ดู: 316|ตอบกลับ: 1

A:7พฤติกรรมการกินยอดแย่ พาแก่เร็ว

[คัดลอกลิงก์]
Dew
เช็คอินสะสม: 4715 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 56 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 48%

สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก

x
7 พฤติกรรมกินยอดแย่.jpg
สุขภาพ จะดีหรือไม่อยู่ที่ “ปาก”ของเราเป็นหลัก ด้วยการกินนี่เองที่ทำให้เกิดปาฏิหาริย์รักษาโรคได้หรือทำให้เจ็บป่วยได้ก็มาจากการกินเหมือนกัน กินดีได้ดี กินร้ายได้ร้าย ซึ่งการกินที่ควรเลี่ยงให้น้อยที่สุดหรือปลอดไปเลยมีอยู่ 7 ประการดังนี้

1. กินหวาน ไม่ ได้หมายถึงห้ามเด็ดขาดเลยครับเพียงแค่ขอให้ “อ่อนหวาน” ลงเพื่อจะได้คงสุขภาพที่ดีไว้นานๆทั้งอาหาร ของหวานและเครื่องดื่มครับ แค่นี้รอบพุงก็ไม่เกิดอาการ “ปลิ้น” แล้ว

2. กินไม่เคี้ยว สังคมยุคใหม่ต้องรีบกินจึงทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บตามมาจากอาหารที่
“เคี้ยวน้อย” ขอให้ท่านที่รักยอมเสียเวลาสักนิดตั้งใจเคี้ยวสักคำละ 10 ครั้งจนติดเป็นนิสัยจะทำให้ได้สุขภาพดีทั้งสมองและทางเดินอาหาร

3. กินดึก การรับประทานมากกว่า 3 มื้อหรือเพิ่มมื้อพิเศษยามราตรีเข้ามาจะพาให้
สุขภาพ แย่ลงเร็วครับเพราะร่างกายถูกดีไซน์มาให้พักผ่อนตอนกลางคืน คนที่กินดึกจะเสี่ยงต่อโรคอ้วน นอนไม่หลับกรดไหลย้อนและอีกมาก การกินดึกจึงเป็นบ่อนทำลายสุขภาพอย่างเร็วยิ่งทางหนึ่ง

4. กินแล้วนิ่ง กินแล้วไม่ขยับเข้าสู่ภาวะจำศีลหรือนั่งแปะอยู่แต่กับเก้าอี้ทำงานหลังอาหารมื้อใหญ่ล้วนเป็นภัยต่อ
สุขภาพ อย่างร้ายแรงครับ โรคอ้วน ไขมันในเลือดสูงความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจจะถามหา ขอให้หาทางออกกำลังกายหรือขยับตัวบ้างสร้างให้ติดเป็นนิสัยจะดีที่สุด

5. กินอิ่มแล้วอิ่มอีก การรับประทานอาหารด้วยความ “อยาก” มากกว่า “หิว” หรือการกินบุฟเฟ่ต์ที่ต้องพยายามกินทรมานมากกว่าอร่อยบ่อยๆ เป็นอันตรายต่อ
สุขภาพ โดยรวมนอกจากทำให้ร่างกายติดนิสัยการกินดุแล้วยังทำให้ได้รับแคลอรีเกินความต้องการต่อวันอย่างน่าตกใจ

6. กินซ้ำ วิถีชีวิตคนทำงานมักเกิดอาการกินซ้ำได้บ่อยครับ เป็นมนุษย์กะเพราไก่มนุษย์ข้าวไข่เจียวหรือมนุษย์บะหมี่ซอง กินเข้าไปก็ยิ่งไปซ้ำเติมสุขภาพให้ได้รับแต่สารอาหารซ้ำๆลองนึกดูว่าถ้ามีพิษก็จะได้พิษสะสมซ้ำๆ เช่นกัน


7. ปรุงก่อนกิน ท่านที่ชอบเติม เปรี้ยว เค็ม หวานฯลฯ เกิดอาการ “ติดปรุง” ขอให้ค่อยๆเปลี่ยนดีกว่าครับ เพราะวันหนึ่งคนเราไม่ควรได้น้ำตาลเกิน 6 ช้อนชาส่วนน้ำปลานั้นก็ไม่น่าเกิน 3 ช้อนชาครับทั้งนี้คือรวมทั้งที่มีอยู่ในอาหารนั้นๆ แล้วด้วย ดังนั้นจะเห็นว่ายิ่งปรุงเพิ่มยิ่งเสี่ยง

ทั้ง 7 ประการเป็นการกินที่ควรมีให้น้อยที่สุดหรือถ้าเลี่ยงได้ยิ่งดีเพราะอวัยวะในตัวเราหลายอย่างถ้าเสียไปเพราะการกินแล้ว “ซ่อมไม่ได้”และ “ไม่มีอะไหล่เปลี่ยน” อย่างสมอง กระเพาะอาหาร ตับหรือไตครับที่ใช้ของใครก็ไม่เหมือนของตัวเอง
ขอขอบคุณ ที่นี่, โมจิ
เช็คอินสะสม: 1685 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 1 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 22%

โพสต์ 2013-11-5 18:00:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากครับ

ตอบกระทู้

สำหรับคนที่ขี้เกียจพิมพ์
คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อนที่จะตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต

TOP