เช็คอินสะสม: 3006 วัน เช็คอินต่อเนื่อง: 2 วัน
ความคืบหน้าการอัพเกรด: 100%
|
สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์
คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก
x
ทั้งที่อยู่ในชั้นเรียนคณิตศาสตร์แต่ฉันกลับไม่ได้มีสมาธิอยู่กับพีชคณิตที่อยู่ตรงหน้า แต่ฉันกำลังนั่งนับแคลอรี่จากอาหารที่ฉันรับประทานเข้าไปในวันนั้นแทน ฉันจะนับทุกอย่างไม่พลาดแม้แต่หมากฝรั่งแท่งเดียว แยมสักหยด หรือก้านคื่นช่ายตลอดทั้งวันจนไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องเพื่อน การบ้าน หรือแม้แต่ความสนุกสนาน วันๆฉันจะหมกมุ่นอยู่กับแคลอรี่ น้ำหนัก ไขมันบนต้นขา และเกลียดชังตัวเองซึ่งเป็นการใช้ชีวิตที่ล่องลอยมาก ในที่สุดฉันก็ป่วยเป็นโรคอะนอเร็กเซียซึ่งเกี่ยวกับการกินผิดปกติที่อันตรายถึงชีวิตโดยการทรมานตัวเองให้อดอยากและลดน้ำหนักมากเกินไป อย่างไรก็ตามยังมีคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคนี้เป็นจำนวนมาก และนี่คือ 5 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคอะนอเร็กเซีย
ผู้หญิงขาดความมั่นใจที่คิดว่าตัวเองอ้วน
ขัดแย้งกับความเชื่อทั่วไปเนื่องจากโรคอะนอเร็กเซียไม่ได้เกิดจากความคิดที่เชื่อว่าตัวเองอ้วน บ่อยครั้งคนเราจะหมกมุ่นอยู่กับการรับประทานอาหารเพียงเพื่อต้องการควบคุมความรู้สึกท่ามกลางความวุ่นวายในชีวิต ขณะที่ฉันเป็นวัยรุ่นที่มีสุขภาพดีซึ่งรักในอาหารและการดูแลร่างกาย อย่างไรก็ตามเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงหรือความสับสนและไม่มั่นคงฉันจะหันไปรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพเพื่อควบคุมชีวิตของตัวเอง ในไม่ช้าก็จะลุกลามไปสู่การลดน้ำหนักที่มากเกินไป ความหมกมุ่น และภาวะซึมเศร้า
ร้องไห้เพื่อเรียกร้องความสนใจ
ผู้ที่เป็นโรคอะนอเร็กเซียจะไม่เรียกร้องความสนใจแต่จะอยากหายตัวไปจากโลกนี้มากกว่า ฉันได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้ใครสังเกตเห็นน้ำหนักที่หายไปอย่างรวดเร็วหรือนิสัยการรับประทานที่แปลกไปของฉันเลย ฉันซ่อนการกระทำเหล่านี้อย่างสุดความสามารถ ฉันปฏิเสธการรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นและกลายเป็นคนขี้โกหกเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากสิ่งที่ทำให้ฉันทุกข์ทรมาน
?แค่กินๆเข้าไป? ก็หายแล้ว
เพราะน้ำหนักที่ลดลงเป็นเพียงอาการเดียวที่เห็นได้ชัดของโรคอะนอเร็กเซีย ส่วนการกินเป็นวิธีแก้ปัญหาเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ปัญหาที่แท้จริงมีความซับซ้อนอย่างไม่น่าเชื่อ เช่น ภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวลที่ต้องเอาชนะ การควบคุมที่ต้องได้รับการปลดปล่อย ความกลัวที่ต้องเผชิญกับสุขภาพที่ย่ำแย่และสมควรได้รับการฟื้นฟู แม้ว่าผู้ป่วยโรคอะนอเร็กเซียเริ่มที่จะรับประทานอาหารได้อย่างปกติแต่การต่อสู้ก็ยังอีกยาวไกล
มีผลกระทบต่อผู้หญิงเท่านั้น
NEDA กล่าวว่าผู้หญิงชาวอเมริกันราว 20 ล้านคนและผู้ชายชาวอเมริกันราว 10 ล้านคนจะป่วยเป็นโรคการกินผิดปกติ (รวมทั้งโรคเบื่ออาหารด้วย) นอกจากนี้โรคการกินผิดปกติยังพบได้บ่อยในหมู่ดารานางแบบ นักวิ่ง นักเต้น นักยิมนาสติก และนักมวยปล้ำทั้งเพศชายและเพศหญิง
สิ่งที่ก้าวข้ามไปได้ง่ายๆ
สังคมส่วนใหญ่คิดว่าผู้ป่วยโรคเบื่ออาหารจะต้องผอมบางเป็นพิเศษและหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหาร นอกจากนี้ยังเดากันอีกว่าหากผู้ป่วยน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นโรคเบื่ออาหารของคนเหล่านี้ก็จะหายตามไปด้วย แต่โรคที่เกี่ยวกับการรับประทานอาหารไม่ได้หายไปอย่างน่าอัศจรรย์ขนาดนั้น แม้ว่าฉันอาจจะดูมีสุขภาพดีกว่าเมื่อตอนอายุ 14 ปี แต่รู้ไหมว่าฉันยังไม่หายจากโรคเบื่ออาหารเลย ไม่มีวันไหนผ่านไปได้โดยที่ฉันไม่คิดถึงจำนวนแคลอรี่ในอาหาร การจับไขมันรอบเอว การมองเห็นตัวเองในกระจกอย่างผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า หรือกังวลว่าฉันยังเผาผลาญแคลอรี่ไม่เพียงพอ ฉันต้องใช้ความตั้งใจจริงเพื่อที่จะได้มั่นคงทั้งทางร่างกายและจิตใจ ที่สำคัญฉันไม่แน่ใจว่าฉันจะผ่านการต่อสู้ครั้งนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบหรือไม่ แต่ฉันก็พยายามอยู่
ขอบคุณที่มา
Blogger : Tricia Thompson
Source : theeverygirl.com
|
|