สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์
คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก
x
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Zengeder เมื่อ 2023-12-22 10:38
โดยทั่วไปแล้วเมื่อเกิดเหตุขับรถชนกับอะไรสักอย่างไม่ว่าจะเป็นรถสิ่งกีดขวาง ทั้งมีและไม่มีคู่กรณี เหตุการณ์เหล่านี้ล้วนมีโอกาสเกิดขึ้น กับผู้ขับขี่รถยนต์อยู่แล้ว ความยุ่งยากต่อจากนั้นคือการไกล่เกลี่ยค่าเสียหายและซ่อมรถ แต่ถ้าเรามีประกันรถยนต์เราสามารถให้ตัวแทน มาช่วยเหลือในสถานการณ์นี้ได้ ซึ่งก่อนจะรีบโทรหาประกันเราต้องคำนึงถึงสถานการณ์ต่างๆ โดยเริ่มต้นดังนี้
1.ตั้งสติและหยุดรถเป็นอันดับแรก
เมื่อรู้ตัวว่าขับรถชนกับอะไรบางอย่างหรือรู้ตัวว่ารถเราถูกชน ให้หยุดรถเป็นอันดับแรกเพราะในช่วงเวลาที่คับขันแบบนี้เราอาจยังไม่ทันรู้ตัว ก็ได้ว่าใครเป็นฝ่ายผิดการขยับรถหรือยิ่งฝืนขับออกจากสถานที่เกิดเหตุอาจทำเรากลายเป็นคนที่ชนแล้วหนีได้โดยปกติหากเกิดเหตุบน ทางหลวงส่วนใหญ่มักมีกล้องวงจรปิดอย่างน้อยการไม่ขยับรถหลังจากเกิดเหตุจะช่วยพิจารณาได้ง่ายว่าใครเป็นฝ่ายผิดโดยเฉพาะในกรณี ที่ไกล่เกลี่ยกันไม่ลงตัวภาพจากกล้องวงจรปิดจะช่วยให้พิจารณาง่ายขึ้น
2.ตั้งสติและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน
เมื่อเราขับรถชนเราอาจจะหงุดหงิด โกรธประหม่าหรือตื่นกลัวอยู่ หลังจากตั้งสติหยุดรถได้แล้วสิ่งที่ต้องทำถัดมาคือการประเมินสถานการณ์ ว่าเราชนกับอะไร หากไม่มีคู่กรณีก็ดีไปแต่ถ้ามีคู่กรณีเราอาจต้องลงไปพูดคุยไกล่เกลี่ยเบื้องต้นซึ่งควรพุดคุยชี้แจงเจตนาให้ชัดเจนแต่ถ้า อีกฝ่ายดูท่าแล้วมีอารมณ์ฉุนเฉียวเพื่อเลี่ยงการปะทะเราควรอยู่ในรถแล้วพยายามคุยไกล่เกลี่ยผ่านกระจกรถก่อนจะดีกว่าในสถานการณ์ ที่มีคนบาดเจ็บ อย่าลังเลที่จะโทรแจ้งสายด่วนอุบัติฉุกเฉิน 1669เพื่อให้ความช่วยเหลือให้เร็วที่สุด
3.โทรแจ้งบริษัทประกันรถยนต์ให้มาช่วยไกล่เกลี่ย
ไม่ว่าจะขับรถรถชนอะไร รถเล็ก รถใหญ่ เสาไฟ หรือต้นไม้ ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีคู่กรณีหากเราตั้งสติได้แล้วเราควรโทรแจ้งบริษัทประกัน ให้มาช่วยดูสถานการณ์โดยสามารถโทรแจ้งทันทีหลังจากหยุดรถหรือจะดูสถานการณ์ตรงหน้าให้ปลอดภัยก่อนแล้วค่อยโทรแจ้งบริษัท ประกันก็ได้หากสถานการณ์มีแนวโน้มโต้เถียงรุนแรงหรือมีโอกาสที่จะทะเลาะกันได้เราอาจต้องพิจารณาว่าควรโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
บริษัทประกันมักจะมีสายด่วนที่คอยบริการลูกค้ายามฉุกเฉินเจ้าหน้าที่บริษัทประกันปลายสายอาจขอข้อมูลเกี่ยวกับหมายเลขกรมธรรม์ ชื่อ-นามสกุลของเรา ทะเบียนและยี่ห้อรถ ตำแหน่งที่เกิดเหตุและอาจขอรายละเอียดของเหตุการณ์เพิ่มเติมแล้วแต่กรณี จากนั้นเจ้าหน้าที่ จะประสานให้ตัวแทนบริษัทออกมาช่วยตรวจสอบเหตุการณ์และไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี
4.รวมรวมเอกสารและหลักฐาน
ระหว่างรอให้ตัวแทนประกันมาช่วยไกล่เกลี่ยให้รวบเอกสารที่อาจได้ใช้เช่น บัตรประชาชน ใบขับขี่ เล่มทะเบียนรถ ถ้ามีกล้องหน้ารถ ให้ตรวจสอบว่าบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้หรือไม่และถ่ายภาพจุดที่เกิดอุบัติเหตุ ร่องรอยที่รถเราเสียหาย เผื่อได้ใช้ในการจะขอเคลมกับบริษัทประกันรถยนต์
โดยสรุปแล้วนี่ก็เป็นข้อแนะนำที่จะช่วยให้ผ่านปัญหาจากการขับรถชนครั้งแรกได้ง่ายขึ้นถึงแม้ว่าสถานการณ์จริงอาจไม่เหมือนกับเนื้อหา ในบทความนี้ แต่จำไว้ว่า“ให้เราตั้งสติและโทรหาประกัน” ไม่ว่าเราจะตื่นกลัวหรือประหม่าตัวแทนบริษัทประกันจะรีบเข้ามาให้การช่วยเหลือ ให้เร็วที่ชุดให้คำแนะนำเราในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้การมีและการต่อประกันรถยนต์ไม่ให้ขาดจึงเป็นสิ่งสำคัญเพราะเราไม่รู้เลยว่า เราอาจโชคร้ายในวันที่ประกันขาดก็ได้
ทำเรื่องประกันให้เป็นเรื่องง่ายๆคลิก ประกันสวัสดีดอทคอม ประกันรถยนต์แบบผ่อน ให้คุณผ่อนเงินสด 0% นาน 12เดือน ไม่ง้อบัตรเครดิต
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ประกันออนไลน์คุ้มครองครบ จบที่เดียว สวัสดีดอทคอม โทร 02 098 5999
|