เช็คอินสะสม: 470 วัน เช็คอินต่อเนื่อง: 1 วัน
ความคืบหน้าการอัพเกรด: 51%
|
สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์
คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก
x
เมื่อลูกหนี้ต้องไปศาล ยังไงก็ต้องไปศาลอย่านิ่งนอนใจผู้เขียนChoke Chira
เมื่อมีหมายศาลส่งมาถึงบ้านแล้ว อย่าทำเพิกเฉย ให้เตรียมตัวไปศาลตามนัดในหมายศาล เหตุผลในการไปศาลคือลูกหนี้ต้องสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิ์และความถูกต้องของตนเอง การที่ลูกหนี้ไม่ไปศาลมีแต่จะเสียเปรียบเจ้าหนี้ทำให้เหตุการณ์แย่หนักกว่าเดิม ให้ลูกหนี้จำไว้เลยว่ายังไงก็ต้องไปศาลอย่าเพิกเฉยเพราะหากลูกหนี้ไม่ไปศาล ศาลจะตัดสินไปตามคำฟ้องที่เจ้าหนี้ยื่นต่อศาล
เมื่อลูกหนี้ได้รับหมายศาล ให้ดูรายละเอียดตามหมายนัดของศาลว่าให้ไปศาลไหน(สถานที่) วัน เวลา ต้องไปให้ถูกต้องตรงวัน ถ้ามีเหตุจำเป็นในวัน-เวลาที่ศาลนัดให้ติดต่อขอเลื่อนการพิจารณาคดีออกไปได้ อย่ากลัวที่จะไปศาล ยอมเสียเวลาไปศาลเพื่อรักษาสิทธิ์ของตัวลูกหนี้เอง การไปศาลครั้งแรกของลูกหนี้ย่อมมีความวิตกกังวลและกลัว ขอให้รู้ไว้ว่าการไปศาลไม่ใช่เรื่องแปลกโดยเฉพาะการไปศาลตามคดีแพ่ง รับรองว่าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอย่างแน่นอน
ก่อนไปขึ้นศาล ลูกหนี้ต้องทำการบ้านสักนิดคือ ตรวจสอบรายละเอียดและความถูกต้องในหมายศาล นั่นคือสำนวนที่โจทก์(เจ้าหนี้)ฟ้องลูกหนี้ในเรื่องต่อไปนี้คือ คดีความหมดอายุหรือยัง ดูจำนวนเงิน(ยอดหนี้)ที่ฟ้องว่าถูกต้องหรือว่าฟ้องเกินยอดหนี้จริงหรือไม่ ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม เบี้ยปรับต่างๆ ในการที่ลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้สูงกว่าที่ตกลงในสัญญาหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ดูว่าสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ หากมีสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริงลูกหนี้มีสิทธิ์ทักท้วงหรือร้องต่อศาลได้ แต่ลูกหนี้จะพูดลอยๆไม่ได้ต้องมีหลักฐานเป็นเอกสารที่น่าเชื่อถือประกอบ การทักท้วงเป็นการยื้อเวลาไปได้อีกนานพอสมควร
วันไปขึ้นศาลให้ทำใจเย็นๆไว้ อย่าลืมนำบัตรประจำตัวประชาชนไปด้วย ให้ไปก่อนเวลาที่ศาลนัดสักครึ่งชั่วโมงเพื่อไปตรวจสอบว่าคดีของเราอยู่ห้องพิจารณาไหน บัลลังก์ไหน ตึกไหน ชั้นไหน ให้ดูได้ที่ประกาศกระดานนัดโดยถามเจ้าหน้าที่ภายในศาลได้ ถ้าลูกหนี้มีข้อทักท้วงหรือประสงค์จะสู้คดีก็แจ้งต่อศาลได้เลยแต่ต้องมีเหตุผลและหลักฐานที่มีความน่าเชื่อถือ ไม่ใช่เป็นการกล่าวอ้างลอยๆ หากลูกหนี้ยืนยันจะสู้คดีศาลก็จะเลื่อนสืบพยานออกไปอย่างน้อยก็สามเดือน(บางทีเป็นปีก็มี)
ถึงตรงนี้แล้วก็รอศาลนัดสืบพยานใหม่ ช่วงเวลาที่ลูกหนี้รอจะขึ้นศาลครั้งต่อไปทำให้มีเวลาที่จะเก็บเงินเก็บทองให้ได้สักก้อนเพื่อนำมาเจรจาเพื่อปิดบัญชีแบบมีส่วนลดให้กับลูกหนี้(Hair Cut) หากตกลงกับเจ้าหนี้ได้ก็จบไป แต่ถ้าตกลงกับเจ้าหนี้ไม่ได้ก็ว่ากันไปตามกระบวนการและขั้นตอนของศาล ที่สำคัญอย่าลืมว่า ยังไงลูกหนี้ก็ต้องไปศาลเพื่อทักท้วงสิ่งที่ไม่ถูกต้องให้ถูกต้องเพื่อรักษาสิทธิ์ของลูกหนี้ไว้อีกอย่างคือเพื่อยื้อเวลาออกไปอีกสักระยะหนึ่งให้มีเวลาหายใจหายคอและหาทางแก้ไขปัญหาหนี้สิน(Debt Solution)ในช็อตต่อไป.
|
|