สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์
คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก
x
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย melonnergia เมื่อ 2024-1-17 17:49
โดยทั่วไปแล้วอุบัติเหตุรถชนนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อเเละทุกสถานที่ บ่งบอกถึงความเสี่ยงของอุบัติเหตุ ที่เราต้องระมัดระวังให้มากขึ้น ยิ่งถ้าเราเพิ่งจะได้รถยนต์และยังอยู่ในช่วงมือใหม่หัดขับอยู่ เสี่ยงที่อาจเกิดอุบัติเหตุ ทางรถยนต์อาจเกิดขึ้นแบบฉับพลันได้ เเละเมื่อขับรถชนกับอะไรสักอย่างไม่ว่าจะเป็นรถสิ่งกีดขวาง ทั้งมีและไม่มีคู่กรณี เหตุการณ์เหล่านี้ล้วนมีโอกาสเกิดขึ้นกับผู้ขับขี่รถยนต์อยู่แล้วทำให้เราเกิดความยุ่งยากต่อจากนั้นคือการไกล่เกลี่ย ค่าเสียหายและซ่อมรถแต่ถ้าเรามี ประกันรถยนต์ เราสามารถให้ตัวแทนมาช่วยเหลือในสถานการณ์นี้ได้ด้วยดี ซึ่งก่อนจะรีบโทรหาประกันเราต้องคำนึงถึงสถานการณ์ต่างๆโดยเริ่มต้นดังนี้
1.ตั้งสติเเละหยุดรถเป็นอันดับแรก ในจุดจอดรถที่ปลอดภัย
เพราะอุบัติเหตุรถชนมันเกิดขึ้นเร็วมาก ทันทีที่เรารู้ตัวว่าขับรถชนกับอะไรบางอย่างหรือรู้ตัวว่ารถเราถูกชนแล้ว ให้หยุดรถเป็นอันดับแรก แต่ก่อนจะหยุดรถนั้นเราควรเลือกจุดจอดรถที่ปลอดภัยก่อน ไม่ควรจอดรถกระทัน กลางถนนเพราะอาจเสี่ยงต่ออุบัติเหตุรถข้างหลังชนซ้ำสองได้ ควรไปจอดรถตรงที่ ไหล่ทางรถ หรือทางคู่ขนาน เพื่อความปลอดภัยก่อนเสมอ ซึ่งอุบัติเหตุรถชนนั้นเราอาจยังไม่ทันรู้ตัวก็ได้ว่าใครเป็นฝ่ายผิดการขยับรถหรือยิ่งฝืนขับออก จากสถานที่เกิดเหตุอาจทำเรากลายเป็นคนที่ชนแล้วหนีได้ โดยปกติหากเกิดเหตุบนทางหลวงส่วนใหญ่มักจะมี กล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพรถชนสัญจรระหว่างทาง ซึ่งสามารถประกอบเป็นหลักฐานพิสูจน์สาเหตุของรถชนต่างๆได้ ถนนทางหลวงสายทางหลักล้วนมีกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ตามริมทางอยู่เเล้ว อย่างน้อยการไม่ขยับรถหลังจากเกิดเหตุ ช่วยพิจารณาได้ง่ายว่าใครเป็นฝ่ายผิดโดยเฉพาะในกรณีที่ไกล่เกลี่ยกันไม่ลงตัวภาพจากกล้องวงจรปิดจะช่วยให้พิจารณาได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
2.ตั้งสติและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน ประเมินสถานการณ์รถชนเบื้องต้น
สิ่งนี้สำคัญมากควรตั้งสติให้เร็วหลังจากที่เกิดเหตุรถชนขึ้นมา เมื่อเราขับรถชนเราอาจจะหงุดหงิดโกรธประหม่าหรือตื่นกลัวอยู่ หลังจากตั้งสติหยุดรถได้แล้วสิ่งที่ต้องทำถัดมาคือ การประเมินสถานการณ์ว่าเราชนกับอะไร , รถชนรุนแรงหรือเปล่า ? , รถชนครั้งนี้มีคู่กรณีหรือไม่ ? หากไม่มีคู่กรณีก็ดีไป แต่ถ้ามีคู่กรณีเราอาจต้องลงไปพูดคุยไกล่เกลี่ยเบื้องต้นซึ่งควรพุดคุยชี้แจง เจตนาให้ชัดเจน แต่ถ้าอีกฝ่ายดูท่าแล้วมีอารมณ์โกรธเพื่อเลี่ยงการปะทะเราควรอยู่ในรถแล้วพยายามคุยไกล่เกลี่ยผ่านกระจกรถ ก่อนจะดีกว่า หากในสถานการณ์ที่มีคนบาดเจ็บจากรถชนขึ้นมาด้วย อย่าลังเลที่จะโทรแจ้งสายด่วนอุบัติเหตุฉุกเฉิน 1669 เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถชนให้เร็วที่สุด
3.โทรแจ้งบริษัทประกันรถยนต์ให้มาช่วยไกล่เกลี่ย
อุบัติเหตุรถชนนั้นล้วนเป็นเรื่องที่เราต้องรีบคลี่คลายสถานการณ์โดยเร็ว ไม่ว่าเราจะขับรถไปชนอะไรก็ตามจะรถเล็ก รถใหญ่ เสาไฟ หรือต้นไม้ ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีคู่กรณีหากเราตั้งสติได้แล้วเราควรโทรแจ้งบริษัทประกันให้มาช่วยดูสถานการณ์โดยสามารถโทรแจ้ง ทันทีหลังจากหยุดรถหรือจะดูสถานการณ์รถชนตรงหน้าให้ปลอดภัยก่อนแล้วค่อยโทรแจ้งบริษัทประกันก็ได้หากสถานการณ์มีแนวโน้ม โต้เถียงรุนแรงหรือมีโอกาสที่จะทะเลาะกันได้เราอาจต้องพิจารณาว่าควรโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้มาช่วยไกล่เกลี่ยอีกแรงด้วย
** สิ่งที่ควรรู้ หากเกิดเหตุรถชนไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม ไม่ควรปะทะหรือทะเลาะกับคู่กรณีจนทำให้เหตุการณ์ยิ่งบานปลายได้
โดยบริษัทประกันมักจะมีสายด่วนที่คอยบริการลูกค้ายามฉุกเฉินเอาไว้เเล้ว เจ้าหน้าที่บริษัทประกันปลายสายอาจขอข้อมูลเกี่ยวกับ หมายเลขกรมธรรม์ชื่อ-นามสกุลของเราทะเบียนและยี่ห้อรถ ตำแหน่งที่เกิดเหตุและอาจขอรายละเอียดเพิ่มเติมแล้วแต่กรณีจากนั้นทาง เจ้าหน้าที่จะประสานให้ตัวแทนบริษัทออกมาช่วยตรวจสอบเหตุการณ์และไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีตามลำดับต่อไป
4.รวมรวมเอกสารและหลักฐาน
ในระหว่างที่เรารอให้ตัวแทนประกันมาช่วยไกล่เกลี่ยให้รวบเอกสารที่อาจได้ใช้เช่นบัตรประชาชน ใบขับขี่ เล่มทะเบียนรถ ถ้ามีกล้องหน้ารถ ให้ตรวจสอบว่าบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้หรือไม่ และถ่ายภาพจุดที่เกิดอุบัติเหตุไว้ด้วย ร่องรอยที่รถเราเสียหาย ความเสียหายโดยรวมของรถยนต์ ที่ถูกรถชนเยอะมากน้อยแค่ไหน เพื่อได้ใช้ในการจะขอเคลมกับบริษัทประกันรถยนต์
5.เรื่องอายุความของใบเคลมประกันรถยนต์ก็เป็นเรื่องที่เราควรรู้ด้วย
อายุความของใบเคลมประกันรถยนต์ เป็นเอกสารที่ทางบริษัทประกันจะมอบให้กับคู่กรณีเพื่อให้นำไปเคลมกับบริษัทประกันเเละศูนย์บริการ
ซ่อมรถยนต์ในเครือของบริษัทประกันแต่หากเป็นอุบัติเหตุรถชนแบบไม่มีคู่กรณี ( ชนต้นไม้ , ชนเสาไฟฟ้า , ชนกำเเพง ) อันนี้ต้องเป็นกรมธรรม์ ประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้นที่จะสามารถนำไปเคลมประกันได้ แต่เราก็ต้องออกค่าใช้จ่ายส่วนแรกก่อนเสมอซึ่งใบเคลมประกันรถยนต์แบบ ไม่มีคู่กรณีจะมีอายุความทั้งสิ้น 1 ปี
ในกรณีที่เราเป็นฝ่ายผิด พลาดไปรถชนคนอื่นจริงบริษัทรถยนต์จะทำการออกใบเคลมประกันเพื่อชดใช้ค่าเสียหายให้กับคู่กรณี
โดยมีอายุความทั้งสิ้น 2 ปี
หากเราเป็นฝ่ายถูก ถูกรถชนจนได้รับความเสียหาย เราสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ค่าซ่อมรถค่าขาดผลประโยชน์ ต่อบริษัทประกันรถยนต์ของคู่กรณี เเละกับตัวผู้กรณีโดยตรงโดยมีอายุความทั้งสิ้น 1 ปี นับตั้งเเต่วันที่เกิดเหตุ
ใบเคลมประกันรถยนต์ จึงเป็นเอกสารที่มีความสำคัญมาก เจ้าของรถยนต์เมื่อเกิดรถชนเเล้วได้ใบเคลมมา ควรรีบนำไปเคลมประกันรถยนต์ ที่ศูนย์บริการซ่อมรถในเครือของประกัน ตั้งเเต่เนิ่นๆที่เกิดเหตุจะดีกว่า
โดยสรุปแล้วนี่ก็เป็นข้อแนะนำที่จะช่วยให้ผ่านปัญหาจากการขับรถชนครั้งแรกได้ง่ายขึ้น ถึงแม้ว่าสถานการณ์จริงอาจไม่เหมือนกับเนื้อหา ในบทความนี้ แต่จำไว้ว่า “ให้เราตั้งสติและโทรหาประกัน”ไม่ว่าเราจะตื่นกลัวหรือประหม่าตัวแทนบริษัทประกันจะรีบเข้ามาให้การ ช่วยเหลือให้เร็วที่สุดให้คำแนะนำเราในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้การมีและการต่อประกันรถยนต์ไม่ให้ขาด จึงเป็นสิ่งสำคัญเพราะเรา ไม่รู้เลยว่าเราอาจโชคร้ายเกิดเหตุรถชนในวันที่ประกันขาดก็ได้
ทำเรื่องประกันให้เป็นเรื่องง่ายๆคลิก สวัสดีดอทคอม ประกันรถยนต์แบบผ่อนให้คุณผ่อนเงินสด 0%นาน 12 เดือน ไม่ง้อบัตรเครดิต มีทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ให้เลือกอยู่มากมาย เบี้ยประกันถูกด้วย
** เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ประกันออนไลน์คุ้มครองครบ จบที่เดียวสวัสดีดอทคอม โทร 02 098 5999
|