ดู: 510|ตอบกลับ: 1

เรื่องเครื่องหมายการค้าที่คนทำธุรกิจควรให้ความสำคัญมาเป็นอันดับแรกๆ

[คัดลอกลิงก์]

ยังไม่ได้เช็คอิน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 12%

สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก

x
tdrs4.jpg

หากพูดถึงการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เหล่าพ่อค้าแม่ค้าที่ทำธุรกิจเล็กๆ หรือออนไลน์ หรือแม้กระทั่งคนเริ่มทำธุรกิจอาจจะมองมาเป็นสิ่งไกลตัว และสินค้าบริการที่มีนั้นก็ไม่น่าจะต้องมีการจดทะเบียนอะไรให้ยุ่งยาก ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่เลย ไม่ว่าจะธุรกิจประเภทใดและขนาดเท่าไร หากเราอยากเริ่มทำอย่างถูกต้องและต้องการให้เครื่องหมายการค้านั้นดำเนินการได้อย่างเรียบร้อยสมบูรณ์ ซึ่งในส่วนนี้ควรจะต้องดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะอย่าง trademark registration Thailand ที่จะคอย เป็นทั้งที่ปรึกษาและผู้ดำเนินการทำให้คนทำธุรกิจวางใจในเรื่องนี้ได้


ด้วยเหตุนี้ นักธุรกิจรุ่นใหม่ๆจึงให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะเมื่อเราเริ่มสิ่งใดอย่างถูกต้องและชัดเจน อุปสรรคและปัญหาในเรื่องการทำธุรกิจก็จะน้อยลงหรือแทบไม่มีเลย และหากเกิดปัญหาใดๆเกิดขึ้นในทางกฎหมาย เราก็สามารถที่จะดำเนินการได้อย่างถูกต้อง เพราะเราทำตามระเบียบข้อกฎหมายในการจดเครื่องหมายการค้าทุกอย่าง ธุรกิจของเราที่วางแผนไว้ก็จะไม่สะดุด และหลักกลยุทธ์ทางการตลาดแบบใหม่ที่เหล่าคนทำธุรกิจควรทราบนั้น เว็บไซต์ bluebik ได้แชร์ไว้ว่า ปัจจุบันจะมีหลักการตลาดใหม่ที่น่าสนใจ และสามารถปรับใช้ได้เหมาะกับยุคปัจจุบันมากกว่าคือ 4E’s ซึ่งก็มีทั้ง Product >> “Experience” ทุกวันนี้ผู้บริโภคไม่ได้คาดหวังแค่สินค้าหรือบริการเท่านั้น ตัวอย่างที่เห็นกันง่ายๆ คือทำไมบางคนถึงยอมจ่ายเงินซื้อรถหรูหลักหลายล้าน หรือเลือกจ่ายแพงกว่าเพื่อนั่งเครื่องบินระดับ First class นั่นเป็นเพราะต้องการประสบการณ์ที่ดีกว่า สะดวกสบายกว่าและสร้างความสุขได้มากกว่า ซึ่งประสบการณ์ที่ว่านี้มาจากการนำเสนอภาพลักษณ์ของแบรนด์และการสร้างความรู้สึกเกี่ยวข้องกับบริษัท ดังนั้นการเอาชนะคู่แข่งทางการตลาดในยุคนี้คงไม่พ้นเรื่องของการ “สร้างประสบการณ์” เพื่อให้เกิดผลลัพธ์แบบที่ผู้บริโภคจะต้อง “หลงรัก” และอยู่กับเราไปยาวนาน Price >> “Exchange” ก่อนหน้านี้การตั้งราคาสินค้ามาจากต้นทุนการผลิตเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงมักแข่งกันด้วยการลดราคาต้นทุน เพื่อให้สินค้าสามารถขายได้ในราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งในตลาด แต่ในปัจจุบันเมื่อพฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนแปลงไป ผู้คนไม่ได้ให้ความสำคัญที่ราคาเป็นหลัก แต่หันไปให้ความสนใจเรื่อง “ความคุ้มค่า” มากกว่า เปรียบเหมือนกับการแลกเปลี่ยนความพึงพอใจของทั้งสองฝ่ายระหว่างตัวธุรกิจและผู้บริโภค ซึ่งไม่ว่าสินค้าราคาเท่าไหร่ แต่ถ้าผู้บริโภคชั่งใจแล้วว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป ก็ย่อมอยากซื้อสินค้านั้นๆ Place >> “Everywhere” ในอดีต ถ้าอยากทำธุรกิจต้องมีหน้าร้านและมองหาทำเลเหมาะๆ สำหรับขายสินค้า แต่ในปัจจุบัน หน้าร้านอาจไม่ใช่สิ่งจำเป็นอีกต่อไป เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีได้เชื่อมต่อผู้ขายสินค้าและลูกค้าเข้าด้วยกัน ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการได้จากทุกหนทุกแห่งทั่วโลกเพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต ดังนั้นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญมากที่สุดในการทำการตลาดออนไลน์ จึงเปลี่ยนจากหน้าร้านไปเป็นเว็บไซต์ อีคอมเมิร์ชแพลตฟอร์ม หรือโมบายแอปพลิเคชัน รวมไปถึงการเน้นสร้าง Customer Journey และ Experience บนออนไลน์แพลตฟอร์ม Promotion >> “Evangelism” การออกแคมเปญลด แลก แจก แถม แบบการตลาดสมัยก่อนอาจไม่ได้รับความนิยมมากนักในปัจจุบัน เนื่องจากผู้บริโภคยุคใหม่มักมีความพึงพอใจหรือความชอบในแบรนด์ที่บริโภคเป็นประจำอยู่แล้ว หรือที่เรียกว่า “Evangelism (สาวก)” ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายขึ้นก็หมายถึง “Brand Loyalty” นั่นเอง ดังนั้นกลยุทธ์การชิงส่วนแบ่งตลาดแบบเดิม ๆ อาจใช้ไม่ได้ผล หากเรายังไม่สามารถเปลี่ยนลูกค้าขาจรให้กลายเป็นลูกค้าขาประจำได้








Dew
เช็คอินสะสม: 4710 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 51 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 48%

โพสต์ 2021-12-3 20:26:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Thank you very much.

ตอบกระทู้

สำหรับคนที่ขี้เกียจพิมพ์
คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อนที่จะตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต

TOP