แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dew เมื่อ 2014-3-5 17:34
เรือนจำ Justizzentrum Leoben
ตั้งอยู่ในประเทศออสเตรีย
แม้ว่ามันจะเป็นสถานกักขัง
แต่สภาพดีกว่าและดูหรูหราฟุ่มเฟือย
มากกว่าบ้านของประชาชนหลายคน
เป็นเรือนจำที่สะดวกสบาย
ในการอยู่ในห้องขังที่มีพื้นที่มากกว่าปกติ
พร้อมกับห้องน้ำส่วนตัว
ไม่จัดว่าเป็นเรือนจำที่มีมาตรฐานความปลอดภัย
เพราะมีเพียงลวดใบมีดเป็นสัญลักษณ์เพียงอย่างเดียว
ที่สร้างความแตกต่างระหว่างเรือนจำ
กับสถานที่อยู่อาศัยของชาวบ้านตามปกติ
ไม่น่าเชื่อที่ว่าความจริงนี่คือ
เรือนจำซานเปโดร ประเทศโบลิเวีย
ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสไปเยี่ยมชม
พักอาศัยและซื้อของในเรือนจำได้
เรือนจำแห่งนี้เฟื่องฟูคล้ายกับเป็นชุมชน
ที่ประกอบไปด้วยชนชั้นและประเภทนักโทษ
ที่แตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทและฐานะ
นักโทษที่ร่ำรวยจะสามารถซื้อหรือจ่ายเงิน
สำหรับการอำนวยความสะดวก
ในการใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำให้สุขสบายได้
ตามปกติจะต้องจ่ายเงินตั้งแต่ 1,000 - 1,500 เหรียญสหรัฐ
(ประมาณ 30,000-45,000.-บาท)
นักโทษจะสามารถซื้อห้องขังที่มีโทรทัศน์
มีห้องน้ำส่วนตัวพร้อมกับห้องครัว
ห้องขังที่มีการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว
จะอยู่ในความครอบครองของนักโทษ
จนกว่าจะสิ้นสุดระยะเวลาของการลงโทษ
หากคุณคิดว่าจะต้องมีความรุนแรงอยู่เป็นเสมอในเรือนจำ
และการใช้วิธีการแบบไร้มนุษยธรรม
เพื่อรักษาความสงบภายในเรือนจำแล้ว
ให้ลองดูที่เรือนจำ Halden
เป็นหนึ่งในเรือนจำที่สงบที่สุด ตั้งอยู่ในประเทศนอร์เวย์
มีการให้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
รวมทั้งตู้เย็นนาดเล็ก ห้องอาบน้ำส่วนตัว
และอาหารการกินสิ่งที่ดีต่าง ๆที่จะกินพร้อมกับกาแฟร้อน
นักโทษยังสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของป่าที่อยู่ใกล้เคียง
นอกจากนี้ห้องขังของนักโทษ ยังมีโทรทัศน์เพื่อความบันเทิง
หากคุณต้องการเยี่ยมชมสถานที่ดังกล่าวแล้ว
การก่ออาชญากรรมด้วยเพียงแขนสองข้างก็เพียงพอแล้ว
แต่ให้ระลึกไว้ว่า นักโทษที่เลวร้ายที่สุดอยู่ในเรือนจำแห่งนี้ด้วย
ภัตตาคารที่มีมาตรฐานระดับเยี่ยม
ไม่เพียงแต่การได้รับบริการด้วยอาหารที่ดี
แต่เรือนจำ Fortezza Medicea ประเทศอิตาลี
ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรือนจำ
แต่บรรดานักโทษยังบริหารจัดการภัตตาคารด้วยกันเอง
เรื่องที่น่าสนใจอย่างมากที่สุด คือ
ภัตตาคารนี้ไม่ได้เปิดให้บริการเฉพาะนักโทษเท่านั้น
แต่ประชาชนคนทั่วไปยังสามารถเพลิดเพลินกับอาหารอร่อย
ได้รับบริการที่ทัดเทียมกับในภัตตาคารระดับสี่ดาวเช่นกันด้วย
แม้ว่าส่วนใหญ่สองในสามของผู้ต้องขังในเรือนจำแห่งนี้
จะเป็นพวกแหกคอกกฎหมายอย่างร้ายแรง
แต่นักโทษเหล่านี้กลายเป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลกในปี 2007
เมื่อมีการออกแบบท่าทางการเต้นรำเขย่าขวัญ
ที่ร่วมกันออกแบบท่าเต้นจากบรรดานักโทษในคุกนี้
เรื่องนี้ไม่ได้เป็นการเต้นรำประจำวันเท่านั้น
ที่บรรดานักโทษหนึ่งพันห้าร้อยคนที่ร่วมแสดง
ตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา คุกแห่งนี้ได้ใช้วิธีการ
ฟื้นฟูนักโทษด้วยวิธีการที่ไม่ซ้ำแบบกัน– ท่าเต้นรำ
คุกกรงกระรอกเมื่อมองจากด้านนอกจะเหมือนอาคารทั่วไป
แต่ด้วยระบบย่อยที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
และไม่ซ้ำกันเลยภายในเรือนจำ
เรือนจำกรงกระรอกตั้งอยู่ใน Pottawattamie รัฐ Iowa
ลักษณะเฉพาะของเรือนจำพิเศษแห่งนี้ คือ
ห้องขังทุกห้องสามารถหมุนรอบตัว 360 องศาได้
เพื่อทำให้ผู้คุมเรือนจำ สามารถมองเห็น/ตรวจตรา
นักโทษทุกคนในเวลาเดียวกัน
ด้วยการสิ้นเปลืองพลังงานน้อยที่สุด
แม้ว่าเรือนจำแห่งนี้จะถูกปิด(เลิกใช้งาน)ในปี 1969
แต่สถาปัตยกรรมการสร้างอาคารที่่โดดเด่นนี้
ทำให้ผู้คุมนักโทษได้รับความสะดวกสะบายในการทำงาน
Joe Arpaio ในฐานะนายอำเภอ
ของเขตปกครองท้องที่ Maricopa รัฐ Arizona
เป็นผู้คิดค้นวิธีการที่แปลกประหลาด
ในการบังคับใช้กฎหมายกับนักโทษ
ด้วยการอยู่ในพื้นที่มีความร้อนกว่า 100 องศาฟาเรนไฮด์
โดยกักขังนักโทษไว้ในเมืองเรือนจำเต้นส์ผ้าใบ
แม้ว่าเต็นท์ผ้าใบที่ถูกสร้างไว้ข้างนอกเพื่อกักขังนักโทษ
แต่ความร้อนของรัฐ Arizona
ก็เพียงพอที่จะแผดเผานักโทษได้
เพราะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมนี้
ทำให้มีการประท้วงและร้องเรียนจากนักโทษ
แต่นายอำเภอ Joe Arpaio กลับยืนกรานว่า
ถ้าทหารสามารถทนต่อความร้อนขนาดนี้
ในช่วงทำสงครามได้แล้ว
แล้วทำไมพวกอาชญากรพวกนี้จึงทนไม่ได้
ตั้งอยู่ในกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กประเทศรัสเซีย
เรือนจำ Kresty ถูกสร้างขึ้นในยุค 1730
นี่คือหนึ่งในเรือนจำที่เลวร้ายที่สุดด้วย
มีคุกห้องมืดและการลงโทษอย่างรุนแรง
แม้ว่าคุกนี้จะได้รับการออกแบบ
และสร้างห้องขังจำนวน 960 ห้อง
สำหรับขังนักโทษจำนวน 1,150 คน
แต่มีการขังนักโทษถึง 12,500 คน
ที่ประมาณการไว้ในปี 1990
ซึ่งหมายความว่าห้องขังแต่ละห้อง
จะต้องจุนักโทษเกือบ 20 คน
ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีเมียร์ปูติน
ได้สั่งปิดเรือนจำ Kresty นี้แล้ว
และทำการดัดแปลงเป็นศูนย์การค้า
สถานบันเทีงและโรงแรม
เรือนจำขนาดใหญ่ Canto เป็นที่รู้จักกันว่า 'ชี้นำแสงสว่าง' ตั้งอยู่ในประเทศเปรู
การควบคุมภายในเรือนจำด้วยการชี้นำแสงสว่าง
ด้วยบรรดานักโทษด้วยกันเอง
ตามกำหนดตารางเวลา งานประจำวันและกฎระเบียบ
เรื่องหนึ่งในเรือนจำนี้ คือ เรือนจำจะบริหารจัดการโดยนักโทษ
ในขณะที่ผู้คุมไม่มีความจำเป็นหรือหมดยุคไปแล้วในขณะนี้
ตามกฎระเบียบ ชี้นำแสงสว่าง การทำงานและการศึกษา
เป็นภาคบังคับสำหรับนักโทษทุกคน
พวกนักโทษจะศึกษางานของ มาร์กซ์ เลนินเหมา
การเรียนการสอนที่นี่จึงเป็นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่
โดยใช้เป็นศูนย์กลางในการฟื้นฟูปรับนิสัยสำหรับนักโทษ
Aranjuez เป็นเรือนจำในเมืองเล็ก ๆ ของประเทศสเปน
ณ เรือนจำแห่งนี้ เด็ก ๆสามารถใช้ชีวิตอยู่กับพ่อแม่
จนกว่าเด็กจะมีอายุครบสามขวบ
เพราะตามกฎหมายสเปนแล้ว
การใช้สิทธิอำนาจปกครองบิดามารดา
ระบุไว้ว่า ครอบครัวควรอยู่ร่วมกัน
หลังจากเด็กอายุครบสามปีแล้ว
เด็กจะถูกส่งไปอยู่กับญาติๆของพวกเขา
ขณะที่พ่อแม่ยังต้องรับโทษต่อไปจนกว่าจะพ้นโทษ
เพราะเหตุที่เป็นเรือนจำสำหรับครอบครัว
ผู้ต้องขังกับครอบครัวจะได้รับการอำนวยความสะดวก
ด้วยห้องขังที่มีขนาดใหญ่กว่าห้องขังตามปกติพร้อมกับห้องน้ำ
ขอขอบคุณ ที่นี่, โมจิ