เช็คอินสะสม: 176 วัน เช็คอินต่อเนื่อง: 1 วัน
ความคืบหน้าการอัพเกรด: 52%
|
สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์
คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก
x
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Zengeder เมื่อ 2024-3-1 15:49
ทุกวันนี้เทคโลโลยีความงามได้มีการพัฒนาไปไกลแล้ว แน่นอนว่าหลายคนพอเกิดปัญหาผิวพรรณต่างๆ อาทิ หน้าแก่ก่อนวัยอันควร
ผิวหน้าแห้งเสียมีจุดด่างดำ หรือมีริ้วรอยเยอะบนใบหน้า ส่งผลให้เราจำเป็นต้องหาทางออกในการรักษาด้วยมือหมอความงามที่คลีนิก
ซึ่งในปัจจุบันก็มีการรักษาที่ผู้คนนิยมรักษาดังนี้
1) Sculptra คอลลาเจนแบบฉีด 2) ฉีดฟิลเลอร์ 3) ทำศัลยกรรม
แต่รู้ไหมว่า แต่ละวิธีการรักษานั้นก็มีข้อดี-ข้อเสีย ที่แตกต่างกันไป ซึ่งคนไข้ที่ไปใช้บริการที่คลีนิกความงาม ก่อนการรักษาความงามคุณหมอ
จะมีการวิเคราะห์สุขภาพผิวพรรณ เเละซักถามสุขภาพคนไข้อย่างละเอียด โดยเราสรุปออกมาได้ดังต่อไปนี้
1.Sculptra
Sculptra เป็นคอลลาเจนแบบฉีด ซึ่งเป็นการรักษาผิวพรรณโดยการฉีดคอลลาเจนเกรดพรีเมี่ยม Original Collagen Biostimulator
หรือ สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนโดยธรรมชาติ เมื่อฉีดเข้าไปในชั้นผิวของเราเเล้วจะไปกระตุ้นคอลลาเจนในร่างกายเราให้ผลิตออก
มาอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยฟื้นฟูชั้นในผิวพรรณโดยภาพรวมได้อย่างดีในระยะยาว คอลลาเจนแบบฉีด Sculptra สามารถคงอยู่สภาพ
ได้ยาวนานถึง 2 ปี
ข้อดี = Sculptra เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีปัญหาผิวพรรณโดยภาพรวม การรักษาทำได้ไม่ยุ่งยาก ผลข้างเคียงน้อยมาก อาการแพ้ยาน้อยมาก
ฟื้นตัวได้ไว เเละยังเหมาะสมกับคนไข้ที่มีปัญหาข้อจำกัดในการรักษาผิว เช่น กลัวการผ่าตัด , เคยแพ้ยา , หรือเคยแพ้ฟิลเลอร์มาก่อน
ข้อเสีย = ระยะเวลาในการเห็นผลลัพท์ครั้งแรกจะช้ากว่าวิธีการรักษาแบบอื่น ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ แต่หลังฉีดไปได้สักระยะสามารถเห็นผลลัพท์
ในระยะยาวคงอยู่สภาพได้ยาวนานถึง 2 ปี
2.ฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ เป็นการฉีดสาร Hyaluronic acid (HA) (ไฮยารูรอนิก แอซิด) มีคุณสมบัติยกกระชับผิวพรรณในร่างกายมนุษย์ได้ ในปัจจุบันฉีดฟิลเลอร์มีอยู่
หลายแบบตั้งเเต่ ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์จมูก ฟิลเลอร์เเขน ฟิลเลอร์สะโพก ฟิลเลอร์ขา ขึ้นอยู่กับว่าจะฉีดตรงส่วนไหนของร่างกาย
อย่างไรก็ตามฉีดฟิลเลอร์ถือเป็นการผ่าตัดเล็กแขนงหนึ่ง มีขั้นตอนการรักษาที่ยุ่งระดับหนึ่งตั้งเเต่ก่อนฉีด-หลังฉีด สามารถคงเห็นผลลัพท์หลังฉีดได้
ประมาณ 1-2 ปีโดยประมาณ ( ขึ้นอยู่กับประเภทฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดไป )
ข้อดี = การฉีดฟิลเลอร์เห็นผลลัพท์ครั้งเเรกได้เร็วมาก เพียงเเค่ 1-2 วัน ก็เห็นผลลัพท์ครั้งแรกหลังฉีดได้ชัดเจนเเล้ว ฟิลเลอร์มีหลายราคา สามารถ
เข้าถึงการรักษาตามที่คนไข้ไหวได้
ข้อเสีย = คนไข้อาจเสี่ยงต่อผลข้างเคียงอาการเเพ้ยา-อาการแพ้ฟิลเลอร์ได้ ใช้เวลาพักฟื้นจนหายดีหลายสัปดาห์ การรักษานี้ไม่เหมาะสำหรับคนไข้
ที่เคยมีประวัติแพ้ยาหรือเเพ้ฟิลเลอร์มาก่อน ซึ่งทางคุณหมอจะคัดกรองคนไข้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยตลอดการรักษา
3.ทำศัลยกรรม
ทำศัลยกรรม เป็นการผ่าตัดใหญ่ที่เน้นการยกเครื่องใบหน้าเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งหมด ส่วนใหญ่เเล้วการผ่าตัดศัลยกรรมมักจะเป็นการรักษาที่คนไข้
ต้องการเปลี่ยนหน้าให้ดูดีเเบบให้เทียบเท่ากับดารา-นักร้องมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ มีขั้นตอนการรักษาที่นานที่สุด
ข้อดี = สามารถรักษาแบบยกเครื่องทุกปัญหาผิวพรรณ เปลี่ยนแปลงหน้าตาแบบยกเครื่องในคราวเดียว เห็นผลลัพท์หลังศัลยกรรมได้เร็ว
ข้อเสีย = เนื่องจากเป็นการผ่าตัดใหญ่ ทำให้คนไข้ต้องทนเจ็บต่อการผ่าตัดศัลยกรรม มีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงหลังการรักษาและตอนพักฟื้น
ก็ใช้เวลานานด้วย ไม่เหมาะสำหรับคนไข้ที่กลัวการผ่าตัดใหญ่ด้วย
สรุปแล้ว ทั้ง 3 วิธีการรักษาผิวพรรณนั้นมีทั้งข้อดีเเละข้อเสียที่เเตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความพร้อมเเละความเหมาะสมที่คนไข้รับไหว
สำหรับเพื่อนๆที่กำลังมองหาคลีนิกศัลยกรรมความงามชั้นนำอยู่นั้น MASTERWORK CLINIC มาสเตอร์เวิร์คคลีนิก ที่นี่เป็นคลีนิกชั้นนำ
ในย่านอโศก ใจกลางกรุงเทพ ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานรัฐบาลไทยอย่าง อย. เเละใบรับรองคุณภาพคลีนิกความงามจากประเทศเกาหลีใต้
เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ที่พร้อมให้การดูแลทุกปัญหาสุขภาพผิวพรรณแบบครบวงจร มั่นใจได้เลยในทุกความปลอดภัยต่อ
คนไข้ที่จะได้รับการรักษาอย่างดีเเละอุ่นใจตลอดเวลาครับ
|
|