รู้จัก "ออฟฟิศซินโดรม"โรคฮิตที่ไม่ใช่พนักงานออฟฟิศก็เป็นได้
ออฟฟิศซินโดรมแม้จะได้ชื่อว่าเป็นโรคฮิตของพนักงานออฟฟิศ แต่แท้จริงแล้วใครๆก็เป็นโรคนี้ได้หากมีพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยง แน่นอนว่าในกลุ่มมนุษย์เงินเดือน
ที่ต้องนั่งทำงานในอิริยาบถซ้ำๆ ก็จะสะสมจากความเมื่อยล้าจนพัฒนาไปเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมได้การทำความเข้าใจอาการและสาเหตุของโรคเพื่อรับมือ
จึงเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าการรอให้มีอาการเจ็บป่วยแบบเรื้อรังก่อนค่อยรักษา
ความหมายของออฟฟิศซินโดรม
ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) คือกลุ่มอาการโรคอย่างหนึ่ง ตั้งชื่อตามสภาพการทำงานในออฟฟิศเนื่องจากมักเกิดกับคนที่มีกิจกรรมประจำวันซ้ำๆ
เป็นเวลานานใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำ ๆ เป็นประจำและต่อเนื่องการใช้กล้ามเนื้อลักษณะนี้ส่งผลให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบและปวดเมื่อยบริเวณกล้ามเนื้อที่ถูก
ใช้งานจนอักเสบซึ่งมักไม่ได้ปวดที่จุดจุดเดียวบริเวณที่กล้ามเนื้ออักเสบบ่อย ๆ ในกลุ่มคนที่เป็นออฟฟิสซินโดรม ได้แก่ คอ ไหล่บ่า แขน ข้อมือ หลังส่วนบน
หรือส่วนล่าง หรือทั้งบนทั้งล่างอาการปวดเหล่านี้หากไม่รักษาอาจลุกลามกลายเป็นอาการปวดเรื้อรังได้
สาเหตุของออฟฟิศซินโดรมในกลุ่มพนักงานออฟฟิศ
จากหัวข้อที่แล้วออฟฟิศซินโดรมเกิดจากการใช้กล้ามเนื้อเดิมซ้ำไม่ค่อยเปลี่ยนอิริยาบถร่างกายในกลุ่มพนักงานออฟฟิศที่เป็นออฟฟิศซินโดรมมักเป็นคนที่
ต้องนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ไม่ได้ขยับตัวหรือเปลี่ยนอิริยาบถบ่อย นานวันเข้า กล้ามเนื้อที่ถูกใช้งานซ้ำ ๆเกิดอาการตึงจนกลายเป็น
กล้ามเนื้ออักเสบในที่สุดดังนั้นด้วยสาเหตุเหล่านี้จึงไม่ได้แปลว่าคนที่ไม่ใช่พนักงานออฟฟิศจะไม่มีโอกาสเป็นในกลุ่มคนที่ทำอาชีพฟรีแลนซ์ที่นั่งทำงาน
ใช้คอมพิวเตอร์เป็นประจำก็อาจเสี่ยงได้เหมือนกัน
อาการของออฟฟิศซินโดรม
ออฟฟิศซินโดรมเป็นกลุ่มอาการที่รวมหลาย ๆแบบที่อาจเกิดขึ้นเอาไว้ในอิริยาบถการทำงานแบบนั่งหน้าจอคอมทั้งวันนั้นมีการใช้งานกล้ามเนื้ออยู่
หลายส่วนเช่น มือ ข้อมือ แขน ไหล่ คอ หลัง ดวงตา เป็นต้นอาการกล้ามเนื้ออักเสบในออฟฟิสซินโดรมจึงอาจเกิดขึ้นพร้อม ๆ กันหลายอาการ
ซึ่งแต่ละอาการของออฟฟิศซินโดรมมีดังนี้
1.ปวดกล้ามเนื้อลำตัวเฉพาะส่วนอาการปวดมักมีปวดเป็นวงกว้าง ไม่สามารถชี้จุดหรือระบุตำแหน่งที่ปวดได้อย่างชัดเจนการปวดลักษณะนี้มักปวดบริเวณ คอ บ่า ไหล่ สะบัก
2.ปวดหัว หรือปวดหัวเรื้อรังหรือในบางคนอาจมีอาการปวดหัวไมเกรนร่วมด้วยสาเหตุเกิดจากความเครียดในสภาวะการทำงานและการใช้สายตาจ้องจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ หลายชั่วโมงต่อวัน
3.ปวดหลังเรื้อรังอาการนี้เป็นอาการที่พบบ่อยในคนที่เป็นออฟฟิศซินโดรม
4.ปวดขา กล้ามเนื้อขาตึงหรือเหน็บชา เกิดจากการนั่งนาน ๆ ทำให้กล้ามเนื้อกดทับเส้นเลือดดำส่งผลให้เลือดไหลเวียนผิดปกติ
5.ปวดตา ตาพร่ามัวมีสาเหตุมาจากการมองหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ หลายชั่วโมง
6.มือชา นิ้วล็อค ปวดบริเวณข้อมือ สาเหตุมาจากการใช้คอมพิวเตอร์แล้วต้องจับเมาส์จับคีย์บอร์ดในท่าเดิมนาน ๆ
วิธีป้องกันการเกิดโรคออฟฟิศซินโดรม
1.ปรับพฤติกรรมและสภาพแวดล้อมการทำงานให้เหมาะสมหมั่นลุกเดินหรือยืดกล้ามเนื้อบ่อย ๆ และปรับท่านั่งปรับส่วนสูงของโต๊ะและเก้าอี้
ให้เหมาะสมหากทำได้และพักสายตาจากการจ้องจอทำงานอย่างอื่นไปพลาง ๆ เช่น หันไปทำงานเอกสารแทน
2.เพิ่มการยืดกล้ามเนื้อและการออกกำลังกายที่ช่วยคลายกล้ามเนื้อ ลงไปในโปรแกรมออกกำลังกาย
3.หากการปรับพฤติกรรมและสภาพแวดล้อมการทำงานแล้วยังมีอาการหรืออาการที่มีอยู่ไม่ดีขึ้น หรืออาการปวดมีความรุนแรงมากขึ้น
ควรรีบพบแพทย์ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรักษาออฟฟิศซินโดรมให้เร็วที่สุด ถ้าหากซื้อประกันสุขภาพไว้ก็สามารถช่วยลดภาระค่ารักษาได้
ประกันสุขภาพคุ้มครองออฟฟิศซินโดรมไหม ?
ออฟฟิศซินโดรมเป็นกลุ่มอาการที่รวมหลาย ๆอาการการรักษาจะเน้นไปยังอาการนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ปวดหัว ไมเกรน ปวดตาปวดกล้ามเนื้อ
แม้การรักษาจะมีหลายแบบแต่ขอยกตัวอย่างการรักษาแบบทำกายภาพบำบัดซึ่งประกันสุขภาพทั่วไปมักไม่คุ้มครองเนื่องจากผู้ป่วยไม่ได้ เข้าข่ายที่ต้องนอนโรงพยาบาล หรือไม่ใช่ผู้ป่วยใน (IPD) นั่นเอง แต่ก็ใช่ว่าประกันสุขภาพจะไม่คุ้มครองเสมอไปสำหรับประกันสุขภาพแบบ
มีความคุ้มครองกรณีผู้ป่วยนอก (OPD) บางแผนประกันก็ให้ความคุ้มครองกรณีที่ต้องทำกายภาพบำบัดซึ่งอาจต้องมีการยืนยันด้วยใบรับรองแพทย์
เพื่อเบิกค่ารักษากับบริษัทประกัน
การทำงานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันที่ไม่สามารถเลี่ยงได้เมื่อมีอาการปวดเมื่อยเราก็มักยืดเส้นยืดสายคลายกล้ามเนื้อแต่หากสงสัยว่าเป็นออฟฟิศ
ซินโดรมแม้จะยังไม่รุนแรง แต่ก็สร้างความรำคาญและความไม่สบายตัวให้ผู้ที่เป็นโรคได้ ยิ่งไปกว่านั้นหากเป็นแล้วไม่ได้รักษาปล่อยไว้อาจทำให้ออฟฟิศ
ซินโดรมรุนแรงทรุดหนักลง จนอาจกลายเป็นอาการปวดเรื้อรังได้
ทำเรื่องประกันสุขภาพให้เป็นเรื่องง่ายๆคลิก ประกันสวัสดีดอทคอม ประกันสุขภาพออนไลน์ คุ้มครองครบ จบที่เดียว สวัสดีดอทคอม โทร 02 098 599