ดู: 63|ตอบกลับ: 0

เมื่อเกิดรถชนอย่างไม่คาดฝัน ควรเลือกประกันรถยนต์ที่ใช่รองรับให้ทันท่วงทีก่อน

[คัดลอกลิงก์]
เช็คอินสะสม: 81 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 1 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 20%

สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก

x
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย melonnergia เมื่อ 2024-1-17 17:49

Picture4.jpg

โดยทั่วไปแล้วอุบัติเหตุรถชนนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อเเละทุกสถานที่ บ่งบอกถึงความเสี่ยงของอุบัติเหตุ
ที่เราต้องระมัดระวังให้มากขึ้น ยิ่งถ้าเราเพิ่งจะได้รถยนต์และยังอยู่ในช่วงมือใหม่หัดขับอยู่ เสี่ยงที่อาจเกิดอุบัติเหตุ
ทางรถยนต์อาจเกิดขึ้นแบบฉับพลันได้ เเละเมื่อขับรถชนกับอะไรสักอย่างไม่ว่าจะเป็นรถสิ่งกีดขวาง ทั้งมีและไม่มีคู่กรณี
เหตุการณ์เหล่านี้ล้วนมีโอกาสเกิดขึ้นกับผู้ขับขี่รถยนต์อยู่แล้วทำให้เราเกิดความยุ่งยากต่อจากนั้นคือการไกล่เกลี่ย
ค่าเสียหายและซ่อมรถแต่ถ้าเรามี ประกันรถยนต์ เราสามารถให้ตัวแทนมาช่วยเหลือในสถานการณ์นี้ได้ด้วยดี
ซึ่งก่อนจะรีบโทรหาประกันเราต้องคำนึงถึงสถานการณ์ต่างๆโดยเริ่มต้นดังนี้

1.ตั้งสติเเละหยุดรถเป็นอันดับแรก ในจุดจอดรถที่ปลอดภัย

เพราะอุบัติเหตุรถชนมันเกิดขึ้นเร็วมาก ทันทีที่เรารู้ตัวว่าขับรถชนกับอะไรบางอย่างหรือรู้ตัวว่ารถเราถูกชนแล้ว
ให้หยุดรถเป็นอันดับแรก แต่ก่อนจะหยุดรถนั้นเราควรเลือกจุดจอดรถที่ปลอดภัยก่อน ไม่ควรจอดรถกระทัน
กลางถนนเพราะอาจเสี่ยงต่ออุบัติเหตุรถข้างหลังชนซ้ำสองได้ ควรไปจอดรถตรงที่ ไหล่ทางรถ หรือทางคู่ขนาน
เพื่อความปลอดภัยก่อนเสมอ ซึ่งอุบัติเหตุรถชนนั้นเราอาจยังไม่ทันรู้ตัวก็ได้ว่าใครเป็นฝ่ายผิดการขยับรถหรือยิ่งฝืนขับออก
จากสถานที่เกิดเหตุอาจทำเรากลายเป็นคนที่ชนแล้วหนีได้ โดยปกติหากเกิดเหตุบนทางหลวงส่วนใหญ่มักจะมี
กล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพรถชนสัญจรระหว่างทาง ซึ่งสามารถประกอบเป็นหลักฐานพิสูจน์สาเหตุของรถชนต่างๆได้
ถนนทางหลวงสายทางหลักล้วนมีกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ตามริมทางอยู่เเล้ว อย่างน้อยการไม่ขยับรถหลังจากเกิดเหตุ
ช่วยพิจารณาได้ง่ายว่าใครเป็นฝ่ายผิดโดยเฉพาะในกรณีที่ไกล่เกลี่ยกันไม่ลงตัวภาพจากกล้องวงจรปิดจะช่วยให้พิจารณาได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

2.ตั้งสติและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน ประเมินสถานการณ์รถชนเบื้องต้น

สิ่งนี้สำคัญมากควรตั้งสติให้เร็วหลังจากที่เกิดเหตุรถชนขึ้นมา เมื่อเราขับรถชนเราอาจจะหงุดหงิดโกรธประหม่าหรือตื่นกลัวอยู่
หลังจากตั้งสติหยุดรถได้แล้วสิ่งที่ต้องทำถัดมาคือ การประเมินสถานการณ์ว่าเราชนกับอะไร , รถชนรุนแรงหรือเปล่า ?
, รถชนครั้งนี้มีคู่กรณีหรือไม่ ? หากไม่มีคู่กรณีก็ดีไป แต่ถ้ามีคู่กรณีเราอาจต้องลงไปพูดคุยไกล่เกลี่ยเบื้องต้นซึ่งควรพุดคุยชี้แจง
เจตนาให้ชัดเจน แต่ถ้าอีกฝ่ายดูท่าแล้วมีอารมณ์โกรธเพื่อเลี่ยงการปะทะเราควรอยู่ในรถแล้วพยายามคุยไกล่เกลี่ยผ่านกระจกรถ
ก่อนจะดีกว่า หากในสถานการณ์ที่มีคนบาดเจ็บจากรถชนขึ้นมาด้วย อย่าลังเลที่จะโทรแจ้งสายด่วนอุบัติเหตุฉุกเฉิน 1669
เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถชนให้เร็วที่สุด

อ่านบทความเพิ่มเติม >>  เคลมประกันรถยนต์


3.โทรแจ้งบริษัทประกันรถยนต์ให้มาช่วยไกล่เกลี่ย

อุบัติเหตุรถชนนั้นล้วนเป็นเรื่องที่เราต้องรีบคลี่คลายสถานการณ์โดยเร็ว ไม่ว่าเราจะขับรถไปชนอะไรก็ตามจะรถเล็ก รถใหญ่ เสาไฟ
หรือต้นไม้ ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีคู่กรณีหากเราตั้งสติได้แล้วเราควรโทรแจ้งบริษัทประกันให้มาช่วยดูสถานการณ์โดยสามารถโทรแจ้ง
ทันทีหลังจากหยุดรถหรือจะดูสถานการณ์รถชนตรงหน้าให้ปลอดภัยก่อนแล้วค่อยโทรแจ้งบริษัทประกันก็ได้หากสถานการณ์มีแนวโน้ม
โต้เถียงรุนแรงหรือมีโอกาสที่จะทะเลาะกันได้เราอาจต้องพิจารณาว่าควรโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้มาช่วยไกล่เกลี่ยอีกแรงด้วย

** สิ่งที่ควรรู้ หากเกิดเหตุรถชนไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม ไม่ควรปะทะหรือทะเลาะกับคู่กรณีจนทำให้เหตุการณ์ยิ่งบานปลายได้
ตั้งสติเเล้วคุยด้วยเหตุผลให้มากที่สุด  (เช็คเบี้ยประกันรถยนต์คลิก )

โดยบริษัทประกันมักจะมีสายด่วนที่คอยบริการลูกค้ายามฉุกเฉินเอาไว้เเล้ว เจ้าหน้าที่บริษัทประกันปลายสายอาจขอข้อมูลเกี่ยวกับ
หมายเลขกรมธรรม์ชื่อ-นามสกุลของเราทะเบียนและยี่ห้อรถ ตำแหน่งที่เกิดเหตุและอาจขอรายละเอียดเพิ่มเติมแล้วแต่กรณีจากนั้นทาง
เจ้าหน้าที่จะประสานให้ตัวแทนบริษัทออกมาช่วยตรวจสอบเหตุการณ์และไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีตามลำดับต่อไป

4.รวมรวมเอกสารและหลักฐาน

ในระหว่างที่เรารอให้ตัวแทนประกันมาช่วยไกล่เกลี่ยให้รวบเอกสารที่อาจได้ใช้เช่นบัตรประชาชน ใบขับขี่ เล่มทะเบียนรถ ถ้ามีกล้องหน้ารถ
ให้ตรวจสอบว่าบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้หรือไม่ และถ่ายภาพจุดที่เกิดอุบัติเหตุไว้ด้วย ร่องรอยที่รถเราเสียหาย ความเสียหายโดยรวมของรถยนต์
ที่ถูกรถชนเยอะมากน้อยแค่ไหน เพื่อได้ใช้ในการจะขอเคลมกับบริษัทประกันรถยนต์

5.เรื่องอายุความของใบเคลมประกันรถยนต์ก็เป็นเรื่องที่เราควรรู้ด้วย

อายุความของใบเคลมประกันรถยนต์ เป็นเอกสารที่ทางบริษัทประกันจะมอบให้กับคู่กรณีเพื่อให้นำไปเคลมกับบริษัทประกันเเละศูนย์บริการ
ซ่อมรถยนต์ในเครือของบริษัทประกันแต่หากเป็นอุบัติเหตุรถชนแบบไม่มีคู่กรณี ( ชนต้นไม้ , ชนเสาไฟฟ้า , ชนกำเเพง ) อันนี้ต้องเป็นกรมธรรม์
ประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้นที่จะสามารถนำไปเคลมประกันได้ แต่เราก็ต้องออกค่าใช้จ่ายส่วนแรกก่อนเสมอซึ่งใบเคลมประกันรถยนต์แบบ
ไม่มีคู่กรณีจะมีอายุความทั้งสิ้น 1 ปี

ในกรณีที่เราเป็นฝ่ายผิด พลาดไปรถชนคนอื่นจริงบริษัทรถยนต์จะทำการออกใบเคลมประกันเพื่อชดใช้ค่าเสียหายให้กับคู่กรณี
โดยมีอายุความทั้งสิ้น 2 ปี

หากเราเป็นฝ่ายถูก ถูกรถชนจนได้รับความเสียหาย เราสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ค่าซ่อมรถค่าขาดผลประโยชน์
ต่อบริษัทประกันรถยนต์ของคู่กรณี เเละกับตัวผู้กรณีโดยตรงโดยมีอายุความทั้งสิ้น 1 ปี นับตั้งเเต่วันที่เกิดเหตุ

ใบเคลมประกันรถยนต์ จึงเป็นเอกสารที่มีความสำคัญมาก เจ้าของรถยนต์เมื่อเกิดรถชนเเล้วได้ใบเคลมมา ควรรีบนำไปเคลมประกันรถยนต์
ที่ศูนย์บริการซ่อมรถในเครือของประกัน ตั้งเเต่เนิ่นๆที่เกิดเหตุจะดีกว่า

โดยสรุปแล้วนี่ก็เป็นข้อแนะนำที่จะช่วยให้ผ่านปัญหาจากการขับรถชนครั้งแรกได้ง่ายขึ้น ถึงแม้ว่าสถานการณ์จริงอาจไม่เหมือนกับเนื้อหา
ในบทความนี้ แต่จำไว้ว่า ให้เราตั้งสติและโทรหาประกัน”ไม่ว่าเราจะตื่นกลัวหรือประหม่าตัวแทนบริษัทประกันจะรีบเข้ามาให้การ
ช่วยเหลือให้เร็วที่สุดให้คำแนะนำเราในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้การมีและการต่อประกันรถยนต์ไม่ให้ขาด จึงเป็นสิ่งสำคัญเพราะเรา
ไม่รู้เลยว่าเราอาจโชคร้ายเกิดเหตุรถชนในวันที่ประกันขาดก็ได้

ทำเรื่องประกันให้เป็นเรื่องง่ายๆคลิก สวัสดีดอทคอม  ประกันรถยนต์แบบผ่อนให้คุณผ่อนเงินสด 0%นาน 12 เดือน ไม่ง้อบัตรเครดิต
มีทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ให้เลือกอยู่มากมาย เบี้ยประกันถูกด้วย

** เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ประกันออนไลน์คุ้มครองครบ จบที่เดียวสวัสดีดอทคอม โทร 02 098 5999


ตอบกระทู้

สำหรับคนที่ขี้เกียจพิมพ์
คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อนที่จะตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต

TOP