สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์
คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก
x
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย wawacalyn เมื่อ 2024-11-29 10:54
Trigger-Point
หลายคนอาจเคยมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหรืออาการตึงที่ไม่หายขาด แม้จะได้รับการนวดหรือยืดกล้ามเนื้อแล้วก็ตาม สิ่งนี้อาจเกิดจาก "จุดกดเจ็บ" หรือที่เรียกว่า Trigger Point ซึ่งเป็นจุดเล็ก ๆ ในกล้ามเนื้อที่เกิดการหดเกร็งและสร้างความเจ็บปวด อาการปวดจาก Trigger Point ไม่เพียงแค่ทำให้กล้ามเนื้อเจ็บเมื่อสัมผัส แต่ยังส่งผลให้เกิดอาการปวดที่แผ่ออกไปบริเวณอื่นๆ ของร่างกาย Trigger Point จึงมีบทบาทสำคัญในการรักษาและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ และการทำความเข้าใจเกี่ยวกับจุดกดเจ็บนี้จะช่วยให้สามารถจัดการอาการปวดเมื่อยได้ดีขึ้น
จุดกดเจ็บ หรือ Trigger Point คืออะไร?
Trigger-Point1
Trigger Point คือ จุดที่กล้ามเนื้อมีการหดตัวแบบคงที่จนเกิดเป็น "ก้อนเล็ก ๆ" ซึ่งเป็นจุดที่ไวต่อการสัมผัสหรือกด และมักจะรู้สึกเจ็บเมื่อโดนกดจุดนี้ จุดกดเจ็บในกล้ามเนื้อสามารถส่งผลให้เกิดความเจ็บปวดและอาการเมื่อยล้าที่แผ่กระจายไปยังพื้นที่รอบๆ และในบางครั้งอาจทำให้มีอาการปวดที่ไปยังส่วนอื่นของร่างกาย (referred pain) ตัวอย่างเช่น จุด Trigger Point บริเวณคออาจส่งผลให้เกิดอาการปวดที่ไหล่หรือศีรษะ
ลักษณะของ Trigger Point คือ การเกร็งตัวของเส้นใยกล้ามเนื้อในบริเวณหนึ่ง ๆ ซึ่งเกิดจากการใช้งานกล้ามเนื้ออย่างหนักหรือการเคลื่อนไหวที่ไม่เหมาะสม เช่น การนั่งทำงานในท่าที่ไม่ถูกต้อง การทำกิจกรรมซ้ำ ๆ หรือนอนผิดท่า เมื่อกล้ามเนื้อเกร็งตัวและไม่ได้รับการยืดหยุ่นอย่างเหมาะสม จะส่งผลให้เกิดการสะสมของเสียในกล้ามเนื้อและการขาดออกซิเจน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของ Trigger Point ทำให้เกิดความเจ็บปวดและอาการเมื่อยล้าในกล้ามเนื้อ
Trigger Point ทำไมจึงสำคัญต่อการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ?
Trigger-Point2
Trigger Point มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการฟื้นฟูและรักษากล้ามเนื้อ เนื่องจากการระบุและรักษาจุดกดเจ็บสามารถช่วยลดอาการปวดและเพิ่มการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อได้ ซึ่งมีหลายเหตุผลที่อธิบายถึงความสำคัญของ Trigger Point ต่อการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ดังนี้
1. ช่วยบรรเทาอาการปวดในกล้ามเนื้อและบริเวณที่แผ่ไป การรักษา Trigger Point โดยการกดหรือการนวดเป็นการคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อที่หดเกร็งอยู่ ช่วยให้กล้ามเนื้อสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งการลดอาการปวดในจุดที่แผ่ไปทำให้เราสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้โดยไม่รู้สึกไม่สบาย
2. เพิ่มความยืดหยุ่นและการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ Trigger Point ที่ไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้เกิดการตึงตัวของกล้ามเนื้อที่มากเกินไป การคลายจุด Trigger Point ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อและข้อต่อ ทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น การฟื้นฟูความยืดหยุ่นนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บจากการเคลื่อนไหวที่ผิดวิธี
3. ฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่ถูกใช้งานหนัก Trigger Point มักเกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อถูกใช้งานหนักหรือทำงานซ้ำ ๆ โดยที่ไม่ได้พักหรือยืดหยุ่นเท่าที่ควร การดูแลและฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่ถูกใช้งานหนักผ่านการรักษาจุดกดเจ็บช่วยให้กล้ามเนื้อสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และพร้อมสำหรับการใช้งานอย่างต่อเนื่องโดยไม่เสี่ยงต่อการเกิดอาการเรื้อรัง
4. ช่วยป้องกันการเกิดกล้ามเนื้อเจ็บเรื้อรัง หากปล่อยให้ Trigger Point อยู่ในกล้ามเนื้อโดยไม่ดูแลรักษา อาจทำให้เกิดอาการเจ็บปวดแบบเรื้อรังและกลายเป็นปัญหาที่รุนแรงขึ้น เช่น อาการปวดหลัง ปวดคอ หรือปวดตามข้อที่ไม่สามารถฟื้นฟูได้ง่าย การรักษา Trigger Point จึงเป็นการป้องกันการสะสมความเครียดในกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวดเมื่อยเรื้อรังในระยะยาว
5. เสริมสร้างสมดุลและการทำงานที่เหมาะสมของกล้ามเนื้อ การที่กล้ามเนื้อบางส่วนเกร็งตัวเนื่องจาก Trigger Point จะส่งผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อรอบข้างที่ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อชดเชยการทำงานของกล้ามเนื้อที่มีปัญหา การคลาย Trigger Point ทำให้กล้ามเนื้อสามารถกลับมาทำงานร่วมกันได้อย่างสมดุล ช่วยให้ระบบกล้ามเนื้อและกระดูกข้อต่อทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
จุดกดเจ็บหรือ Trigger Point เป็นจุดที่กล้ามเนื้อเกิดการหดเกร็งและส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยที่อาจแผ่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย การทำความเข้าใจและรักษาจุดกดเจ็บนี้มีความสำคัญในการบรรเทาอาการปวด เพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ ฟื้นฟูการทำงานที่สมดุลของกล้ามเนื้อ และป้องกันไม่ให้อาการปวดเมื่อยกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง การดูแล Trigger Point อย่างถูกวิธีจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการดูแลสุขภาพกล้ามเนื้อและส่งเสริมการเคลื่อนไหวของร่างกาย
Trigger-Point3
สัมผัสประสบการณ์ Blumed บลู เมดิแคร์ เจเเปน (Blue Medicare Japan) หรือ BluMed ดำเนินการโดย บริษัท บลู แอสซิสแท็นซ จำกัด ก่อตั้งขึ้นภายใต้แนวคิดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการจัดการท่องเที่ยวเพื่อมุ่งเน้นในการป้องกันการดูแลสุขภาพ ชะลอการเจ็บป่วย รวมไปถึงการรักษาโรคแก่ผู้รับบริการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
BluMed ได้ร่วมมือกับคลินิกทางการแพทย์ที่ญี่ปุ่น ในการให้คำปรึกษาและจัดการความเจ็บปวดอย่างเหมาะสม ตามอาการของแต่ละบุคคล สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ : 02-661-7686
|