สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์
คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก
x
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Zengeder เมื่อ 2024-2-12 14:52
โดยทั่วไปแล้วอุบัติเหตุรถชนนั้นเป็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ทุกสถานที่ ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ไหนทั้งเมืองกรุง ในต่างจังหวัดห่างไกล หรือในเมืองท่องเที่ยวก็ตาม แต่ละพื้นที่ล้วนเกิดความเสี่ยงอุบัติเหตุรถชนได้ทั้งสิ้น ยิ่งถ้าเราอยู่ในช่วงที่เป็นคนรุ่นใหม่ ที่บางทีก็เกิด ความคึกคะนองต่อการขับขี่อีก ส่งผลต่ออุบัติเหตุที่อาจมาถึงตัวเร็วกว่าที่คิดด้วย เมื่อเราเกิดพลาดขับรถชนกับอะไรสักอย่างไม่ว่าจะ เป็นรถสิ่งกีดขวางทั้งมีและไม่มีคู่กรณีก็ตาม เหตุการณ์เหล่านี้ล้วนมีโอกาสเกิดขึ้นกับผู้ขับขี่รถยนต์อยู่เสมอ ทำให้เราเกิดความยุ่งยาก ต่อจากนั้นคือการไกล่เกลี่ยค่าเสียหายและซ่อมรถแต่ถ้าเรามี ประกันรถยนต์ เราสามารถให้ตัวแทนมาช่วยเหลือในสถานการณ์นี้ได้ด้วยดี ซึ่งก่อนจะรีบโทรหาประกันเราต้องคำนึงถึงสถานการณ์ต่างๆโดยเริ่มต้นดังนี้
1.ตั้งสติและหยุดรถเป็นอันดับแรก หากเกิดเรารู้ตัวว่าขับรถชนกับอะไรบางอย่างหรือรู้ตัวว่ารถเราถูกชนแล้ว ถ้าเราไม่ได้รับบาดเจ็บหนัก ก่อนอื่นให้หยุดรถเป็นอันดับแรก เเต่ก่อนจะหยุดรถนั้นควรหยุดรถในพื้นที่ปลอดภัยก่อน เช่น ไหล่ทางรถ หรือ ทางคู่ขนาน ไม่ควรหยุดรถกะทันหันตรงกลางถนนเพราะ อาจเกิดอุบัติเหตุซ้ำสองได้ โดยปกติหากเกิดเหตุบนทางหลวงเส้นทางหลักส่วนใหญ่มักมีกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพรถชนสัญจรไปมา ระหว่างทาง ซึ่งสามารถประกอบเป็นหลักฐานพิสูจน์สาเหตุของรถชนต่างๆได้ อีกทั้งพิจารณาได้ง่ายว่าใครเป็นฝ่ายผิด-ฝ่ายถูก ได้นั่นเอง 2.ตั้งสติและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนประเมินสถานการณ์รถชนเบื้องต้น แน่นอนว่าเราควรตั้งสติให้เร็วหลังจากที่เกิดเหตุรถชน หลังจากตั้งสติหยุดรถได้แล้วสิ่งที่ต้องทำถัดมาคือ การประเมินสถานการณ์เบื้องต้น ว่าเราชนกับอะไรรถชนรุนแรงหรือเปล่า ? รถชนมีคู่กรณีหรือไม่ ? หากไม่มีคู่กรณีก็ดีไป แต่ถ้ามีคู่กรณีเราอาจต้องลงไปพูดคุยไกล่เกลี่ย เบื้องต้นซึ่งควรพุดคุยชี้แจงเจตนาให้ชัดเจน แต่ถ้าอีกฝ่ายดูท่าแล้วมีอารมณ์โมโห เพื่อเลี่ยงการปะทะเราควรอยู่ในรถแล้วพยายามคุยไกล่เกลี่ย ผ่านกระจกรถก่อนจะดีกว่าในสถานการณ์ที่มีคนบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถชนขึ้นมา ควรพาผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด เเละอย่าลังเล ที่จะโทรแจ้งสายด่วนอุบัติเหตุฉุกเฉิน 1669 เพื่อให้ความช่วยเหลือให้เร็วที่สุด
3.โทรแจ้งบริษัทประกันรถยนต์ให้มาช่วยไกล่เกลี่ยโดยเร็ว
ไม่ว่าเราจะขับรถชนในลักษณะไหนก็ตามหากเราตั้งสติได้แล้ว เราควรโทรแจ้งบริษัทประกันให้มาช่วยดูสถานการณ์โดยสามารถโทรแจ้งทันที หลังจากหยุดรถ หรือจะดูสถานการณ์รถชนตรงหน้าให้ปลอดภัยก่อนแล้วค่อยโทรแจ้งบริษัทประกันก็ได้ หากสถานการณ์มีแนวโน้มโต้เถียง รุนแรงหรือมีโอกาสที่จะทะเลาะกันได้เราอาจต้องพิจารณาว่าควรโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้มาช่วยไกล่เกลี่ยอีกแรงด้วย (เช็คเบี้ยประกันรถยนต์คลิก )
**สิ่งที่ควรรู้ หากเกิดเหตุรถชนไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม ไม่ควรไปปะทะหรือทะเลาะกับคู่กรณีรถชนจนทำให้เหตุการณ์ยิ่งบานปลายได้ ตั้งสติเเล้วคุยด้วยเหตุผลให้มากที่สุด
ซึ่งบริษัทประกันมักจะมีสายด่วนที่คอยบริการลูกค้ายามฉุกเฉินเอาไว้เเล้ว เจ้าหน้าที่บริษัทประกันปลายสายอาจขอข้อมูลเกี่ยวกับหมายเลขกรมธรรม์ ชื่อ-นามสกุลของเราทะเบียนและยี่ห้อรถ ตำแหน่งที่เกิดเหตุและอาจขอรายละเอียดเพิ่มเติมแล้วแต่กรณี จากนั้นเจ้าหน้าที่จะประสานให้ตัวแทนบริษัท ออกมาช่วยตรวจสอบเหตุการณ์และไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีตามลำดับต่อไป
4.รวมรวมเอกสารและหลักฐาน ในระหว่างรอให้ตัวแทน-พนักงานบริษัทประกันมาช่วยไกล่เกลี่ยให้รวบเอกสารที่อาจได้ใช้เช่นบัตรประชาชน ใบขับขี่ เล่มทะเบียนรถ เอกสารประกันรถยนต์ ที่ยังไม่หมดอายุกรมธรรม์ ซึ่งสำคัญมากๆ หากมีกล้องหน้ารถให้ตรวจสอบว่าบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้หรือไม่ ซึ่งบริษัทประกันจะทำการตรวจสอบสภาพความ เสียหายของรถชน ร่องรอยที่รถเราเสียหาย ความเสียหายโดยรวมของรถยนต์มากแค่ไหน รถชนครั้งนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือไม่ เพื่อได้ใช้ในการจะขอเคลม
5.เรื่องอายุความของใบเคลมประกันรถยนต์ เป็นเรื่องที่ควรเข้าใจด้วย
อายุความของใบเคลมประกันรถยนต์ เป็นเอกสารที่ทางบริษัทประกันจะมอบให้กับคู่กรณี เพื่อให้นำไปเคลมกับบริษัทประกันเเละศูนย์บริการซ่อมรถยนต์
ในเครือของบริษัทประกันแต่หากเป็นอุบัติเหตุรถชนแบบไม่มีคู่กรณี ( ชนต้นไม้ , ชนเสาไฟฟ้า) อันนี้ต้องเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้นที่จะสามารถนำไป เคลมประกันได้ แต่เราก็ต้องออกค่าใช้จ่ายส่วนแรกก่อนเสมอ ซึ่งใบเคลมประกันรถยนต์แบบไม่มีคู่กรณีจะมีอายุความทั้งสิ้น 1 ปี
ในกรณีที่เราเป็นฝ่ายผิด พลาดไปรถชนคนอื่นจริงบริษัทรถยนต์จะมีการออกใบเคลมประกันเพื่อชดใช้ค่าเสียหายให้กับคู่กรณีโดยมีอายุความทั้งสิ้น 1-2 ปี
หากเราเป็นฝ่ายถูก ถูกรถชนจนได้รับความเสียหาย เราสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ค่าซ่อมรถค่าขาดผลประโยชน์ ต่อบริษัทประกันของคู่กรณี เเละกับตัวผู้กรณีโดยตรงโดยมีอายุความทั้งสิ้น 1-2 ปี นับตั้งเเต่วันที่เกิดเหตุ
โดยสรุปแล้ว นี่ก็เป็นข้อแนะนำที่จะช่วยให้ผ่านปัญหาจากการขับรถชนครั้งแรกได้ง่ายขึ้น ถึงแม้ว่าสถานการณ์จริงอาจไม่เหมือนกับเนื้อหาในบทความนี้ แต่จำไว้ว่า “ให้เราตั้งสติและโทรหาประกัน” ไม่ว่าเราจะตื่นกลัวหรือประหม่าตัวแทนบริษัทประกันจะรีบเข้ามาให้การช่วยเหลือให้เร็วที่สุด ให้คำแนะนำ เราในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ ที่สำคัญการต่ออายุประกันรถยนต์ไม่ให้ขาดถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเราไม่รู้เลยว่าเราอาจโชคร้ายในวันที่ประกันขาดก็ได้
ทำเรื่องประกันให้เป็นเรื่องง่ายๆคลิก สวัสดีดอทคอม ประกันรถยนต์แบบผ่อนให้คุณผ่อนเงินสด 0% นาน 12เดือนไม่ง้อบัตรเครดิต เลือกได้ทั้ง ประกันรถยนต์ชั้น 1 , ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เเละประกันชั้นอื่นๆอีกมากมายเบี้ยประกันถูกๆ สบายกระเป๋า
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ประกันออนไลน์คุ้มครองครบ จบที่เดียวสวัสดีดอทคอม โทร 02 098 5999
|