สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์
คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก
x
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย wawacalyn เมื่อ 2024-12-11 16:13
การฉ้อโกงกับการฉ้อโกงประชาชนแตกต่างกันอย่างไรในทางกฎหมาย
การกระทำความผิดฐาน ฉ้อโกง กับ ฉ้อโกงประชาชน เป็นความผิดทางอาญาที่กฎหมายได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนในประมวลกฎหมายอาญาของประเทศไทย ทั้งสองกรณีนี้มีลักษณะสำคัญคือการหลอกลวง แต่มีความแตกต่างกันในเชิงกฎหมาย โดยเฉพาะในด้านวิธีการกระทำและกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบ เพื่อทำความเข้าใจในรายละเอียดและความแตกต่างของความผิดทั้งสองประเภทนี้ เราจำเป็นต้องศึกษาและทำความเข้าใจถึงองค์ประกอบและบทลงโทษที่กฎหมายกำหนดไว้
การฉ้อโกงกับการฉ้อโกงประชาชน แตกต่างกันอย่างไรในทางกฎหมาย
การฉ้อโกงกับการฉ้อโกงประชาชน แตกต่างกันอย่างไรในทางกฎหมาย
การฉ้อโกง (มาตรา 341)การฉ้อโกงในทางกฎหมายหมายถึง การที่ผู้กระทำมีเจตนาทุจริตโดยการแสดงข้อความเท็จ หรือการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้ชัดเจน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหลอกลวงให้ผู้อื่นหลงเชื่อ และกระทำการหรือไม่กระทำการที่ส่งผลให้เกิดความสูญเสียแก่ผู้อื่น การฉ้อโกงนี้ถือเป็นความผิดอาญาที่มีบทลงโทษเฉพาะ และในกรณีที่ผู้กระทำผิดยินดีชดใช้หรือคืนทรัพย์สินก็สามารถยุติการฟ้องร้องด้วยการยอมความได้
ตัวอย่างของการฉ้อโกง เช่น การขายสินค้าที่โฆษณาคุณภาพเกินจริงเพื่อจูงใจให้ผู้ซื้อสนใจซื้อ หรือการกู้เงินโดยอ้างถึงเหตุผลเท็จเพื่อให้ผู้ให้กู้หลงเชื่อในการให้เงินกู้ เป็นต้น
การฉ้อโกงประชาชน (มาตรา 343)การฉ้อโกงประชาชนมีลักษณะคล้ายกับการฉ้อโกง แต่มีลักษณะที่รุนแรงกว่าเพราะการกระทำความผิดนี้มีเป้าหมายเพื่อหลอกลวง "ประชาชนทั่วไป" ไม่ใช่เฉพาะบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เช่น การโฆษณาที่เผยแพร่ในสื่อสาธารณะเพื่อให้คนจำนวนมากหลงเชื่อและได้รับผลกระทบ กฎหมายจึงกำหนดบทลงโทษให้หนักกว่าความผิดฐานฉ้อโกงทั่วไป
ตัวอย่างของการฉ้อโกงประชาชน เช่น การเปิดแชร์ลูกโซ่โดยอ้างผลตอบแทนสูงเพื่อชักชวนให้คนมาร่วมลงทุน การโฆษณาขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ตที่ไม่มีสินค้าจริง และการระดมทุนออนไลน์ที่ใช้วิธีการหลอกลวงประชาชนโดยอ้างความสำคัญและผลประโยชน์เกินจริง
ความผิดฐานฉ้อโกงกับฉ้อโกงประชาชนในทางกฎหมาย มีโทษอย่างไรในประมวลกฎหมายอาญา กำหนดบทลงโทษของความผิดฐานฉ้อโกงและการฉ้อโกงประชาชนไว้แตกต่างกัน ดังนี้: 1. โทษสำหรับการฉ้อโกง (มาตรา 341) การกระทำความผิดฐานฉ้อโกงจะมีโทษ จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความผิดฐานฉ้อโกงนี้เป็นความผิดที่สามารถยอมความได้ หมายความว่า หากผู้เสียหายยินดีที่จะเจรจาตกลงและผู้กระทำผิดยอมชดใช้ค่าเสียหายหรือคืนทรัพย์สิน การดำเนินคดีอาจหยุดได้ด้วยการยอมความ การกำหนดบทลงโทษที่ไม่รุนแรงเกินไปเพราะพิจารณาว่าความเสียหายเกิดขึ้นกับบุคคลหนึ่งหรือกลุ่มบุคคลที่มีจำนวนไม่มาก 2. โทษสำหรับการฉ้อโกงประชาชน (มาตรา 343) การฉ้อโกงประชาชนจะมีโทษที่หนักกว่าการฉ้อโกงธรรมดา โดยกำหนดโทษ จำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 10 ปี และ ปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาท ถึงสองแสนบาท ซึ่งการฉ้อโกงประชาชนถือเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ไม่สามารถยอมความได้ แม้ผู้กระทำผิดจะยินดีชดใช้หรือคืนทรัพย์สินที่ได้รับจากการฉ้อโกง กระบวนการทางกฎหมายยังคงต้องดำเนินไปตามหลักเกณฑ์ของการฟ้องร้องทางอาญา ทั้งนี้เพราะการฉ้อโกงประชาชนถือว่ามีผลกระทบในวงกว้างและส่งผลเสียหายแก่สังคมในภาพรวม
ความแตกต่างหลักระหว่าง ฉ้อโกง กับ ฉ้อโกงประชาชน คือกลุ่มเป้าหมายและระดับของผลกระทบ การฉ้อโกงมีเป้าหมายในการหลอกลวงบุคคลเฉพาะและมีความเสียหายในขอบเขตที่จำกัด สามารถยอมความได้ ในขณะที่การฉ้อโกงประชาชนมุ่งเน้นที่กลุ่มประชาชนทั่วไปและมีผลกระทบในวงกว้างมากกว่า กฎหมายจึงกำหนดบทลงโทษที่รุนแรงกว่าเพื่อคุ้มครองสาธารณชนจากการหลอกลวง
ติดต่อสำนักงานกฎหมายสรศักย์และที่ปรึกษาสากล
ติดต่อสำนักงานกฎหมายสรศักย์และที่ปรึกษาสากล
สำนักงานทนายความสรศักย์ ได้เปิดให้บริการด้านกฎหมายมาตั้งแต่ พ.ศ. 2546 อีกทั้งยังมีประสบการณ์และได้รับความเชื่อถือการให้บริการด้านกฎหมายของประเทศไทย ซึ่งมีการให้บริการ ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ เรามีการบริการทางด้านกฎหมายหลายด้านให้แก่ลูกค้าและครบวงจร (One Stop Legal Sevice) โดยทางเราให้บริการช่วยเหลือธุรกิจของท่าน ในด้านรับจดทะเบียนบริษัท เช่น การจดทะเบียนบริษัท, การจดทะเบียนนิติบุคคล, หรือ การขออนุญาตประกอบกิจการ อีกทั้ง สำนักงานทนายความสรศักย์ เป็นที่ปรึกษากฎหมายธุรกิจชั้นนำที่ให้บริการด้านเอกสารบริษัทอย่างครบวงจรและครอบคลุมทุกมิติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการลงทะเบียนบริษัท การจัดการกฎหมายภายในองค์กร การแก้ไขข้อพิพาท และการป้องกันปัญหาทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นกับธุรกิจ ด้วยทีมทนายความมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญทั้งในด้านกฎหมายแพ่งและกฎหมายคดีอาญา สำนักงานทนายความสรศักย์ พร้อมให้คำปรึกษา และการสนับสนุนทางกฎหมายอย่างเต็มรูปแบบเพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตและเฟื่องฟูอย่างยั่งยืน เรามีความพร้อม ความมุ่งมั่น ในการบริการด้านกฎหมายของประเทศไทย แก่ลูกค้าทุกคนโดยมืออาชีพ ติดต่อที่ปรึกษากฎหมาย บริษัท สำนักงานกฎหมายสรศักย์และที่ปรึกษาสากล จำกัด 49/78 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 40 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 10700 โทร: 081-692-2428, 094-879-5865
|