ยังไม่ได้เช็คอิน
ความคืบหน้าการอัพเกรด: 11%
|
สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์
คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก
x
ปัญหาผิวที่สร้างความวิตกกังวลใจของทั้งหนุ่มๆสาวๆและไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นหรือวัยไหนก็คงไม่พ้นปัญหาเรื่องผิวพรรณ โดยเฉพาะเรื่องสิวและเรื่องฝ้า ซึ่งถือว่าเรื่องฝ้านั้นเป็นปัญหาใหญ่เลยทีเดียว เพราะการรักษาฝ้านั้นมีความซับซ้อนและการเกิดฝ้าอาจมีได้หลายสาเหตุ บางคนอาจจะเกิดจากกรรมพันธุ์ บางคนเกิดจากไลฟสไตล์การใช้ชีวิตที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง ที่หนีไม่พ้นจะต้องโดนแสงแดดทำร้ายผิวอยู่เสมอ ยิ่งในเมืองไทยที่มีแดดแรงด้วยแล้ว ต่อให้อยู่ในที่ร่มอย่างภายในตึกอาคาร ก็คงจะไม่พ้นปัญหาเรื่องกระฝ้าอย่างแน่นอน
ก่อนจะเริ่มรักษาฝ้า เราควรศึกษาก่อนว่าฝ้านั้นเกิดจากอะไร และควรปรึกษาผู้ดูแลเรื่องฝ้าโดยเฉพาะ ไม่ควรหาซื้อครีมมารักษาเอง เพราะเราไม่รู้ว่าส่วนผสมนั้นมีอะไรบ้าง การใช้ครีมที่มีส่วนผสมที่อันตรายอาจจะเห็นผลแค่ในช่วงแรกแต่พอใช้ไปแล้วหน้าอาจพังได้ ฝ้าเป็นปัญหาผิวพรรณที่พบเจอได้บ่อย ทำให้หลายคนหมดความมั่นใจเมื่อเกิดฝ้าขึ้น โดยเฉพาะสาว ๆ ทั้งหลาย การป้องกันและทำความเข้าใจในการรักษาฝ้าอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ผิวกลับมาสู่สภาพปกติได้ใกล้เคียงมากที่สุด ฝ้าเกิดการจากผลิตเม็ดสีหรือที่รู้จักกันในชื่อของเมลานินที่มากเกินไปในบางบริเวณของผิวหนัง ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเกิดเป็นรอยสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงเทา โดยมักจะเกิดขึ้นบริเวณที่โดนแดด ได้แก่ โหนกแก้ม เหนือริมฝีปาก หน้าผาก หรือคาง ซึ่งจะเกิดกับผู้หญิงในช่วงวัยกลางคนอายุ 20-50 ปี และพบได้บ่อยกว่าในผู้ชาย สาเหตุการเกิดฝ้ายังไม่สามารถระบุได้ชัด แต่มีหลายปัจจัยเกี่ยวข้อง เช่น สีผิวของแต่ละคน ในคนที่ผิวคล้ำหรือมีผิวสีเข้มจะเกิดได้ง่ายกว่าคนผิวขาว โรคไทรอยด์ ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโพรเจสเทอโรนในร่างกายและการใช้ฮอร์โมนรูปแบบต่าง ๆ อย่างการรับประทานยาคุมกำเนิด การตั้งครรภ์ การรักษาด้วยฮอร์โมน ล้วนกระตุ้นให้เกิดฝ้าขึ้นได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงแสงแดดในชีวิตประจำวันที่เชื่อว่าเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดฝ้าได้ง่าย เนื่องจากรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดจะส่งผลกับเซลล์ผิวหนังที่เรียกว่าเมลาโนไซต์ ซึ่งควบคุมการสร้างเม็ดสีในผิวหนังขึ้น การรักษาฝ้า ฝ้ายังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ในบางกรณี เช่น สตรีมีครรภ์ ผู้ที่มีการรับประทานยาคุมกำเนิดหรือได้รับการรักษาด้วยการใช้ฮอร์โมน ฝ้าอาจจางหายได้เองเมื่อคลอดบุตรหรือหยุดการได้รับฮอร์โมนนั้น ๆ ซึ่งการรักษาฝ้าให้ได้ประสิทธิภาพดีอาจต้องมีการใช้วิธีการรักษาหลายวิธีไปพร้อมกัน โดยขึ้นอยู่กับชนิดของฝ้าและความรุนแรงที่เป็นด้วย เพราะฉะนั้นแล้วการรักษาฝ้าจึงจะต้องดูแลโดยมืออาชีพ แพทย์เฉพาะทางเท่านั้น นั่นก็คือแพทย์ผิวหนังที่ดูแลเรื่องฝ้าโดยเฉพาะ ที่อาจจะต้องใช้เลเซอร์ในการรักษา หรือจะเป็นการรักษาด้วยยา เป็นวิธีการรักษาด้วยการใช้ยาในรูปแบบครีมที่มีส่วนผสมหลักเป็นสารฟอกสีตัวเดียวหรือหลายตัวเป็นส่วนประกอบ เพื่อช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเพิ่มมากขึ้น เช่น ยาทากลุ่มกรดวิตามินเอหรือเรตินอยด์
|
|