ดู: 345|ตอบกลับ: 1

A: จบตรีปีนี้จะเรียนต่อหรือทำงานก่อนดี

[คัดลอกลิงก์]
Dew
เช็คอินสะสม: 4678 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 19 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 47%

สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก

x
166243.jpg

จะทำงานก่อน หรือเรียนต่อเลยดี หรือถ้าเลือกเรียนต่อจะเรียนด้านไหนดี ซึ่งการทำงานก่อน หรือเรียนต่อก่อนนั้น มีข้อดีที่แตกต่างกัน
จบตรีปีนี้จะเรียนต่อหรือทำงานก่อนดี (What to Choose between Study or Work afterGraduation)
หลายคนที่ใกล้เรียนจบปริญญาตรี อาจกำลังปวดหัวกับคำถามที่ว่าจะทำงานก่อนหรือเรียนต่อเลยดี หรือถ้าเลือกเรียนต่อ จะเรียนด้านไหนดี ซึ่งการทำงานก่อนหรือเรียนต่อก่อนนั้น มีข้อดีที่แตกต่างกัน โดยบทความนี้ได้รวบรวมข้อดีของการทำงานก่อน และการเรียนต่อมาฝากน้องๆ นักศึกษาที่ใกล้เรียนจบ เพื่อเป็นตัวช่วยในการพิจารณาว่าจะเลือกเส้นทางไหนดีค่ะ
เรียนต่อเลยทันที: สร้างโอกาสในการทำงาน
การเรียนต่อเลยมีข้อดีคือ การสร้างโอกาสในการทำงาน เนื่องจากอาชีพบางประเภท เช่นนักวิจัย อาจารย์ นักกฎหมาย แพทย์การเรียนต่อปริญญาโทหรือปริญญาเอกเป็นสิ่งสำคัญมาก เหมือนเป็นข้อบังคับเพื่อความก้าวหน้าในสายอาชีพหากใครที่เรียนมาในสายนี้ การเรียนต่อเลยจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับสาขาอาชีพอื่น ๆ เช่น สายงานการเงิน อาจระบุคุณสมบัติของคนที่จะเข้าทำงานว่าต้องมีวุฒิปริญญาโทดังนั้น หากเราต้องการทำงานในตำแหน่งงานนั้น ๆ ก็มีความจำเป็นต้องเรียนต่อก่อน จึงจะมีโอกาสได้รับพิจารณาเข้าทำงาน เว้นแต่ว่าตัวเราจะมีคุณสมบัติโดดเด่นที่ทำให้องค์กรนั้นรับเข้าทำงานโดยไม่ต้องมีวุฒิปริญญาโทได้ เช่น ได้รับเกียรตินิยมเหรียญทอง มีใบอนุญาต (license) ที่จำเป็นต้องใช้สำหรับงานนั้นๆ
นอก จากนี้ การเรียนต่อเลยทันทีเหมาะกับผู้ที่ทราบแน่ชัดว่าเป้าหมายอาชีพของเราคืออะไรหรือจะเอาความรู้ที่เรียนนั้นไปทำอาชีพอะไรหลังเรียนจบ เพราะหากเรายังไม่รู้ตัวเลยว่าชอบอะไรการเรียนต่อปริญญาโทไปโดยไม่ทราบว่าจะเอาไปทำอะไร หรือเรียนเพื่ออะไรก็จะเสียเวลาเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ได้
ทำงานก่อน: สร้างประสบการณ์ทำงานก่อนเลือกเรียนต่อโทในสาขาวิชาที่ตนเองชอบ
เพราะการเรียนในมหาวิทยาลัยเป็นการเรียนภาคทฤษฎี เป็นการเรียนจากตำราเรียน ในขณะที่การทำงานเป็นการเรียนรู้ภาคปฏิบัติจริงการทำงานก่อนจึงมีข้อดีคือ สร้างประสบการณ์การทำงานให้ตนเอง ซึ่งช่วยให้รู้ว่าสิ่งที่เราเรียนมานั้นจะสามารถนำมาปรับใช้อย่างไรกับงานที่ทำ หรืออาชีพบางประเภท ทักษะที่เกิดจากการทำงานสำคัญกว่าปริญญาโท เช่น สายงานการตลาดสายงานพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ สายงานการผลิตภาพยนตร์ สายงานบันเทิง เป็นต้นอย่างไรก็ตาม ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่จำเป็นต้องเรียนต่อปริญญาโท เพราะทุกวันนี้คนที่จบปริญญาโทมีจำนวนมากพอๆกับคนที่จบปริญญาตรี ดังนั้น หากคน 2 คน มีประสบการณ์ทำงานไม่แตกต่างกันนักคนที่มีวุฒิปริญญาโท ก็อาจมีโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงานมากกว่าก็ได้
สำหรับ คนที่ไม่ได้มีเงินทุนเรียนต่อเลย การทำงานก่อนก็อาจจำเป็น เพื่อเก็บเงินเป็นทุนการศึกษาให้ตนเอง ยิ่งไปกว่านั้น องค์กรหรือบริษัทส่วนใหญ่มักมีทุนการศึกษาให้พนักงานโดยพนักงานต้องทำงานมาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี เรียกว่าการทำงานก่อนก็ช่วยให้เรามีโอกาสขอทุนการศึกษาเพื่อเรียนต่อได้มากขึ้นด้วย
การทำงานหลังเรียนจบปริญญาตรีอาจเหมาะกับผู้ที่ยังไม่แน่ใจว่าตัวเราอยากทำงานอะไร เพราะหากเราเรียนต่อเลยเราอาจเรียนในสาขาวิชาที่เมื่อเรามาทำงานแล้วค่อยมาค้นพบว่า เราไม่ชอบ หรืองานนั้นไม่เหมาะกับเรา ซึ่งการทำงานก่อนไม่เพียงแต่ทำให้เรามีมุมมองที่กว้างมากขึ้นแต่ยังทำให้เราเข้าใจตัวเราได้มากขึ้นด้วยว่าเราชอบอะไร เหมาะกับอะไร จะได้เลือกเรียนต่อในสาขาวิชาที่ตัวเราชอบหรือสนใจอยากเรียน นอกจากนี้ ปริญญาโทบางสาขาวิชาต้องให้ผู้เรียนมีประสบการณ์ทำงานก่อนเช่น สาขา MBA ต้องมีประสบการณ์ทำงานอย่างน้อย 1-3 ปี เพื่อจะได้มีประสบการณ์จากการทำงานแลกเปลี่ยนพูดคุยกับผู้เรียนคนอื่นๆ ดังนั้น หากเราสนใจเรียนต่อด้านนี้ก็ต้องเลือกทำงานก่อนจึงจะเรียนได้
เรื่อง ของการเรียนต่อเป็นสิ่งที่ดีแน่นอน เพียงแต่เวลาที่เหมาะสมในการเรียนต่อของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกันหลายคนควรทำงานก่อน แต่สำหรับคนที่แน่ใจในชีวิตแล้วว่าจะเดินไปทางใดอาจเหมาะกับการเรียนต่อเลยแต่ไม่ว่าเลือกเส้นทางไหน การตั้งใจเรียนและมุ่งมั่นในการทำงานเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิตค่ะ
ขอขอบคุณ ที่นี่, หมูอ้วน

ยังไม่ได้เช็คอิน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 49%

โพสต์ 2014-2-24 08:47:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด





มีเลิฟคอลลาเจน  (Melove) วิธีทำให้ผิวขาว ใส ดูอ่อนกว่าวัย

- มีเลิฟคอลลาเจน ทานง่าย ไม่ต้องชง รสชาติอร่อย พกพาสะดวก
  ผลิตให้พกพาง่าย ทานง่ายแบบผง เปิดซอง เทใส่ปาก
  อมไว้ ละลายทันที และดูดซึมไปใช้ได้เร็วกว่า ดีกว่า
- ปลอดภัย ไม่ต้องฉีด
- เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ทุกสภาพผิว
- มีเลิฟคอลลาเจน ให้ท่านมากกว่าด้วยคอลลาเจน (Collagen)120,000 มก.ต่อ 1 กล่อง
- ส่วนประกอบสำคัญอื่น เช่น คอลลาเจน กลูต้าไธโอน
  สารสกัดจากเมล็ดองุ่น วิตามินซี วิตามินอี และอื่นๆ

รับประกันความพึง พอใจ 100%
1 กล่องมี 60 ซอง
มีเลิฟคอลลาเจน รับประทานวันละ 4-6 ซอง เพียง 7 วัน
เห็นผลชัดเจน ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น ปลอดภัยกว่า สะดวกกว่า
รับรองโดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
เลขทะเบียน อย.10-3-06850-1-0079
มีสต็อคสินค้าสำหรับพร้อมจัดส่งทันที

สนใจติดต่อสอบถามฝ่ายขาย 082-5474149 คุณ โบ๊ต
Line ID : meloveclub  Pin BB : 281CEC7F

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่


สนใจเข้าดู
ที่เว็บ  >>>  >>คลิกเพื่อดูรายละเอียดเว็บไซต์<<  <<<

>>>>>>>  >>คลิกเพื่อดูรายละเอียดเว็บไซต์<<  <<<

>>>>>>>  >>คลิกเพื่อดูรายละเอียดเว็บไซต์<<  <<<

     
















TAGS : มีเลิฟ, melove, มีเลิฟ คอลลาเจน, melove collagen, รีวิว มีเลิฟ คอลลาเจน, รีวิว melove collagen, ราคา มีเลิฟ คอลลาเจน, ราคา melove collagen, มีเลิฟ คอลลาเจน ราคาถูก, melove collagen ราคาถูก, มีเลิฟ กลูต้าโธโอน, melove กลูต้าไธโอน, melove glutathione, มีเลิฟ คอลลาเจน ผิวขาว, melove collagen ผิวขาว, มีเลิฟ อาหารเสริม, melove อาหารเสริม, มีเลิฟ ลองเดอเซ่,melove longderse, มีเลิฟ คอลลาเจน ของแท้, melove collagen ของแท้, มีเลิฟ ยาขาว, melove ยาขาว, มีเลิฟ ขายส่ง, melove ขายส่ง, มีเลิฟ ราคาขายส่ง, melove ราคาขายส่ง, มีเลิฟ ราคาสมาชิก, melove ราคาสมาชิก, เช็คราคา มีเลิฟ, เช็คราคา melove, มีเลิฟ ของปลอม, melove ของปลอม, มีเลิฟ ของแท้ ราคาถูก, melove ของแท้ ราคาถูก, มีเลิฟ หน้าใส, melove หน้าใส,พรีเซ็นเตอร์ มีเลิฟ, พรีเซ็นเตอร์ melove, มีเลิฟ ส่งฟรี, melove ส่งฟรี, คอลลาเจน มาใหม่, collagen มาใหม่, คอลลาเจน ผิวขาว, collagen ผิวขาว























เช็คอินสะสม: 147 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 1 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 47%

โพสต์ 2024-6-17 13:04:48 จากอุปกรณ์พกพา | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณ​ครับ ขอบคุณ​ที่​แบ่งปัน​

ตอบกระทู้

สำหรับคนที่ขี้เกียจพิมพ์
คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อนที่จะตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต

TOP