สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์
คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก
x
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย melonnergia เมื่อ 2024-1-31 10:50
โดยทั่วไปแล้วภาพรวมของภัยอุบัติเหตุไม่คาดฝันนั้น นับเป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลต่อตัวเราอย่างมาก ยิ่งสมัยนี้ความเสี่ยงของอุบัติเหตุ รถชนนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้แทบตลอดเวลา ไม่ว่าจะในพื้นที่เมืองกรุง หรือในพื้นที่เมืองท่องเที่ยว เเละพื้นที่ต่างจังหวัดก็ตาม สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุที่มีมากขึ้นกว่าเดิม ยิ่งถ้าเราเป็นคนที่เพิ่งจะเป็น มือใหม่หัดขับ ซึ่งยังไม่คุ้นชินกับ รถยนต์มากนัก ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุรถชนที่เกิดขึ้นง่ายมาก เเละเมื่อขับรถชนกับอะไรสักอย่างไม่ว่าจะเป็นรถสิ่งกีดขวางทั้งมีและไม่มี คู่กรณีก็ตาม เหตุการณ์เหล่านี้ล้วนมีโอกาสเกิดขึ้นกับผู้ขับขี่รถยนต์อยู่เเล้ว ทำให้เรส่งผลให้าเกิดความยุ่งยากต่อจากนั้นคือการ ไกล่เกลี่ยค่าเสียหายและซ่อมรถแต่ถ้าเรามี ประกันรถยนต์ เราสามารถให้ตัวแทนมาช่วยเหลือในสถานการณ์นี้ให้ผ่านพ้นด้วยดี ซึ่งก่อนจะรีบโทรหาประกันเราต้องคำนึงถึงสถานการณ์ต่างๆโดยเริ่มต้นดังนี้
1.ตั้งสติและหยุดรถในจุดที่ปลอดภัย
เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนขึ้นมาไม่คาดฝัน ตราบใดที่เราไม่ได้บาดเจ็บหนักจากรถชน ก่อนอื่นให้หยุดรถเป็นอันดับแรกก่อน แต่ก่อนจะหยุดรถนั้นให้ทำการหาที่หยุดรถตรงจุดที่ปลอดภัย เช่น ไหล่ทางรถ หรือ ทางคู่ขนาน ไม่ควรหยุดรถแบบกะทันหัน ตรงกลางถนน ซึ่งอาจเกิดอุบัติเหตุซ้ำสองได้ โดยปกติหากเกิดเหตุบนทางหลวงส่วนใหญ่มักมีกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพ รถชนสัญจรระหว่างทางซึ่งสามารถประกอบเป็นหลักฐานพิสูจน์สาเหตุของรถชนต่างๆได้อย่างน้อยการไม่ขยับรถหลังจาก เกิดเหตุจะช่วยพิจารณาได้ง่ายว่าใครเป็นฝ่ายผิด โดยเฉพาะในกรณีที่ไกล่เกลี่ยกันไม่ลงตัวภาพจากกล้องวงจรปิดจะช่วยให้ พิจารณาง่ายขึ้นนั่นเอง
2.ตั้งสติและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนประเมินสถานการณ์รถชนขั้นเบื้องต้น
สิ่งนี้สำคัญมากควรตั้งสติให้เร็วหลังจากที่เกิดเหตุรถชนขึ้นมา เมื่อเราขับรถชนเราอาจจะหงุดหงิดโกรธประหม่าหรือตื่นกลัวอยู่ หลังจากตั้งสติหยุดรถได้แล้วสิ่งที่ต้องทำถัดมาคือ การประเมินสถานการณ์ว่าเราชนกับอะไร , รถชนรุนแรงหรือเปล่า ? , รถขนไปทั้งหมดกี่คัน ? , รถชนครั้งนี้มีคู่กรณีหรือไม่ ? หากไม่มีคู่กรณีก็ดีไปแต่ถ้ามีคู่กรณีเราอาจต้องลงไปพูดคุยไกล่เกลี่ย เบื้องต้นซึ่งควรพุดคุยชี้แจงเจตนาให้ชัดเจน คุยเจรจาอย่างใจเย็น แต่ถ้าอีกฝ่ายดูท่าแล้วมีอารมณ์ฉุนเฉียวเพื่อเลี่ยงการปะทะ เราควรอยู่ในรถแล้วพยายามคุยไกล่เกลี่ยผ่านกระจกรถก่อนจะดีกว่า หลีกเลี่ยงปะทะให้มากที่สุด ในสถานการณ์ที่มีคนบาดเจ็บ จากอุบัติเหตุรถชนขึ้นมา อย่าลังเลที่จะโทรแจ้งสายด่วนอุบัติเหตุฉุกเฉิน 1669 เพื่อให้ความช่วยเหลือให้เร็วที่สุด
3.โทรแจ้งบริษัทประกันรถยนต์ให้มาช่วยไกล่เกลี่ยโดยเร็ว
ไม่ว่าเราจะขับรถไปชนอะไรก็ตาม จะรถเล็ก รถใหญ่ เสาไฟหรือต้นไม้ ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีคู่กรณี หากเราตั้งสติได้แล้ว เราควรโทรแจ้ง บริษัทประกันให้มาช่วยดูสถานการณ์ โดยสามารถโทรแจ้งทันทีหลังจากหยุดรถหรือจะดูสถานการณ์รถชนตรงหน้าให้ปลอดภัยก่อน แล้วค่อยโทรแจ้งบริษัทประกันก็ได้หากสถานการณ์มีแนวโน้มโต้เถียงรุนแรงหรือมีโอกาสที่จะทะเลาะกันได้เราอาจต้องพิจารณาว่า
**สิ่งที่ควรรู้ หากเกิดเหตุรถชนไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม ไม่ควรปะทะทะเลาะกับคู่กรณีจนทำให้เหตุการณ์ยิ่งบานปลายได้ ตั้งสติเเล้วคุยด้วยเหตุผลให้มากที่สุด เพื่อหาทางออกได้เคลียร์โดยไม่เกิดปัญหาทะเลาะกันรุนแรงหลังเหตุรถชน
ซึ่งทางบริษัทประกันมักจะมีสายด่วนที่คอยบริการลูกค้ายามฉุกเฉินเอาไว้เเล้ว โดยเจ้าหน้าที่บริษัทประกันปลายสายอาจขอข้อมูล เกี่ยวกับหมายเลขกรมธรรม์ชื่อ-นามสกุลของเรา ทะเบียนและยี่ห้อรถ ตำแหน่งที่เกิดเหตุและอาจขอรายละเอียดเพิ่มเติมแล้วแต่ กรณีไป จากนั้นเจ้าหน้าที่จะประสานให้ตัวแทนบริษัทออกมาช่วยตรวจสอบเหตุการณ์และไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีตามลำดับต่อไป
4.รวมรวมเอกสารและหลักฐาน
ในระหว่างที่รอให้ตัวแทนบริษัทประกันมาช่วยไกล่เกลี่ยให้เรารวมเอกสารที่อาจได้ใช้เช่นบัตรประชาชน ใบขับขี่ เล่มทะเบียนรถ ถ้ามีกล้องหน้ารถให้ตรวจสอบว่าบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้หรือไม่ และถ่ายภาพจุดที่เกิดอุบัติเหตุร่องรอยความเสียหายที่รถเรา ความเสียหายโดยรวมของรถยนต์ที่ถูกรถชนมากน้อยแค่ไหน เพื่อได้ใช้ในการจะขอเคลมกับบริษัท ประกันรถยนต์
5.เรื่องอายุความของใบเคลมประกันรถยนต์ก็เป็นเรื่องที่ควรรู้ด้วย
อายุความของใบเคลมประกันรถยนต์ เป็นเอกสารที่ทางบริษัทประกันจะมอบให้กับคู่กรณี เพื่อให้นำไปเคลมกับบริษัทประกันเเละ
ศูนย์บริการซ่อมรถยนต์ในเครือของบริษัทประกันแต่หากเป็นอุบัติเหตุรถชนแบบไม่มีคู่กรณี ( ชนต้นไม้ , ชนเสาไฟฟ้า) อันนี้ต้องเป็น ประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้นที่จะสามารถนำไปเคลมประกันได้ แต่เราก็ต้องออกค่าใช้จ่ายส่วนแรกก่อนเสมอซึ่งใบเคลมประกันรถยนต์ แบบไม่มีคู่กรณีจะมีอายุความทั้งสิ้น 1 ปี
ในกรณีที่เราเป็นฝ่ายผิด พลาดไปรถชนคนอื่นจริงบริษัทรถยนต์จะมีการออกใบเคลมประกันเพื่อชดใช้ค่าเสียหายให้กับคู่กรณีไป โดยมีอายุความทั้งสิ้น 1-2 ปี
หากเราเป็นฝ่ายถูก ถูกรถชนจนได้รับความเสียหาย เราสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ค่าซ่อมรถค่าขาดผลประโยชน์ ต่อบริษัทประกันของคู่กรณี เเละกับตัวผู้กรณีโดยตรงด้วยหากเป็นความเสียหายอย่างหนัก โดยมีอายุความทั้งสิ้น 1-2 ปี นับตั้งเเต่วันที่เกิดเหตุ
6.การต่ออายุประกันรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ อย่าให้หมดอายุกลางครัน
เนื่องจากประกันรถยนต์แต่ละกรมธรรม์ หากปล่อยให้หมดอายุไปกลางครันนั้น ส่งผลเสียทั้งไม่สามารถเคลมประกันได้ เสียค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด เพราะเป็นเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันรถยนต์ที่ระบุไว้อยู่เเล้ว ผู้ซื้อประกันจึงควรเข้าใจก่อนตั้งเเต่เนิ่นๆอยู่เสมอ
โดยสรุปแล้วนี่ก็เป็นข้อแนะนำที่จะช่วยให้ผ่านปัญหาจากการขับรถชนครั้งแรกได้ง่ายขึ้นถึงแม้ว่าสถานการณ์จริงอาจไม่เหมือนกับเนื้อหา ในบทความนี้ แต่จำไว้ว่า “ให้เราตั้งสติและโทรหาประกัน” ไม่ว่าเราจะตื่นกลัวหรือประหม่าตัวแทนบริษัทประกันจะรีบเข้ามาให้การช่วย เหลือให้เร็วที่สุดให้คำแนะนำเราในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้การมีและการต่อประกันรถยนต์ไม่ให้ขาดจึงเป็นสิ่งสำคัญเพราะเราไม่รู้เลยว่า เราอาจโชคร้ายในวันที่ประกันขาดก็ได้
ทำเรื่องประกันให้เป็นเรื่องง่ายๆคลิก สวัสดีดอทคอม ประกันรถยนต์แบบผ่อนให้คุณผ่อนเงินสด 0% นาน 12เดือนไม่ง้อบัตรเครดิต เลือกได้ทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1 , ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เเละประกันชั้นอื่นๆอีกมากมายเบี้ยประกันถูกๆ สบายกระเป๋า
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนดประกันออนไลน์คุ้มครองครบ จบที่เดียว สวัสดีดอทคอม โทร 02 098 5999
|