ดู: 239|ตอบกลับ: 1

A: เยียวยา อกหัก ด้วยเทคนิค 5 ข้อ

[คัดลอกลิงก์]
Dew
เช็คอินสะสม: 4681 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 22 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 47%

สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก

x
อกหัก.jpg

เมื่อตกอยู่ในภาวะ “อกหัก” อาการที่มักพบคือ เสียน้ำตา ซึมเศร้า นอนไม่หลับ เจ็บแปลบจี๊ดใจ ครุ่นคิดต่าง ๆ นานา ความเจ็บปวดดังกล่าวอาจารย์หยกฟ้า อิศรานนท์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาจิตวิทยาสังคม คณะจิตวิทยาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เล่าให้ฟังอย่างน่าสนใจ ว่า มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ UCLA ศึกษาว่าคนเราอกหักสมองส่วนไหนทำงานที่รับผิดชอบเกี่ยวข้องกับความรู้สึกตรงนี้พบว่าเป็นสมองส่วนเดียวกันกับเวลาที่เราได้รับการบาดเจ็บทางร่างกาย ก็จะรู้สึกว่าเจ็บปวดรวดร้าว
สำหรับวิธีเบื้องต้นในการรับมือกับภาวะอกหัก ในกรณีที่เพิ่งอกหัก หรืออกหักได้ไม่นาน อาจารย์หยกฟ้า ได้ยกตัวอย่าง 5 วิธี คือ “แชร์ริ่งแบ่งปัน” อาจจะเล่าให้เพื่อนสนิทฟัง ระบายถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้น การได้ระบายออกก็ช่วยลดภาวะเครียดภายในจิตใจลงได้ได้แชร์ความรู้สึกของเราที่ไม่ดีกับคนอื่นความรู้สึกที่ไม่ดีของเราก็จะลดลงภายในใจ เพราะได้พูดออกไปแล้ว พอเราเก็บมันอัดอยู่ข้างในไม่รู้จะไประบายกับใคร พอระบายหลาย ๆ คนจะรู้สึกว่าดีขึ้น
วิธีการที่ 2 คือ “นั่งสมาธิ” ซึ่งเป็นผลการวิจัยของที่จอห์นฮอปกินส์โดยใจจะสบายขึ้น มีสติรู้อยู่กับตัวเอง ตอนนี้อารมณ์เกิดอะไร ระงับอารมณ์ของเราที่เกิดขึ้นได้แล้วก็จะเชื่อมโยงไปถึงข้อที่ 3 คือ “นอนหลับ”ต้องนอนหลับอย่างเพียงพอ แต่ ! อกหักแล้วมักจะนอนไม่ค่อยหลับเพราะครุ่นคิด เครียด แล้วจะทำอย่างไรให้นอนหลับ ก็คือใช้เทคนิคที่ 2 ทำสมาธิ หรือ ไปออกกำลังกาย ให้เหงื่อออก ได้ใช้พลังงานก็จะนอนได้ดีขึ้นกว่าการนั่งเฉย ๆ จับเจ่าอยู่กับความเครียด อยู่ในห้องอับ ๆ ไม่ดีไม่ได้ช่วยอะไร ออกไปข้างนอก เปิดหูเปิดตา
“เล่นกีฬาออกกำลังกาย” เป็นเทคนิคหนึ่งที่ช่วยทำให้อาการอกหักดีขึ้น เพราะร่างกายจะหลั่งสารโดปามีนเอ็นโดฟินส์ สารที่ช่วยให้มีความสุข
และเทคนิคที่ 5 นักจิตวิทยาแนะนำว่าให้ลองจินตนาการว่าเรามีบทสนทนากับอดีตแฟน อาจเขียนในไดอารี่ส่วนตัวระบายความรู้สึกให้หมด“แล้วปิดท้ายด้วยการเป็นฝ่ายบอกเลิกเอง” การสมมติจินตนาการอะไรบางอย่างแบบนี้ได้แสดงความรู้สึก คำพูดอะไรออกมาบ้าง จะรู้สึกไม่ใช่ถูกกระทำแต่เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งมีการศึกษาโดยนำคำแนะนำพวกนี้ไปทดลองกับกลุ่มตัวอย่างที่ประสบหรือ เผชิญกับปัญหาอกหัก ก็มีบางคนหลุดพ้นจากอาการจับเจ่าลง แล้วก็สามารถไปมีความรักครั้งใหม่ได้
นอกจากนี้ เวลาอกหักมีงานวิจัยที่บอกว่า ถ้าหลัง 4 เดือนแล้วยังไม่หายควรหาใครปรึกษาได้แล้ว อาจเป็นนักจิตวิทยาการปรึกษาก็ได้ ว่าจะทำวิธีการไหน หากปล่อยไว้จะไม่เป็นผลดีกับร่างกายและจิตใจ เพราะเวลาอกหักมักจะหดหู่ มีความสนใจใส่ใจกับสิ่งต่าง ๆ ได้น้อยลงไม่มีกะจิตกะใจอยากจะทำอะไร แรงจูงใจก็จะเปลี่ยน บางคนไม่อยากกินข้าวไม่อยากทำอะไรเลย ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายก็จะลดลง เพราะใจไปหมด
“อกหัก”เป็นภาวะที่ผ่านพ้นได้ อย่าลืมมองผู้ที่รักเรา โดยเฉพาะพ่อแม่ที่เป็น“อันคอนดิชั่นเนอร์ เลิฟ (Unconditional Love)” จริง ๆ ... ชีวิตต้องดำเนินต่อไป อย่าลืมรักตัวเอง และครอบครัว.
ขอขอบคุณที่นี่, จิ่มจุ่ม
เช็คอินสะสม: 1685 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 1 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 22%

โพสต์ 2013-10-8 17:52:59 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากครับ

ตอบกระทู้

สำหรับคนที่ขี้เกียจพิมพ์
คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อนที่จะตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต

TOP