สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์
คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก
x
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย melonnergia เมื่อ 2023-12-7 13:52
โดยทั่วไปแล้วเมื่อขับรถชนกับอะไรสักอย่างไม่ว่าจะเป็นรถสิ่งกีดขวาง ทั้งมีและไม่มีคู่กรณี เหตุการณ์เหล่านี้ล้วนมีโอกาสเกิดขึ้นกับผู้ขับขี่รถยนต์อยู่แล้วความยุ่งยากต่อจากนั้นคือการ ไกล่เกลี่ยค่าเสียหายและซ่อมรถ แต่ถ้าเรามีประกันรถยนต์เราสามารถให้ตัวแทนมาช่วยเหลือ ในสถานการณ์นี้ได้ซึ่งก่อนจะรีบโทรหาประกันเราต้องคำนึงถึงสถานการณ์ต่าง ๆ โดยเริ่มต้นดังนี้
1.ตั้งสติและหยุดรถเป็นอันดับแรก
เมื่อรู้ตัวว่าขับรถชนกับอะไรบางอย่างหรือรู้ตัวว่ารถเราถูกชน ให้หยุดรถเป็นอันดับแรกเพราะใน ช่วงเวลาที่คับขันแบบนี้เราอาจยังไม่ทันรู้ตัวก็ได้ว่าใครเป็นฝ่ายผิดการขยับรถหรือยิ่งฝืนขับออก จากสถานที่เกิดเหตุอาจทำเรากลายเป็นคนที่ชนแล้วหนีได้โดยปกติหากเกิดเหตุบนทางหลวง ส่วนใหญ่มักมีกล้องวงจรปิดอย่างน้อยการไม่ขยับรถหลังจากเกิดเหตุจะช่วยพิจารณาได้ง่ายว่า ใครเป็นฝ่ายผิดโดยเฉพาะในกรณีที่ไกล่เกลี่ยกันไม่ลงตัวภาพจากกล้องวงจรปิดจะช่วยให้พิจารณาง่ายขึ้น
2.ตั้งสติและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน
เมื่อเราขับรถชนเราอาจจะหงุดหงิด โกรธประหม่าหรือตื่นกลัวอยู่ หลังจากตั้งสติหยุดรถได้แล้ว สิ่งที่ต้องทำถัดมาคือการประเมินสถานการณ์ว่าเราชนกับอะไร หากไม่มีคู่กรณีก็ดีไปแต่ถ้ามีคู่กรณี เราอาจต้องลงไปพูดคุยไกล่เกลี่ยเบื้องต้นซึ่งควรพุดคุยชี้แจงเจตนาให้ชัดเจนแต่ถ้าอีกฝ่ายดูท่าแล้ว มีอารมณ์ฉุนเฉียวเพื่อเลี่ยงการปะทะเราควรอยู่ในรถแล้วพยายามคุยไกล่เกลี่ยผ่านกระจกรถก่อน จะดีกว่าในสถานการณ์ที่มีคนบาดเจ็บ อย่าลังเลที่จะโทรแจ้งสายด่วนอุบัติฉุกเฉิน 1669 เพื่อให้ ความช่วยเหลือให้เร็วที่สุด
3.โทรแจ้งบริษัทประกันรถยนต์ให้มาช่วยไกล่เกลี่ย
ไม่ว่าจะขับรถรถชนอะไร รถเล็ก รถใหญ่ เสาไฟ หรือต้นไม้ ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีคู่กรณีหากเราตั้งสติ ได้แล้วเราควรโทรแจ้งบริษัทประกันให้มาช่วยดูสถานการณ์โดยสามารถโทรแจ้งทันทีหลังจากหยุดรถ หรือจะดูสถานการณ์ตรงหน้าให้ปลอดภัยก่อนแล้วค่อยโทรแจ้งบริษัทประกันก็ได้หากสถานการณ์ มีแนวโน้มโต้เถียงรุนแรงหรือมีโอกาสที่จะทะเลาะกันได้เราอาจต้องพิจารณาว่าควรโทรแจ้งเจ้าหน้าที่
บริษัทประกันมักจะมีสายด่วนที่คอยบริการลูกค้ายามฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่บริษัทประกันปลายสายอาจขอข้อมูล เกี่ยวกับหมายเลขกรมธรรม์ชื่อ-นามสกุลของเรา ทะเบียนและยี่ห้อรถ ตำแหน่งที่เกิดเหตุและอาจขอรายละเอียด ของเหตุการณ์เพิ่มเติมแล้วแต่กรณี จากนั้นเจ้าหน้าที่จะประสานให้ตัวแทนบริษัทออกมาช่วยตรวจสอบ เหตุการณ์และไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี
4.รวมรวมเอกสารและหลักฐาน
ระหว่างรอให้ตัวแทนประกันมาช่วยไกล่เกลี่ยให้รวบเอกสารที่อาจได้ใช้เช่น บัตรประชาชน ใบขับขี่ เล่มทะเบียนรถถ้ามีกล้องหน้ารถให้ตรวจสอบว่าบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้หรือไม่และถ่ายภาพจุดที่ เกิดอุบัติเหตุ ร่องรอยที่รถเราเสียหายเผื่อได้ใช้ในการจขอเคลมกับบริษัทประกันรถยนต์
โดยสรุปแล้วนี่ก็เป็นข้อแนะนำที่จะช่วยให้ผ่านปัญหาจากการขับรถชนครั้งแรกได้ง่ายขึ้นถึงแม้ว่า สถานการณ์จริงอาจไม่เหมือนกับเนื้อหาในบทความนี้ แต่จำไว้ว่า“ให้เราตั้งสติและโทรหาประกัน” ไม่ว่าเราจะตื่นกลัวหรือประหม่าตัวแทนบริษัทประกันจะรีบเข้ามาให้การช่วยเหลือให้เร็วที่ชุดให้ คำแนะนำเราในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้การมีและการต่อประกันรถยนต์ไม่ให้ขาดจึงเป็นสิ่ง สำคัญเพราะเราไม่รู้เลยว่าเราอาจโชคร้ายในวันที่ประกันขาดก็ได้
0% นาน 12เดือน ไม่ง้อบัตรเครดิต
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ประกันออนไลน์คุ้มครองครบ จบที่เดียว สวัสดีดอทคอม โทร 02 098 5999
|