6 เทคนิค เขียน Headline บน Facebook Ads ให้คนหยุดอ่าน !

strategist_CTT · โพสต์ 2023-3-2 17:23:53

สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก

x

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย strategist_CTT เมื่อ 2023-5-18 16:46

6 เทคนิค เขียน Headline บน Facebook Ads ให้คนหยุดอ่าน !

จากสถิติล่าสุดปี 2022 ของสมาคมโฆษณาดิจิทัลแห่งประเทศไทย หรือ DAAT รายงานว่าแพลตฟอร์มโฆษณาที่มีการลงทุนสูงสุดอยู่ในบริษัท Meta นั่นก็คือ Facebook และ Instagram แต่เนื่องจาก Facebook มีผู้ใช้งานสูงถึง 2.91 พันล้านคน ส่งผลให้การทำ Facebook Ads ยังคงครองความนิยมอันดับหนึ่ง ด้วยจุดเด่นของแพลตฟอร์มที่สามารถกระจายพื้นที่โฆษณาได้มากถึง 7 ตำแหน่ง ทั้งฟีดข่าว, สตอรี่, ไลฟ์สด, หน้าผลการค้นหา, Messenger, หน้าบทความ รวมถึงแอปพลิเคชันที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Meta ทำให้ยอดการเข้าถึงโฆษณา (Facebook Reach) ของคนไทยในช่วงต้นปีที่ผ่านมาสูงถึง 82.8% จัดเป็นอันดับที่ 18 ของโลก ทำให้มีเพจหน้าใหม่เกิดขึ้นมาเรื่อย ๆ เพื่อสร้างช่องทางโฆษณาดิจิทัลบนแพลตฟอร์มที่เชื่อว่ากลุ่มเป้าหมายจะสามารถเข้าถึงแบรนด์หรือธุรกิจได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม

ข้อควรระวังในการเขียน Headline Facebook Ads

ที่มา:www.brandbuffet.in.th

สำหรับประเภทโฆษณาที่นิยมและพบเห็นได้บ่อยสุดใน Facebook Ads ก็คือบนหน้าฟีดข่าว (New Feed) สามารถใช้สื่อหรือ Media ได้ทั้งรูปแบบวิดีโอ ภาพเดี่ยว และภาพสไลด์ โดย 3 องค์ประกอบหลัก ๆ ของตำแหน่งโฆษณานี้คือ แคปชัน (Primart Text) สื่อโฆษณา (Media) และส่วนปิดท้ายช่วยให้แคมเปญโฆษณาสมบูรณ์มากขึ้นอย่าง Headline และปุ่ม Call to Action (CTA) ซึ่งมีนักการตลาดกว่า 78% พบว่าแคมเปญที่มีปุ่ม CTA มีโอกาสสำเร็จตามจุดประสงค์ได้เร็วกว่าโฆษณาไม่มีปุ่ม CTA โดยมีอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น นั่นคือ Headline ข้อความด้านหน้า CTA แต่จะเขียนอย่างไรให้คนหยุดอ่านและตัดสินใจคลิกปุ่ม CTA ของคุณ

6 เทคนิคเขียน Headline Facebook Ads

6 เทคนิคเขียน Headline Facebook Adsเทคนิคที่ 1 ปรับประโยคให้ดู Personal

ด้วยการเพิ่มคำว่า “คุณ” หรือ “ของคุณ” จะทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าเนื้อหาเกี่ยวข้องกับตัวเองมากขึ้น ถือเป็นเทคนิคง่าย ๆ ช่วยโน้มน้าวใจให้กลุ่มเป้าหมายเปิดใจรับรู้ถึงแบรนด์ง่ายขึ้น

เทคนิคที่ 2 เพิ่มคำกระตุ้นอารมณ์

แน่นอนว่าหลายคนมักจะชะงักคำในโฆษณาอย่าง ฟรี, ใหม่, พิเศษ, แถม, ลดราคา, Sale เป็นต้น ซึ่งสามารถดึงดูดความสนใจของผู้พบเห็นแคมเปญภายในไม่กี่วินาที

เทคนิคที่ 3 ระบุข้อจำกัดของแคมเปญโฆษณา

เป็นการใช้คำบ่งบอกถึงช่วงเวลาที่จำกัดหรือความเร่งด่วนอย่าง ภายในวันนี้, จำนวนจำกัด, เพียง 10 สิทธิ์เท่านั้น การใช้คำเหล่านี้ปิดท้ายประโยค Headline จะช่วยกระตุ้นให้คนคลิกปุ่ม CTA ได้ดีเลย

เทคนิคที่ 4 ใช้ตัวเลขดึงดูดความสนใจ

การใส่ตัวเลขใน Headline Facebook Ads ไม่ว่าจะเป็นหน่วยค่าเงิน, จำนวนวัน, เปอร์เซ็นต์ เป็นต้นสามารถใช้เป็นจุดดึงสายตาให้คนหยุดอ่านได้เร็วกว่าประโยคยาว ๆ ที่มีแค่ตัวอักษร

เทคนิคที่ 5 ใส่จุดขายไว้ด้านหน้าสุดหรือตรงกลาง

ถือเป็นกุญแจสำคัญสร้างโอกาสทำให้ผู้อ่านโฆษณากลายเป็นลูกค้าจริงในอนาคต อีกทั้งยังเป็นข้อความที่ช่วยกระตุ้นให้เกิด Conversation ระหว่างผู้อ่านและเพจ

เทคนิคที่ 6 พูดถึง Pain Point ของลูกค้า

เทคนิคยอดนิยมในปัจจุบันด้วยการเอาปัญหาที่มีอยู่ในชีวิตจริงของกลุ่มเป้าหมายมาใส่ใน Headline เพื่อสื่อถึงการใช้เหตุผลและกระตุ้นให้ผู้อ่านอยากรู้เกี่ยวกับแคมเปญมากขึ้น

นอกจากเทคนิคการเขียนพาดหัวโฆษณา Facebook ให้น่าสนใจแล้วยังมีข้อควรระวังที่คุณควรรู้ไว้ก่อนสร้างแคมเปญ Facebook Ads เพื่อหลีกเลี่ยงการสื่อสารในรูปแบบที่อาจทำให้ผู้อ่านรู้สึกไปในทิศทางลบกับเพจ

ข้อควรระวังในการเขียน Headline Facebook Ads

เนื้อหาไม่เชื่อมกับ Landing Page ที่ผู้อ่านจะได้เจอหลังคลิกปุ่ม CTA อย่างที่บอกในข้างต้นว่าประโยค Headline จะอยู่ด้านหน้า CTA ดังนั้นจึงควรใช้ข้อความเป็นคำแนะนำว่าผู้อ่านจะได้เจออะไรในต่อไป
ไม่ควรมีเนื้อหาซ้ำกับแคปชันหรือ Primary Text ในตำแหน่งด้านบนของสื่อโฆษณา เพราะผู้อ่านบางคนเลือกอ่านข้อความด้านบนก่อนดูสื่อหรือ Headline ดังนั้นหากข้อความซ้ำกันอาจทำให้ผู้อ่านรู้สึกถึงความซ้ำซ้อน ดูน่าเบื่อ
ไม่ควรใช้ข้อมูลเท็จหรือเกินจริง แน่นอนว่าทุกคนล้วนอยากใช้คำที่สามารถกระตุ้นให้คนสนใจโฆษณาได้มากที่สุด แต่ควรตระหนักเสมอว่าต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงเช่นกัน เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของเพจหรือแบรนด์ในอนาคต

จากเทคนิคและข้อควรระวังในการเขียน Headline ถือเป็นเพียงหนึ่งในองค์ประกอบของการสร้าง Facebook เท่านั้น ยังมีรูปแบบโฆษณา หลักการทำงาน รวมถึงเทคนิคบริหารงบประมาณในการยิงโฆษณาหัวใจสำคัญของ Facebook หากอยากรู้เทคนิคเพิ่มเติมติดตามความรู้ได้ที่ cotactic

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

databox.com

www.jasper.ai