สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์
คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก
x
จะทำงานก่อน หรือเรียนต่อเลยดี หรือถ้าเลือกเรียนต่อจะเรียนด้านไหนดี ซึ่งการทำงานก่อน หรือเรียนต่อก่อนนั้น มีข้อดีที่แตกต่างกัน
จบตรีปีนี้จะเรียนต่อหรือทำงานก่อนดี (What to Choose between Study or Work afterGraduation) หลายคนที่ใกล้เรียนจบปริญญาตรี อาจกำลังปวดหัวกับคำถามที่ว่าจะทำงานก่อนหรือเรียนต่อเลยดี หรือถ้าเลือกเรียนต่อ จะเรียนด้านไหนดี ซึ่งการทำงานก่อนหรือเรียนต่อก่อนนั้น มีข้อดีที่แตกต่างกัน โดยบทความนี้ได้รวบรวมข้อดีของการทำงานก่อน และการเรียนต่อมาฝากน้องๆ นักศึกษาที่ใกล้เรียนจบ เพื่อเป็นตัวช่วยในการพิจารณาว่าจะเลือกเส้นทางไหนดีค่ะ เรียนต่อเลยทันที: สร้างโอกาสในการทำงาน การเรียนต่อเลยมีข้อดีคือ การสร้างโอกาสในการทำงาน เนื่องจากอาชีพบางประเภท เช่นนักวิจัย อาจารย์ นักกฎหมาย แพทย์การเรียนต่อปริญญาโทหรือปริญญาเอกเป็นสิ่งสำคัญมาก เหมือนเป็นข้อบังคับเพื่อความก้าวหน้าในสายอาชีพหากใครที่เรียนมาในสายนี้ การเรียนต่อเลยจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับสาขาอาชีพอื่น ๆ เช่น สายงานการเงิน อาจระบุคุณสมบัติของคนที่จะเข้าทำงานว่าต้องมีวุฒิปริญญาโทดังนั้น หากเราต้องการทำงานในตำแหน่งงานนั้น ๆ ก็มีความจำเป็นต้องเรียนต่อก่อน จึงจะมีโอกาสได้รับพิจารณาเข้าทำงาน เว้นแต่ว่าตัวเราจะมีคุณสมบัติโดดเด่นที่ทำให้องค์กรนั้นรับเข้าทำงานโดยไม่ต้องมีวุฒิปริญญาโทได้ เช่น ได้รับเกียรตินิยมเหรียญทอง มีใบอนุญาต (license) ที่จำเป็นต้องใช้สำหรับงานนั้นๆ นอก จากนี้ การเรียนต่อเลยทันทีเหมาะกับผู้ที่ทราบแน่ชัดว่าเป้าหมายอาชีพของเราคืออะไรหรือจะเอาความรู้ที่เรียนนั้นไปทำอาชีพอะไรหลังเรียนจบ เพราะหากเรายังไม่รู้ตัวเลยว่าชอบอะไรการเรียนต่อปริญญาโทไปโดยไม่ทราบว่าจะเอาไปทำอะไร หรือเรียนเพื่ออะไรก็จะเสียเวลาเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ได้ ทำงานก่อน: สร้างประสบการณ์ทำงานก่อนเลือกเรียนต่อโทในสาขาวิชาที่ตนเองชอบ เพราะการเรียนในมหาวิทยาลัยเป็นการเรียนภาคทฤษฎี เป็นการเรียนจากตำราเรียน ในขณะที่การทำงานเป็นการเรียนรู้ภาคปฏิบัติจริงการทำงานก่อนจึงมีข้อดีคือ สร้างประสบการณ์การทำงานให้ตนเอง ซึ่งช่วยให้รู้ว่าสิ่งที่เราเรียนมานั้นจะสามารถนำมาปรับใช้อย่างไรกับงานที่ทำ หรืออาชีพบางประเภท ทักษะที่เกิดจากการทำงานสำคัญกว่าปริญญาโท เช่น สายงานการตลาดสายงานพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ สายงานการผลิตภาพยนตร์ สายงานบันเทิง เป็นต้นอย่างไรก็ตาม ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่จำเป็นต้องเรียนต่อปริญญาโท เพราะทุกวันนี้คนที่จบปริญญาโทมีจำนวนมากพอๆกับคนที่จบปริญญาตรี ดังนั้น หากคน 2 คน มีประสบการณ์ทำงานไม่แตกต่างกันนักคนที่มีวุฒิปริญญาโท ก็อาจมีโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงานมากกว่าก็ได้ สำหรับ คนที่ไม่ได้มีเงินทุนเรียนต่อเลย การทำงานก่อนก็อาจจำเป็น เพื่อเก็บเงินเป็นทุนการศึกษาให้ตนเอง ยิ่งไปกว่านั้น องค์กรหรือบริษัทส่วนใหญ่มักมีทุนการศึกษาให้พนักงานโดยพนักงานต้องทำงานมาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี เรียกว่าการทำงานก่อนก็ช่วยให้เรามีโอกาสขอทุนการศึกษาเพื่อเรียนต่อได้มากขึ้นด้วย การทำงานหลังเรียนจบปริญญาตรีอาจเหมาะกับผู้ที่ยังไม่แน่ใจว่าตัวเราอยากทำงานอะไร เพราะหากเราเรียนต่อเลยเราอาจเรียนในสาขาวิชาที่เมื่อเรามาทำงานแล้วค่อยมาค้นพบว่า เราไม่ชอบ หรืองานนั้นไม่เหมาะกับเรา ซึ่งการทำงานก่อนไม่เพียงแต่ทำให้เรามีมุมมองที่กว้างมากขึ้นแต่ยังทำให้เราเข้าใจตัวเราได้มากขึ้นด้วยว่าเราชอบอะไร เหมาะกับอะไร จะได้เลือกเรียนต่อในสาขาวิชาที่ตัวเราชอบหรือสนใจอยากเรียน นอกจากนี้ ปริญญาโทบางสาขาวิชาต้องให้ผู้เรียนมีประสบการณ์ทำงานก่อนเช่น สาขา MBA ต้องมีประสบการณ์ทำงานอย่างน้อย 1-3 ปี เพื่อจะได้มีประสบการณ์จากการทำงานแลกเปลี่ยนพูดคุยกับผู้เรียนคนอื่นๆ ดังนั้น หากเราสนใจเรียนต่อด้านนี้ก็ต้องเลือกทำงานก่อนจึงจะเรียนได้ เรื่อง ของการเรียนต่อเป็นสิ่งที่ดีแน่นอน เพียงแต่เวลาที่เหมาะสมในการเรียนต่อของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกันหลายคนควรทำงานก่อน แต่สำหรับคนที่แน่ใจในชีวิตแล้วว่าจะเดินไปทางใดอาจเหมาะกับการเรียนต่อเลยแต่ไม่ว่าเลือกเส้นทางไหน การตั้งใจเรียนและมุ่งมั่นในการทำงานเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิตค่ะ ขอขอบคุณ ที่นี่, หมูอ้วน |