ดู: 90|ตอบกลับ: 0

เคลมประกันรถยนต์ให้ราบรื่นและมีสติทุกเหตุการณ์ ประกันสวัสดีดอทคอมมีคำตอบ

[คัดลอกลิงก์]
เช็คอินสะสม: 81 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 1 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 20%

สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก

x
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย melonnergia เมื่อ 2023-11-29 10:30

pic_CAR_newbie_car_crash_02_0778851ab5.jpg

ทุกวันนี้การใช้รถยนต์สามารถเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้หลากหลายรูปแบบทั้งแบบมีคู่กรณี
เช่น การขับรถชนกับรถอีกคน และแบบไม่มีคู่กรณีเช่น ขับรถชนต้นไม้รถชนเสาไฟฟ้า ถอยชนรั้วบ้าน
ชนกระถางต้นไม้ การถูกชนแล้วหนี น้ำท่วมรถต้นไม้โค่นทับรถ เป็นต้น ขั้นตอนในการเคลมแต่ละกรณี
ก็อาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อย

นอกจากนี้การเคลมความคุ้มครองกับบริษัทประกันยังมีการแบ่งออกเป็น2 ประเภท โดยทั่วไปจะเรียกว่า
เคลมสดและเคลมแห้ง ทั้ง 2 แบบต่างกันตรงที่

การเคลมสด จะเป็นการเคลมประกัน ณ ที่เกิดเหตุ

แต่เคลมแห้ง จะเป็นการเคลมประกันหลังจากเกิดเหตุไปแล้วแต่ไม่ควรเกิน 2-3 วัน

ขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์ ณ ที่เกิดเหตุ หรือเคลมสด

หากเกิดเหตุแล้วผู้ถือประกันรถยนต์ต้องการเคลมประกันรถยนต์ทันทีณ ที่เกิดเหตุ ปกติแล้วจะต้องให้
เจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันเข้ามาประเมินสถานการณ์ซึ่งสามารถทำตามง่าย ๆ เพียง 5 ขั้นตอนได้แก่

1.ตั้งสติแล้วโทรแจ้งไปที่ศูนย์ประกัน

เมื่อเกิดเหตุขึ้นสิ่งแรกที่ต้องทำมากที่สุดคือการตั้งสติ และประเมินสถานการณ์เพื่อความปลอดภัย
ของตัวเองให้พยายามเอาตัวเองหรือเคลื่อนรถไปข้างทางหากทำได้จากนั้นให้โทรแจ้งไปที่
ศูนย์ประกันรถยนต์โดยต้องแจ้งข้อมูลดังต่อไปนี้ให้กับเจ้าหน้าที่ปลายสาย ได้แก่ หมายเลขกรมธรรม์
ชื่อ ทะเบียนและยี่ห้อรถ ตำแหน่งที่เกิดเหตุ และรายละเอียดของเหตุการณ์หรืออาจมีการสอบถามอื่นๆ
เพิ่มเติมแล้วแต่กรณีหลังจากนั้นบริษัทประกันจะมีการประสานตัวแทนจากบริษัทให้ออกมาเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์

อ่านบทความเพิ่มเติม >>เคลมประกันรถยนต์

2.ระหว่างรอตัวแทนประกัน ให้เตรียมเอกสารไว้

หลังจากติดต่อบริษัทประกันได้แล้วอาจใช้เวลาประมาณหนึ่งกว่าตัวแทนประกันจะมาถึงที่เกิดเหตุ
ระหว่างนี้ให้เตรียมเอกสารต่าง ๆ ที่อาจได้ใช้สำหรับยื่นเรื่องเคลมความคุ้มครองเช่น บัตรประชาชน
ใบขับขี่ เล่มทะเบียนรถหากมีการบันทึกภาพจากกล้องหน้ารถสามารถเช็กภาพเพื่อดูรายละเอียด
หรือถ่ายภาพเก็บหลักฐาน และภาพจุดที่รถเกิดความเสียหายไว้

3.รอเจ้าหน้าที่ประเมินเหตุการณ์

เมื่อเจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันมาถึงแล้วจะทำการประเมินเหตุการณ์หากเหตุการณ์เป็นรถชนแบบ
ที่มีคู่กรณีจะต้องมีการตรวจสอบด้วยว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายถูกหรือผิดโดยอาจมีการเรียกค่าเสียหาย
ส่วนแรก (Deductible) จากฝ่ายที่ผิดเพื่อเยียวยาคู่กรณีก่อนตามแต่ที่ตกลงไว้กับทางบริษัท
แต่หากเหตุการณ์เป็นแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ชนต้นไม้ ชนรั้ว ชนเสาไฟฟ้ากรณีนี้ผู้ขอเคลมประกัน
จะต้องจ่ายค่า Excess หรือเสียหายส่วนแรกก่อน


4.รับใบประเมินความเสียหาย

เมื่อได้ประเมินเหตุการณ์และประเมินความเสียหายแล้วทางเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันจะออก
ใบประเมินความเสียหายให้แก่ผู้ถือประกันรถยนต์เพื่อนำรถไปซ่อมที่อู่ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ
รายละเอียดของใบประเมินความเสียหายหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเคลมผลประโยชน์ระหว่างซ่อม
สามารถสอบถามรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ได้โดยตรง

5.นำรถและใบประเมินความเสียหายไปซ่อมที่อู่

ขั้นตอนนี้คือการนำรถไปเคลมกับอู่ซ่อมรถในเครือของบริษัทประกัน(เช็คเบี้ยประกันรถยนต์คลิก)
โดยจะต้องนำใบประเมินความเสียหายให้ทางอู่ด้วยระยะเวลาในการซ่อมขึ้นอยู่กับความเสียหายและอู่ซ่อม
ระหว่างนี้ผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์สามารถติดต่อบริษัทประกันเพื่อขอเคลมผลประโยชน์ระหว่างซ่อมได้
(ถ้ามี) โดยอาจมีการเรียกเอกสารหรือหลักฐานเพิ่มเติม เช่น ใบรับรถจากอู่ซ่อมหรือภาพจากอู่ซ่อมรถ
แล้วแต่ข้อกำหนดของแต่ละบริษัท

เมื่อเกิดเหตุแต่ละครั้งขอเพียงตั้งสติและติดต่อบริษัทประกันให้เร็วที่สุดเพื่อรับทราบข้อปฏิบัติและเตรียมตัว
ได้อย่างถูกต้อง ทั้งนี้การดูแลผู้ถือประกันรถยนต์และรายละเอียดในการเคลมอาจขึ้นอยู่กับความคุ้มครอง
ของแผนประกันและขั้นตอนการบริการของบริษัทประกัน

ทำเรื่องประกันให้เป็นเรื่องง่าย ๆคลิกสวัสดีดอทคอม ประกันรถยนต์แบบผ่อนให้คุณผ่อนเงินสด 0% นาน 12เดือน ไม่ง้อบัตรเครดิต



*
เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนดประกันออนไลน์ คุ้มครองครบ จบที่เดียว สวัสดีดอทคอม โทร 02 098 5999


ตอบกระทู้

สำหรับคนที่ขี้เกียจพิมพ์
คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อนที่จะตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต

TOP