลสเตอรอลก็สูงตาม แล้วก็เบาหวานกัดกิน ก็ด้วยการกินคาร์โบไฮเดรตโดยมัวแต่กลัวกินเนื้อกินไขมันนั่นเอง เรียกว่ากำหนดมิตรศัตรูผิดหมดเห็นมิตรเป็นศัตรู เห็นศัตรูเป็นมิตร"
การที่คนสมัยนี้เราต่างกำหนดมิตรศัตรูไม่แจ่มชัดก็เพราะการโฆษณาชวนเชื่อผิดๆ เรื่องนี้มันล้ำลึกมีมาตั้งแต่เมื่อ 40-50 ปีที่แล้ว ผมขอย้อนเล่าให้ฟังอีกสักครั้งกล่าวคือ:
มีการศึกษาที่เรียกว่าการศึกษาฟรามิงแฮม ซึ่งสถาบันโรคหัวใจแห่งชาติสหรัฐอเมริการิเริ่มขึ้นในปี ค.ศ.1960 โดยมีสมมติฐานว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจหลอดเลือดเช่น ระดับคอเลสเตอรอลและระดับ LDL-Chol การสูบบุหรี่การดื่มสุรา น้ำหนักตัว เบาหวาน โรคเกาต์ เป็นต้น การออกกำลังกาย และระดับ HDL-Cholลดอัตราเสี่ยง
นี่คือจุดเริ่มต้นของการปลุกผีคอเลสเตอรอลแล้วไขมันสัตว์ก็เป็นแหล่งคอเลสเตอรอลจึงเป็นปิศาจสุขภาพนี่น่ากลัวไปด้วย
ก่อเกิดเป็นกระแสสูงของการไม่กินน้ำมันหมูหนังหมู คากิ ถ้าใครกินไก่ก็ต้องเลาะหนังไก่ทิ้งไป
เหตุการณ์ผ่านไป40 ปีมีการประชุมนานาชาติเมื่อค.ศ.1999 จึงมีผู้วิจารณ์การศึกษาฟรามิงแฮมว่า
"แม้ฟรามิงแฮมจะพบความสัมพันธ์ของคอเลสเตอรอลกับโรคหัวใจในคนหนุ่มและชายวัยกลาง แต่ไม่พบข้อเท็จจริงนี้ในผู้สูงอายุและในผู้หญิง และแม้แต่ในคนหนุ่มกับชายวัยกลางการวิจัยก็ไม่สามารถพิสูจน์ต่อถึงความสัมพันธ์ของโรคหัวใจพวกเขากับคอเลสเต อรอลในอาหารที่กินเข้าไปว่าจะสัมพันธ์โดยตรงหรือไม่แท้ที่จริงแล้วการวิจัยทางคลินิกหลายชิ้นยังไม่ สามารถพิสูจน์ได้เลยว่าไขมันอิ่มตัวในอาหารเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจ"
แสดงว่าการอ้างงานวิจัยฟรามิงแฮมมารณรงค์ต่อต้านอาหารไขมันจากสัตว์ล้วนเป็นเรื่องด่วนสรุป และตีความเกินจริง
แถมมีข้อสังเกตอีกว่าแม้การศึกษาฟรามิงแฮมจะพบปัจจัยอื่นๆ อีกมากที่สัมพันธ์กับการเกิดโรคหัวใจหลอดเลือดเช่น ภาวะขาดการออกกำลังกาย ความอ้วน ความเครียด การสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า ซึ่งล้วนได้รับการพิสูจน์ว่ามีความสำคัญ
แต่"ด้วยเหตุผลที่ลับลวงพราง" ข้อสรุปกลับมาเน้นที่เรื่องของคอเลสเตอรอลอย่างจริงจัง
พูดกันตรงๆก็คือ ถ้าโจมตีเรื่องคอเลสเตอรอลก่อโรคหัวใจ ไขมันจากสัตว์พาโรคอ้วนและไขมันเลือดสูงจะมีธุรกิจที่ขายดีคือ ยาลดไขมันกับธุรกิจน้ำมันพืชสองปัจจัยนี้จึงถูกยกขึ้นมาเป็นประเด็นรณรงค์จนเวอร์ แต่ในวงการไม่ยักจะมียาชนิดไหนกินแล้วขยันออกกำลังกายชนิดไหนกินแล้วไม่กินเหล้าสูบบุหรี่ จึงไม่มีธุรกิจที่จะมาโปรโมตปัจจัยอื่นๆ เหล่านี้
เหตุฉะนี้พวกเราซึ่งรับข้อมูลข่าวสารจึงแยกมิตรแยกศัตรูผิดๆพากันเลาะหนังไก่ทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย
ด้วยเหตุนี้ใครที่เป็นเบาหวานและพอมีสติสัมปชัญญะอยู่บ้างลองตรองดูเถอะว่า น้ำตาลในเลือดของเราสูงขึ้นเพราะอะไร?
นั่นก็เพราะอาหารคาร์โบไฮเดรตแท้ๆทีเดียว แต่อาหารไขมัน โปรตีน และพืชผัก ไม่ได้เป็นเหตุปัจจัยโดยตรงของการเพิ่มขึ้นของน้ำตาลในเลือด
ดังนั้นถ้าเราจะงดกินแป้งข้าว แล้วหันมากินให้อิ่มท้องด้วยเนื้อสัตว์กับผัก และถ้าจะเติมไขมันในอาหารบ้างก็ไม่ได้ผิดกติกาอะไร
แต่ต้องเน้นไว้ณ ที่นี้ว่า เป็นผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งเป็นเบาหวานที่เกิดขึ้นในวัยผู้ใหญ่สัมพันธ์กับอาหารการกิน ส่วนเบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งต้องพึ่งพาอินซูลินและเกิดขึ้นในวัยเยาว์นั้น มีความซับซ้อนกว่านี้มาก ยังไม่ควรใช้วิธีนี้
สำหรับคนอ้วนแม้ว่าอาหารไขมันจะมีแคลอรีมากกว่าอาหารประเภทแป้ง แต่ก็ต้องรู้อย่างหนึ่งว่าปัจจัยหลักที่คนอ้วนผิดพลาดอยู่ทุกวันนี้ เกิดจากการกินแป้งข้าว ขนมและผลไม้เป็นส่วนใหญ่ ขอเพียงแต่คนอ้วนเลิกกินคาร์โบไฮเดรต งดหวาน เลิกกินผลไม้ ก็เท่ากับขจัดศัตรูตัวร้ายต่อความอ้วนของตัวเองไปแล้ว
ครั้นหันมากินหมูไก่ ไข่ ปลา กับผัก ความอ้วนก็จะลดเอาๆ อย่างน่าพึงพอใจ
ปัญหามีอยู่ว่าเวลาที่เรางดแป้งซึ่งเป็นอาหารชนิดที่พร้อมเป็นพลังงานแก่เราได้รวดเร็วที่ สุด คนคุมอาหารสูตรนี้มักจะหิวบ่อยยิ่งถ้าคนที่มีความคิดว่า การลดความอ้วนต้องคุมอาหารแบบอดๆ อยากๆด้วยความเคยชินเก่า ก็มักจะรู้สึกผิดถ้ามื้อไหนกินอิ่มมากสักหน่อย ครั้นพอเปลี่ยนสูตรอาหารแล้วยังกินอย่างประหยัดถ้อยประหยัดคำต่อไปบ้างก็เน้นกินแต่ผักสลัด เนื้อสัตว์ไม่ยอมกิน คนเหล่านี้มักจะเกิดอาการหิวขึ้นมาระหว่างมื้อแล้วก็อดไม่ได้ที่จะขโมยกินขนมหรือกินผลไม้ อันเป็นการกินนอกลู่นอกทาง ทำให้คุมอาหารไม่สำเร็จ
ทางออกของเรื่องนี้ก็คือต้องล้างสมองตัวเองว่า เนื้อสัตว์กินดี ไขมันกินได้ อาหารสูตรนี้ไม่ใช่เน้นให้กินแต่ผักแต่มีสัดส่วนให้กินเนื้อ 1 ส่วน กินผัก 2 ส่วน จึงเป็นหน้าที่ของตัวเองที่ต้องเตรียมอาหารเนื้อสัตว์ให้มากพอที่จะกินอิ่ม
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งมื้อเย็นต้องกินอาหารมันๆจึงจะอยู่ท้อง ถ้ากินแต่สลัดมื้อเย็น กลางดึกก็ต้องตื่นขึ้นมาแอบเปิดตู้เย็นกินขนมอย่างแน่นอน
ผมจึงมักเน้นย้ำกับใครที่รักจะล้างพิษตับอ่อนว่า"ต่อไปนี้หนังไก่อย่าเลาะทิ้งแล้วนะครับขาหมูก็กินได้ ขาหมูพะโล้กินแล้วลดน้ำหนักด้วยสำหรับคนอ้วนทั่วไปส่วนคนที่เป็นเบาหวาน ระวังความหวานในน้ำพะโล้ ผมแนะนำให้กินต้มยำขาหมูไปเลย อิ่มอร่อยและหายอ้วนหายเบาหวานครับ"
ที่มา:โดย นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล matichon

ยังไม่ได้เช็คอิน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 4%

โพสต์ 2013-10-1 19:21:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
            ขอบคุณจ๊ะ  
เช็คอินสะสม: 3 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 1 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 56%

โพสต์ 2013-10-1 20:29:53 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ อ่านแล้วชักสับสนเสียแล้วสิ
เช็คอินสะสม: 1685 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 1 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 22%

โพสต์ 2013-10-1 20:37:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากครับ

ตอบกระทู้

สำหรับคนที่ขี้เกียจพิมพ์
คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อนที่จะตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต

TOP