สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์
คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก
x
ทุกวันนี้มักมีข่าวเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บรูปแบบใหม่เข้ามาเรื่อยๆทำให้หลายคนตระหนักถึงความสำคัญของประกันสุขภาพมากขึ้น เพราะการมีประกันสุขภาพนั้นถือว่าช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หรือ เจ็บป่วยกะทันหันก็ได้รับการเยียวยา คุ้มครองและ ชดเชย แต่ในทุกวันนี้ประกันสุขภาพในท้องตลาดมีให้เลือกมากมายแถมแต่ละบริษัทก็เสนอแผนประกันที่โดนใจและ คุ้มค่าหลายแห่ง แต่จะทำประกันสุขภาพที่ไหนดีบทความนี้มีคำแนะนำเกี่ยวกับการซื้อประกันสุขภาพฉบับแรกมาฝากกัน
ซื้อประกันสุขภาพฉบับแรกต้องเริ่มอย่างไร? สำหรับมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นทำประกันสุขภาพดีๆโดยจ่ายค่าเบี้ยประกันในราคาที่ไม่สูงมาก แต่ให้ความคุ้มครองครบถ้วนสักกรมธรรม์ มาดูกันว่าต้องเริ่มต้นอย่างไร
1. เช็กสวัสดิการที่ตนเองมี
สำหรับคนที่ทำงานประจำโดยปกติทางบริษัทจะมีสวัสดิการเกี่ยวกับประกันสุขภาพให้อยู่แล้วโดยเงื่อนไขของแต่ละบริษัทก็จะแตกต่างกันออกไป เช่น สิทธิ์ประกันสังคม กองทุนทดแทนหรือประกันกลุ่ม และสิทธิ์บัตรทอง สำหรับผู้ที่ทำงานอิสระ หรือ ฟรีแลนซ์ซึ่งการเช็คสวัสดิการตรงนี้ สามารถทำให้ทราบถึงสิทธิ์ความคุ้มครองที่คุณได้รับรวมถึงสามารถประเมินได้ว่าความคุ้มครองใดที่ตกหล่นไปและทำให้ทราบถึงสิทธิ์การรักษา ที่ต้องการเพิ่มเติมได้
2. คาดการณ์ความคุ้มครองที่ต้องการ
ประกันสุขภาพมีหลายความคุ้มครองและสิทธิ์การรักษาให้เลือกมากมายซึ่งจุดนี้จำเป็นต้องมีการประเมินกับตนเองว่าอยากได้ความคุ้มครอง ในลักษณะใดโดยอาจจะประเมินจาก ทุนประกัน วงเงินค่ารักษาพยาบาล เงินชดเชยรายได้การชดเชยค่าใช้จ่ายอื่นๆ เป็นต้น เมื่อความต้องการชัดเจน ก็จะทำให้สามารถเลือกซื้อประกันสุขภาพที่ตรงใจมากที่สุดได้
3.ส่วนต่างระหว่างสวัสดิการและความคุ้มครองที่ต้องการ
มาถึงส่วนที่ต้องคำนวณถึงความคุ้มครองที่ต้องการและสวัสดิการที่มีอยู่เพื่อให้เห็นถึงส่วนต่างที่เกิดขึ้นว่าความต้องการสิทธิ์การรักษาสุขภาพ ของเรายังขาดเหลืออยู่อีกเท่าไหร่อีกทั้งยังช่วยให้ทราบอีกว่าควรซื้อประกันสุขภาพแผนใดถึงจะตอบโจทย์กับความต้องการนอกจากนี้ควรคำนวณ เผื่อไว้สำหรับภาวะเงินเฟ้อที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย
4. ค่าเบี้ยที่จ่ายไหว
หลังจากที่มีแผนประกันในใจและความคุ้มครองที่ต้องการแล้วให้นำมาพิจารณาร่วมกับเบี้ยประกันสุขภาพที่ต้องจ่ายว่าสามารถชำระไหวหรือไม่ แน่นอนว่าความคุ้มครองที่ครอบคลุมมาก ย่อมมาพร้อมกับเบี้ยประกันที่สูงตามไปด้วยโดยทั่วไปแล้ว เราแนะนำให้คำนวณเบี้ยประกันอยู่ที่ 10% ของรายได้ต่อปีเพื่อที่คุณจะสามารถจ่ายได้โดยที่สภาพคล่องทางการเงินยังคงดำเนินไปได้อย่างราบรื่นรวมถึงสามารถเพิ่มเบี้ยประกันตามความ เหมาะสมได้กรณีที่ค่ารักษาพยาบาลมีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคต หรือ วงเงินในกรมธรรม์อาจจะไม่เพียงพอต่อการรักษา
5. เปรียบเทียบแผนประกัน
เมื่อได้ค่าเบี้ยที่เราพอจะจ่ายไหวแล้วขั้นต่อไปคือการเปรียบเทียบเพื่อค้นหากรมธรรม์ที่ตรงใจตอบโจทย์และคุ้มค่ามากที่สุดโดยเลือกจากประกัน แผนเดียวกันของบริษัทไหนจะคุ้มค่าและมีระยะเวลาคุ้มครองที่ตรงกับความต้องการมากที่สุดซึ่งในขั้นตอนการเปรียบเทียบประกันสุขภาพนี้ คุณสามารถเข้าถึงได้ง่าย ๆ เพียงแค่เข้าเว็บไซต์ สวัสดีดอทคอมช่วยให้ค้นหาแผนประกันได้อย่างง่ายดาย ภายใน 2 วินาทีก็จะปรากฏแผนประกัน จากบริษัทประกันกว่า 14 แห่ง ครบ จบในที่เดียว
6. ทำความเข้าใจรายละเอียดของกรมธรรม์
ไม่ว่าประกันรูปแบบไหนล้วนมีข้อมูลและเงื่อนไขที่ค่อนข้างเยอะการทำความเข้าใจรายละเอียดทั้งหมดก็เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง และลดปัญหาเข้าใจผิดเกี่ยวกับกรมธรรม์ที่ตกลงซื้ออีกด้วยทั้งนี้สามารถสอบถามกับบริษัทประกันหรือตัวแทนได้เลยหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม
7. อย่าลืมเช็กสิทธิประโยชน์
นอกเหนือจากเบี้ยประกันที่แต่ละบริษัทเสนอให้แล้วบางบริษัทอาจจะมีดีลหรือโปรโมชั่นพิเศษที่ส่งเสริมการขายดึงดูดให้ลูกค้ามาซื้อประกัน สุขภาพที่บริษัทของตนเอง เช่น การลดหย่อนภาษี , การผ่อนจ่ายทั้งแบบเงินสดและบัตรเครดิต , หากไม่เคลมก็จะได้ลดค่าเบี้ยในการต่อประกัน ในรอบถัดไปหรือส่วนลดค่าเบี้ยประกัน เป็นต้น
เลือกประกันสุขภาพที่ใช่ จากสวัสดีดอทคอม
ใครที่กำลังมองหาประกันและไม่รู้ว่าจะซื้อประกันสุขภาพที่ไหนดีขอแนะนำ ประกันสุขภาพจาก สวัสดีดอทคอมที่รวมประกันสุขภาพทุกแผน จากบริษัทชั้นนำของประเทศไทยมาไว้ที่นี่ ถึง 14 แห่งให้ทุกคนได้เปรียบเทียบแผนประกันที่ตอบโจทย์ ตรงใจ และคุ้มค่ามากที่สุดเบี้ยประกัน สบายกระเป๋า เริ่มต้นเพียงเดือนละ 1,200 บาท แต่ให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง700,000 บาท* คุ้มครองค่าห้องผู้ป่วยในสูงสุด 8,000 บาท/วัน* สามารถต่ออายุได้ถึง100 ปี ไม่ต้องสำรองจ่าย ที่สำคัญยังนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาท
การซื้อประกันสุขภาพก็เปรียบเสมือนการซื้อสุขภาพให้กับตนเอง เครื่องจักรยังต้องการมีซ่อมบำรุงเช่นเดียวกับร่างกายของเราก็ต้องได้รับการดูแลให้ดี หากเกิดการเจ็บป่วยต้องได้รับการรักษาที่ดีและปลอดภัยเพราะร่างกายไม่สามารถหาชิ้นส่วนหรืออะไหล่มาทดแทนได้ ในการตัดสินใจทำประกัน จำเป็นต้องมีการอาศัยความเข้าใจในตัวกรมธรรม์ก่อนตัดสินใจซื้อเพราะนั่นจะนำมาสู่ความคุ้มครองที่คุ้มค่ากับเบี้ยประกันที่จ่ายไป
|