ยังไม่ได้เช็คอิน
ความคืบหน้าการอัพเกรด: 8%
|
สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์
คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก
x
คนรักศิลปะบนเรือนร่างอย่างรอยสักจะต้องไม่พลาดกับการมีรอยสักบนร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นรอยสักแบบใด จะภายในร่มผ้าหรือบริเวณที่เห็นได้ชัดเจน และในยุคสมัยใหม่ที่ทัศนคติทางด้านลบเกี่ยวกับรอยสักนั้นเริ่มลดน้อยลงและมองเป็นงานศิลปะมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่การแปะป้ายว่าคนมีรอยสักว่าเป็นคนไม่ดี หรือเป็นคนที่ผ่านการจองจำอยู่ในเรือนจำ และในปัจจุบันที่คนเปิดกว้างทางความคิดมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะชายหรือหญิงต่างก็นิยมการมีรอยสัก ไม่ว่าจะเป็นความชอบส่วนบุคคล หรือจะเป็นแฟชั่น หรือจะเป็นการสักทับรอยแผลเป็น
อย่างไรก็ตาม ก็มีหลายคนที่ต้องการลบรอยสักที่ไม่ต้องการ อาจจะเพราะว่าสักรอยที่ไม่ได้ตั้งใจสักเช่น เผลอไปสักสัญลักษณ์ที่มีความหมายไม่ดี หรือบางคนที่สักชื่อแฟน ชื่อคนรัก เมื่อเลิกกันก็ไม่อยากจะมีความทรงจำในเรื่องนั้น ก็จำเป็นต้องลบรอยสักนั้น ยังมีหลายคนที่อาจจะต้องลบรอยสักบริเวณที่เสื้อผ้าไม่สามานรถปิดบังได้ หากต้องเข้าทำงานรับราชการหรือบริษัทที่มีกฎเคร่งครัดเกี่ยวกับคนมีรอยสัก ซึ่งยังคงมีอยู่ค่อนข้างเยอะในสังคมไทย ที่จะตัดสินคนจากภายนอกและจากรอยสัก คนที่เพิ่งมีรอยสักหรือกำลังคิดจะสักควรศึกษาอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับช่างสักและร้านสัก เพราะหากได้ช่างที่ไม่มีประสบการณ์หรือประสบการณ์น้อยในการสัก อาจจะได้รายที่ไม่ตรงกับที่เราต้องการ และยิ่งสักลงไปในผิวหนังแล้ว การแก้รอยสัก แก้รอยใหม่ก็จะเป็นงานที่ยากขึ้น แต่ถ้าเราได้รอยสักที่ถูกใจในครั้งแรกแล้ว การดูแลหลังการสักนั้นก็มีความสำคัญ หลังจากสักเสร็จใหม่ ๆ บริเวณรอยสักจะเกิดแผลซึ่งเป็นแผลเปิด การดูแลรอยสักอย่างถูกวิธีจะช่วยป้องกันแผลจากการติดเชื้อ การเกิดรอยแผลเป็น และภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ รวมทั้งช่วยให้รอยสักสวยงามคงทนอยู่ในระยะยาวได้ ดังนั้น ผู้ที่ชื่นชอบรอยสักหรือเพิ่งรับการสักมา ควรศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องและดูแลรอยสักอย่างเหมาะสมโดยตรวจสอบให้แน่ใจว่าช่างสักใช้ปิโตรเลียมเจลลี่ทาบาง ๆ ลงบนบริเวณรอยสักและปิดแผลด้วยพลาสเตอร์หรือผ้าพันแผลแล้วหรือไม่ เพื่อป้องกันแบคทีเรียและเชื้อโรคต่าง ๆ เข้าสู่ผิวหนัง และป้องกันการระคายเคืองจากการเสียดสีกับเสื้อผ้า หลังปิดแผลเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ให้เปิดผ้าออก จากนั้นล้างมือให้สะอาดก่อนล้างแผลด้วยสบู่ต้านเชื้อแบคทีเรียและน้ำสะอาด แล้วซับแผลให้แห้ง ทาปิโตรเลียมเจลลี่หรือขี้ผึ้งที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียบริเวณแผล โดยไม่ต้องปิดผ้าพันแผล เพื่อให้แผลสัมผัสกับอากาศและทำให้แผลแห้งเร็วขึ้น หลังรับการสัก แผลรอยสักจะหายเร็วหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับลักษณะและขนาดของรอยสักด้วย โดยรอยสักที่มีขนาดใหญ่อาจทำให้ผิวหนังบริเวณรอยสักมีอาการบวมแดงเป็นเวลานาน ซึ่งนอกจากการดูแลรอยสักข้างต้นแล้ว เจ้าของรอยสักสามารถดูแลแผลในแต่ละวันได้โดยล้างแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาดอย่างสม่ำเสมอ จากนั้นเช็ดแผลให้แห้งแล้วทาแผลด้วยขี้ผึ้งวันละ 2 ครั้ง เพื่อรักษาความชุ่มชื้น โดยทำเช่นนี้อย่างต่อเนื่องนาน 2-4 สัปดาห์หลังสัก
|
|