ดู: 701|ตอบกลับ: 1

ความจำเป็นที่ต้องมีอุปกรณ์การแพทย์ไว้ในบ้านเพื่อความปลอดภัยของคนในครอบครัว

[คัดลอกลิงก์]

ยังไม่ได้เช็คอิน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 12%

สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก

x
nsk2.jpg

ในครอบครัวที่มีผู้สูงอายุและผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวหรือผู้ป่วยติดเตียง ต่างก็ต้องมีอุปกรณ์การแพทย์ติดบ้านไว้ ยิ่งในยุคที่มีโรคใหม่ๆเกิดขึ้น เครื่องมือแพทย์สำหรับการใช้ในชีวิตประจำวันถือเป็นสิ่งจำเป็น เพราะฉะนั้นแล้วเราจึงต้องเลือกซื้ออุปกรณ์ดูแลผู้ป่วยจากบริษัทหรือตัวแทนที่จําหน่ายเครื่องมือแพทย์ รวมไปถึงจำหน่าย เตียงผู้ป่วย เตียงผู้ป่วยนั้นมีความจำเป็นอย่างมากต่อบ้านที่มีผู้ป่วยติดเตียง เพราะเตียงนั้นจะอำนวยความสะดวกในการรักษาและดูแลผู้ป่วยเบื้องต้น


การดูแลผู้ป่วยทั้งที่มีโรคประจำตัว ไม่ว่าจะเป็นวัยใด สิ่งสำคัญก็คือ ความอดทน และความเข้าอกเข้าใจผู้ป่วย เพราะตัวผู้ป่วยเองนั้นก็จะมีความกังวลว่าตัวเองอาจจะเป็นภาระของคนในครอบครัว และการคิดแบบนี้อาจส่งผลในเรื่องสุขภาพจิตได้ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อทั้งผู้ป่วยและผู้ดูแลผู้ป่วยได้ การดูแลผู้ป่วยติดเตียงนั้น ควรดูในเรื่องแผลกดทับเกิดจากการที่ผู้ป่วยนอนอยู่บนเตียงเป็นเวลานาน ทำให้บริเวณของปุ่มกระดูกขาดเลือดเติบโตขึ้นที่ผิวหนังทำให้เซลล์บางส่วนตายและแผลยังคงลุกลาม หากไม่พลิกตัวผู้ป่วยอาจเกิดขึ้นได้หลายจุดเช่นท้ายทอยสะบักข้อศอกสะโพกก้นกบส้นเท้าเป็นต้น ในระยะแรกอาจเกิดการลอกเฉพาะที่ผิวหนังแต่เมื่อเวลาผ่านไปอาจหลุดลอกไปถึงชั้นกล้ามเนื้อหรืออาจถึงกระดูกและเมื่อร่างกายขาดแคลน ผิวหนังซึ่งทำหน้าที่ปกปิดมีโอกาสในการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น วิธีการป้องกันและหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเตียงกดทับเมื่อผู้ป่วยขยับตัวเองไม่ได้ ดังนั้นหน้าที่ของผู้ดูแลควรพลิกตัวผู้ป่วยทุกๆ 2 ชั่วโมงด้วยท่านอนใหม่ เช่น นอนหงายและตะแคง หลีกเลี่ยงรอยยับของเสื้อผ้า โดยการประเมินสภาพของผิวหนังเพื่อทำความสะอาด ควรมีอุปกรณ์เสริมเพื่อลดการกดทับเช่นฟองน้ำที่นอนเป่าลมหมอนผ้านุ่มเจลหนุนปุ่มกระดูก อาการกลืนลำบากเกิดจากความผิดปกติของช่องปากและคอหอยในผู้สูงอายุทำให้เสี่ยงต่อการสำลักขณะรับประทานอาหารหรืออาจนำไปสู่ปอดบวมหรือติดเชื้อได้ง่าย ดังนั้นผู้ดูแลควรปรับเตียงให้ได้ประมาณ 45-90 องศาและพยายามจับผู้ป่วยนั่งบนเตียง โดยใช้หมอนช่วยดันให้ผู้ป่วยกลับสู่สมดุลจะดีที่สุด ดังนั้นสำหรับใครที่ต้องดูแลผู้ป่วยแนะนำให้ปรับการรับประทานอาหาร เป็นวิธีการรักษาที่สำคัญเช่นให้อาหารอ่อน ๆ ไม่เหลวเกินไปสังเกตว่าผู้ป่วยยังกลืนได้บ้าง อย่าเงยคอไปข้างหลัง หยุดให้อาหารทันทีหากเกิดการสำลัก ทำความสะอาดร่างกายและสิ่งขับถ่ายของผู้ป่วยเป็นประจำ ควรเปลี่ยนสายสวนปัสสาวะให้กับผู้ป่วยทุก 2-4 สัปดาห์และทำความสะอาดสายสวนด้วยน้ำสบู่อ่อน ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อเข้าสู่ร่างกาย หากพบว่าปัสสาวะของผู้ป่วยขุ่นข้นหรือปัสสาวะไม่ออกควรนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที ดูแลสุขภาพช่องปากของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียและลดความเสี่ยงต่อการเป็นปอดบวมจากการสำลัก ผู้ดูแลสามารถใช้น้ำยาบ้วนปากที่ไม่มีแอลกอฮอล์เพื่อลดอาการปากแห้ง จัดสภาพแวดล้อมของห้องนอนให้เหมาะสมกับการใช้งานเสมอ สะดวกในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในกรณีฉุกเฉินและเอนตัวและระบายอากาศอยู่เสมอ






tar
เช็คอินสะสม: 97 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 1 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 6%

โพสต์ 2021-9-24 21:09:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ
Dew
เช็คอินสะสม: 4680 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 21 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 47%

โพสต์ 2021-10-6 20:33:18 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Thank you very much.

ตอบกระทู้

สำหรับคนที่ขี้เกียจพิมพ์
คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อนที่จะตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต

TOP