สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์
คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก
x
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Zengeder เมื่อ 2024-2-9 09:57
โดยทั่วไปแล้วอุบัติเหตุรถชนนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา บ่งบอกถึงความเสี่ยงของอุบัติเหตุที่เราต้องระมัดระวังให้มากขึ้น ไม่ว่าจะทั้งอยู่ในพื้นที่ในเมืองกรุง ในพื้นที่ต่างจังหวัด หรือแม้กระทั่งในเมืองท่องเที่ยวก็ตาม ยิ่งบ่งบอกถึงสัญญาณเสี่ยงรถชนที่ เกิดขึ้นได้ทั้งสิ้นเลย เเละเมื่อขับรถชนกับอะไรสักอย่างทั้งมีและไม่มีคู่กรณีเหตุการณ์เหล่านี้ล้วนมีโอกาสเกิดขึ้นกับผู้ขับขี่รถยนต์อยู่แล้ว ทำให้เราเกิดความยุ่งยากต่อจากนั้นคือการไกล่เกลี่ยค่าเสียหายเเละซ่อมแซมรถ แต่ถ้าเรามี ประกันรถยนต์ เราสามารถให้ตัวแทน มาช่วยเหลือในสถานการณ์นี้ได้ด้วยดี ซึ่งก่อนจะรีบโทรหาประกันเราต้องคำนึงถึงสถานการณ์ต่างๆโดยเริ่มต้นดังนี้
1.ตั้งสติและหยุดรถเป็นอันดับแรก
เมื่ออุบัติเหตุรถชนได้เกิดขึ้นเเล้ว ทันทีที่เรารู้ตัวว่าขับรถชนกับอะไรบางอย่างหรือรู้ตัวว่ารถเราถูกชนแล้วให้หยุดรถเป็นอันดับแรก แต่ควรหาที่หยุดรถให้ปลอดภัยเสียก่อน ไม่ว่าจะทั้งไหล่ทางรถ หรือ ทางคู่ขนาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุรถชนซ้ำสองได้ ซึ่งโดยปกติถนนบนทางหลวงมักจะมีกล้องวงจรปิดตามถนนเส้นหลัก ที่บันทึกภาพรถชนสัญจรระหว่างทางซึ่งสามารถประกอบ เป็นหลักฐานพิสูจน์สาเหตุของรถชนต่างๆได้ อย่างน้อยการไม่ขยับรถหลังจากเกิดเหตุจะช่วยพิจารณาได้ง่ายว่าใครเป็นฝ่ายผิด-ฝ่ายถูก โดยเฉพาะในกรณีที่ไกล่เกลี่ยกันไม่ลงตัวภาพจากกล้องวงจรปิดจะช่วยให้พิจารณาง่ายขึ้นนั่นเอง
2.ตั้งสติและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนประเมินสถานการณ์รถชนเบื้องต้น
สิ่งนี้สำคัญมากควรตั้งสติให้เร็วหลังจากที่เกิดเหตุรถชนขึ้นมา เมื่อเราขับรถชนเราอาจจะหงุดหงิดโกรธประหม่าหรือตื่นกลัวอยู่ หลังจากตั้งสติหยุดรถได้แล้วสิ่งที่ต้องทำถัดมานั่นคือ การประเมินสถานการณ์ว่าเราชนกับอะไร รถชนรุนแรงแค่ไหน ? หรือรถชนครั้งนี้มีคู่กรณีหรือเปล่า ? หากไม่มีคู่กรณีก็ดีไป แต่ถ้ามีคู่กรณีเราอาจต้องลงไปพูดคุยไกล่เกลี่ยเบื้องต้นซึ่งควรชี้เเจง เจตนาให้ชัดเจน แต่ถ้าอีกฝ่ายดูท่าแล้วมีอารมณ์ฉุนเฉียวเพื่อเลี่ยงการปะทะเราควรอยู่ในรถแล้ว พยายามคุยไกล่เกลี่ยผ่านกระจกรถ ก่อนจะดีกว่าในสถานการณ์ที่มีคนบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถชนขึ้นมา อย่าลังเลที่จะโทรแจ้งสายด่วนอุบัติเหตุฉุกเฉิน 1669 เพื่อให้ความ ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บให้เร็วที่สุด
3.โทรแจ้งบริษัทประกันรถยนต์ให้มาช่วยไกล่เกลี่ย
ไม่ว่าเราจะขับรถไปชนอะไรก็ตาม จะรถเล็ก รถใหญ่ เสาไฟหรือต้นไม้ ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีคู่กรณีก็ตาม หากเราตั้งสติได้แล้ว เราควรโทรแจ้ง บริษัทประกันให้มาช่วยดูสถานการณ์โดยเร็ว ซึ่งสามารถโทรแจ้งทันทีหลังจากหยุดรถหรือจะดูสถานการณ์รถชนตรงหน้าให้ปลอดภัยก่อน แล้วค่อยโทรแจ้งบริษัทประกันก็ได้หากสถานการณ์มีแนวโน้มโต้เถียงรุนแรงหรือมีโอกาสที่จะทะเลาะกันได้เราอาจต้องพิจารณาว่าควร
**สิ่งที่ควรรู้ หากเกิดเหตุรถชนไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม ไม่ควรปะทะหรือไปทะเลาะกับคู่กรณีจนทำให้เหตุการณ์ยิ่งบานปลายได้ ควรตั้งสติเเล้วคุยด้วยเหตุผลให้มากที่สุด
ทางบริษัทประกันมักจะมีสายด่วนที่คอยบริการลูกค้ายามฉุกเฉินเอาไว้เเล้ว เจ้าหน้าที่บริษัทประกันปลายสายอาจขอข้อมูลเกี่ยวกับหมายเลข กรมธรรม์ชื่อ-นามสกุลของเราทะเบียนและยี่ห้อรถ ตำแหน่งที่เกิดเหตุและอาจขอรายละเอียดเพิ่มเติมแล้วแต่กรณีจากนั้นเจ้าหน้าที่จะ ประสานให้ตัวแทนบริษัทออกมาช่วยตรวจสอบเหตุการณ์และไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีตามลำดับต่อไป
4.รวมรวมเอกสารและหลักฐาน
ในระหว่างรอให้ตัวแทนประกันมาช่วยไกล่เกลี่ยให้รวบเอกสารที่อาจได้ใช้เช่นบัตรประชาชน ใบขับขี่ เล่มทะเบียนรถ ถ้ามีกล้องหน้ารถ เอกสารใบประกันรถยนต์ที่ยังไม่หมดอายุกรมธรรม์ ให้ตรวจสอบว่าบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้หรือไม่และถ่ายภาพจุดที่เกิดอุบัติเหตุร่องรอย ที่รถเราเสียหาย ความเสียหายโดยรวมของรถยนต์ที่ถูกรถชนมากน้อยแค่ไหน เพื่อจะได้ใช้ในการจะขอเคลมกับบริษัทประกันรถยนต์
5.เรื่องอายุความของใบเคลมประกันรถยนต์ก็เป็นเรื่องที่ควรรู้ด้วย
อายุความของใบเคลมประกันรถยนต์ เป็นเอกสารที่ทางบริษัทประกันจะมอบให้กับคู่กรณี เพื่อให้นำไปเคลมกับบริษัทประกันเเละ
ศูนย์บริการซ่อมรถยนต์ในเครือของบริษัทประกันแต่หากเป็นอุบัติเหตุรถชนแบบไม่มีคู่กรณี ( ชนต้นไม้ , ชนเสาไฟฟ้า) อันนี้ต้องเป็น ประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้นที่จะสามารถนำไปเคลมประกันได้ แต่เราก็ต้องออกค่าใช้จ่ายส่วนแรกก่อนเสมอซึ่งใบเคลมประกันรถยนต์ แบบไม่มีคู่กรณีจะมีอายุความทั้งสิ้น 1 ปี
ในกรณีที่เราเป็นฝ่ายผิด พลาดไปรถชนคนอื่นจริงบริษัทรถยนต์จะมีการออกใบเคลมประกันเพื่อชดใช้ค่าเสียหายให้กับคู่กรณี โดยมีอายุความทั้งสิ้น 1-2 ปี
หากเราเป็นฝ่ายถูก ถูกรถชนจนได้รับความเสียหาย เราสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ค่าซ่อมรถค่าขาดผลประโยชน์ ต่อบริษัทประกันของคู่กรณี เเละกับตัวผู้กรณีโดยตรงโดยมีอายุความทั้งสิ้น 1-2 ปี นับตั้งเเต่วันที่เกิดเหตุ
โดยสรุปแล้ว นี่ก็เป็นข้อแนะนำที่จะช่วยให้ผ่านปัญหาจากการขับรถชนครั้งแรกได้ง่ายขึ้นถึงแม้ว่าสถานการณ์จริงอาจไม่เหมือน กับเนื้อหาในบทความนี้ แต่จำไว้ว่า“ให้เราตั้งสติและโทรหาประกัน '' ไม่ว่าเราจะตื่นกลัวหรือประหม่าตัวแทนบริษัทประกัน จะรีบเข้ามาให้การช่วยเหลือให้เร็วที่สุดให้คำแนะนำเราในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ก่อนใคร ที่สำคัญการต่ออายุประกันรถยนต์ ไม่ให้ขาดอายุจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเราไม่รู้เลยว่าเราอาจโชคร้ายในวันที่ประกันขาดก็เป็นได้
ทำเรื่องประกันให้เป็นเรื่องง่ายๆคลิก สวัสดีดอทคอม ประกันรถยนต์แบบผ่อนให้คุณผ่อนเงินสด 0% นาน 12 เดือน ไม่ง้อบัตรเครดิต เลือกได้ทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1 , ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เเละประกันชั้นอื่นๆอีกมากมาย เบี้ยประกันถูกๆ สบายกระเป๋า
**เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนดประกันออนไลน์คุ้มครองครบ จบที่เดียว สวัสดีดอทคอม โทร 02 098 5999
|