สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์
คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก
x
เป็นปัญหาคาใจสำหรับคนชอบออกกำลังกายเพื่อไดเอทลดน้ำหนักสำหรับการวิ่งด้วยความเร็วคงที่ทีละนานๆ กับการวิ่งหนักๆ สลับเบา แบบไหนช่วยเผาผลาญไขมันได้ดีกว่ากันโดยศูนย์เรียนรู้สุขภาวะมีคำตอบเรื่องนี้มาฝาก ปัจจุบันการวิ่งออกกำลังกายกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยชราเพราะสะดวก ใช้เวลาไม่นาน และไม่ต้องมีอุปกรณ์อะไรให้ยุ่งยากนักอาศัยสถานที่เหมาะๆ ก็สามารถวิ่งได้แล้ว แถมเดี๋ยวนี้สนามกีฬาที่เอื้อต่อการออกกำลังกายมีจำนวนมากขึ้นแต่ที่ยังคาใจ เป็นคำถามโลกแตกสำหรับผู้ที่ชอบวิ่งหลายๆ คน ว่าการวิ่งประคองด้วยความเร็วเดิมเป็นเวลานานกับการวิ่งหนักๆ สลับเบา แบบไหนจะช่วยเบิร์นไขมันได้ดีที่สุด
ผลปรากฏว่า ในระยะยาว การวิ่งหนักสลับเบาจะช่วยเผาผลาญไขมันได้มีประสิทธิภาพมากกว่า เนื่องจากการวิ่งด้วยความเร็วคงที่ตลอดเวลาร่างกายจะค่อยๆ ปรับตัวมีสมรรถภาพดีขึ้น และดึงพลังงานมาใช้น้อยลงเรื่อยๆ น้ำหนักจึงคงที่และไม่ลดฮวบฮาบเหมือนการวิ่งช่วงแรก
ส่วนทำไมการวิ่งหนักสลับเบาถึงเผาผลาญดีกว่า เมื่อเราเคลื่อนไหวในจังหวะสบายๆร่างกายจะได้รับพลังงานง่ายๆ จากออกซิเจนที่หายใจเข้าไปแต่เมื่อเราลองเปลี่ยนมาวิ่งแบบหนักๆ กล้ามเนื้อจะทำงานหนักขึ้นในการแปรรูปออกซิเจนทำให้เราใช้พลังงานเพิ่มขึ้นและเผาผลาญได้ดีกว่า
โดยในเวลา 30 นาที หากเราวิ่งหนักสลับเบาจะสามารถเบิร์นไขมันได้ดีถึง 400 แคลอรี่ แต่หากเราวิ่งช้าๆ เรื่อยๆจะสามารถเบิร์นไขมันได้เพียง 300 แคลอรี่ เท่านั้น
สำหรับโปรแกรมการวิ่งแบบหนักสลับเบา ควรทำการวอร์มอัพด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้งสั้นๆก่อน จากนั้นหาถนนเรียบๆ หรือสนามที่มีลู่วิ่ง วิ่งเต็มสปีดไปก่อน 15 วินาที ก่อนเปลี่ยนมาวิ่งจ๊อกกิ้งสบายๆ 60 วินาทีทำซ้ำแบบนี้ 6 รอบ สำหรับนักวิ่งหน้าใหม่ ค่อยๆ เพิ่มเป็น 10รอบ ใน 8 สัปดาห์ส่วนนักวิ่งหน้าเก่าควรเพิ่มเป็น 12 รอบ
ขอขอบคุณ ที่นี่, จิ่มจุ่ม, ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ
|