สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์
คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก
x
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย melonnergia เมื่อ 2024-1-19 16:44
โดยทั่วไปแล้วอุบัติเหตุรถชนนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้แทบตลอดเวลา ซึ่งบ่งบอกถึงความเสี่ยงของอุบัติเหตุที่เราต้องระวังให้มากขึ้น เเละเมื่อเราเกิดพลาดไปขับรถชนกับอะไรสักอย่างไม่ว่าจะเป็นรถสิ่งกีดขวาง ทั้งมีและไม่มีคู่กรณีเหตุการณ์เหล่านี้ล้วนมีโอกาสเกิดขึ้น กับผู้ขับขี่รถยนต์อยู่แล้วทำให้เราเกิดความยุ่งยากต่อจากนั้นคือการไกล่เกลี่ยค่าเสียหายและซ่อมรถแต่ถ้าเรามีประกันรถยนต์ เราสามารถให้ตัวแทนมาช่วยเหลือในสถานการณ์นี้ได้ด้วยดีซึ่งก่อนจะรีบโทรหาประกันเราต้องคำนึงถึงสถานการณ์ต่างๆโดยเริ่มต้นดังนี้
1.ตั้งสติและหยุดรถเป็นอันดับแรก หาที่หยุดรถที่ปลอดภัยก่อน
ทันทีที่เรารู้ตัวว่าขับรถชนกับอะไรบางอย่างหรือรู้ตัวว่ารถเราถูกชนแล้ว หากเรายังไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก ให้หยุดรถเป็นอันดับแรก แต่ก่อนจะหยุดรถนั้นให้เราหาที่หยุดรถให้ปลอดภัยก่อน เช่น ทางคู่ขนาน หรือ ไหล่ทางรถ แต่ไม่ควรหยุดรถตรงกลางถนนเเบบฉับพลัน เพราะอาจเสี่ยงต่ออุบัติเหตุซ้ำสองได้ เพราะในช่วงเวลาที่คับขันแบบนี้ เราอาจยังไม่ทันรู้ตัวก็ได้ว่าใครเป็นฝ่ายผิดการขยับรถหรือ ยิ่งฝืนขับออกจากสถานที่เกิดเหตุอาจทำเรากลายเป็นคนที่ชนแล้วหนีได้ โดยปกติหากเกิดเหตุบนทางหลวงส่วนใหญ่มักมีกล้องวงจรปิด ที่บันทึกภาพรถชนสัญจรระหว่างทางซึ่งสามารถประกอบเป็นหลักฐานพิสูจน์สาเหตุของรถชนต่างๆได้อย่างน้อยการไม่ขยับรถหลังจาก เกิดเหตุจะช่วยพิจารณาได้ง่ายว่าใครเป็นฝ่ายผิด โดยเฉพาะในกรณีที่ไกล่เกลี่ยกันไม่ลงตัวภาพจากกล้องวงจรปิดจะช่วยให้พิจารณาง่ายขึ้นนั่นเอง
2.ตั้งสติและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน ประเมินสถานการณ์รถชนขั้นต้น
สิ่งนี้สำคัญมากควรตั้งสติให้เร็วหลังจากที่เกิดเหตุรถชนขึ้นมา เมื่อเราขับรถชนเราอาจจะหงุดหงิดโกรธประหม่าหรือตื่นกลัวอยู่ หลังจากตั้งสติหยุดรถได้แล้วสิ่งที่ต้องทำถัดมาคือ การประเมินสถานการณ์ว่าเราชนกับอะไร , รถชนรุนแรงหรือเปล่า ? , รถชนมีคู่กรณีหรือไม่ ? หากไม่มีคู่กรณีก็ดีไปแต่ถ้ามีคู่กรณีเราอาจต้องลงไปพูดคุยไกล่เกลี่ยเบื้องต้นซึ่งควรพุดคุยชี้แจง เจตนาให้ชัดเจน แต่ถ้าอีกฝ่ายดูท่าแล้วมีอารมณ์ฉุนเฉียวเพื่อเลี่ยงการปะทะเราควรอยู่ในรถแล้วพยายามคุยไกล่เกลี่ยผ่านกระจก รถก่อนจะดีกว่า ในสถานการณ์ที่มีคนบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถชนขึ้นมา อย่าลังเลที่จะโทรแจ้งสายด่วนอุบัติเหตุฉุกเฉิน 1669 เพื่อให้ความช่วยเหลือให้เร็วที่สุด
3.โทรแจ้งบริษัทประกันรถยนต์ให้มาช่วยไกล่เกลี่ยคู่กรณีโดยเร็ว
ซึ่งไม่ว่าเราจะขับรถไปชนอะไรก็ตามจะรถเล็ก รถใหญ่ เสาไฟ หรือต้นไม้ ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีคู่กรณีหากเราตั้งสติได้แล้ว เราควรรีบโทรแจ้งบริษัทประกันให้มาช่วยดูสถานการณ์โดยสามารถโทรแจ้งทันทีหลังจากหยุดรถหรือจะดูสถานการณ์ รถชนตรงหน้าให้ปลอดภัยก่อนแล้วค่อยโทรแจ้งบริษัทประกันก็ได้หากสถานการณ์มีแนวโน้มโต้เถียงรุนแรงหรือมีโอกาส ที่จะทะเลาะกันได้เราอาจต้องพิจารณาว่าควรโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้มาช่วยไกล่เกลี่ยอีกแรงด้วย (เช็คเบี้ยประกันรถยนต์คลิก )
**สิ่งที่ควรรู้ หากเกิดเหตุรถชนไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม ไม่ควรปะทะหรือทะเลาะกับคู่กรณีจนทำให้เหตุการณ์ ยิ่งบานปลายได้ ตั้งสติเเล้วคุยไกล่เกลี่ยด้วยเหตุผลให้มากที่สุด
ทางบริษัทประกันมักจะมีสายด่วนที่คอยบริการลูกค้ายามฉุกเฉินเอาไว้เเล้วเจ้าหน้าที่บริษัทประกันปลายสายอาจขอข้อมูล เกี่ยวกับหมายเลขกรมธรรม์ชื่อ-นามสกุลของเราทะเบียนและยี่ห้อรถ ตำแหน่งที่เกิดเหตุและอาจขอรายละเอียดเพิ่มเติม แล้วแต่กรณีจากนั้นเจ้าหน้าที่จะประสานให้ตัวแทนบริษัทออกมาช่วยตรวจสอบเหตุการณ์และไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีตามลำดับต่อไป
4.รวมรวมเอกสารและหลักฐาน
ในระหว่างรอให้ตัวแทนประกันมาช่วยไกล่เกลี่ยให้รวบเอกสารที่อาจได้ใช้เช่นบัตรประชาชน ใบขับขี่ เล่มทะเบียนรถ ถ้ามีกล้องหน้ารถ ให้ตรวจสอบว่าบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้หรือไม่และถ่ายภาพจุดที่เกิดอุบัติเหตุร่องรอยที่รถเราเสียหาย ความเสียหายโดยรวมของรถยนต์ ที่ถูกรถชนมากน้อยแค่ไหนเผื่อได้ใช้ในการจะขอเคลมกับบริษัทประกันรถยนต์
5.เรื่องอายุความของใบเคลมประกันรถยนต์ก็เป็นเรื่องที่ควรรู้ด้วย
อายุความของใบเคลมประกันรถยนต์ เป็นเอกสารที่ทางบริษัทประกันจะมอบให้กับคู่กรณี เพื่อให้นำไปเคลมกับบริษัทประกันรถยนต์ เเละศูนย์บริการซ่อมรถยนต์ในเครือของบริษัทประกันแต่หากเป็นอุบัติเหตุรถชนแบบไม่มีคู่กรณี อันนี้ต้องเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือประกันรถยนต์ชั้น 2+ เท่านั้นที่จะสามารถนำไปเคลมประกันได้ แต่เราก็ต้องออกค่าใช้จ่ายส่วนแรกก่อนเสมอซึ่งใบเคลมประกัน รถยนต์แบบไม่มีคู่กรณีจะมีอายุความทั้งสิ้น 1 ปี
ในกรณีที่เราเป็นฝ่ายผิด พลาดไปรถชนคนอื่นจริงบริษัทรถยนต์จะมีการออกใบเคลมประกันเพื่อชดใช้ค่าเสียหายให้กับคู่กรณี
โดยมีอายุความทั้งสิ้น 2 ปี
หากเราเป็นฝ่ายถูก ถูกรถชนจนได้รับความเสียหาย เราสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ค่าซ่อมรถค่าขาดผลประโยชน์ ต่อบริษัทประกันของคู่กรณี เเละกับตัวผู้กรณีโดยตรงโดยมีอายุความทั้งสิ้น 1 ปี นับตั้งเเต่วันที่เกิดเหตุ
โดยสรุปแล้วนี่ก็เป็นข้อแนะนำที่จะช่วยให้ผ่านปัญหาจากการขับรถชนครั้งแรกได้ง่ายขึ้นถึงแม้ว่าสถานการณ์จริงอาจไม่เหมือน กับเนื้อหาในบทความนี้ แต่จำไว้ว่า “ให้เราตั้งสติและโทรหาประกัน”ไม่ว่าเราจะตื่นกลัวหรือประหม่าตัวแทนบริษัทประกัน จะรีบเข้ามาให้การช่วยเหลือให้เร็วที่สุดให้คำแนะนำเราในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้การมีและการต่อประกันรถยนต์ไม่ให้ขาด จึงเป็นสิ่งสำคัญเพราะเราไม่รู้เลยว่าเราอาจโชคร้ายในวันที่ประกันขาดก็ได้
ทำเรื่องประกันให้เป็นเรื่องง่ายๆคลิก สวัสดีดอทคอม ประกันรถยนต์แบบผ่อนให้คุณผ่อนเงินสด 0%นาน 12เดือน ไม่ง้อบัตรเครดิต เลือกได้ทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1 , ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เเละประกันชั้นอื่นๆอีกมากมายเบี้ยประกันถูกๆ สบายกระเป๋า
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ประกันออนไลน์คุ้มครองครบ จบที่เดียวสวัสดีดอทคอม โทร 02 098 5999
|